เขาเทรดผลงานดีขึ้นผิดหูผิดตาเพราะ เปลี่ยนจาก “โฟกัสตลาด” เป็น "โฟกัส คณิตศาสตร์ และสถิติของการเทรด"
- Get link
- X
- Other Apps
Peter Brandt เป็นเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จมาก และในปี 2014 เขาเปลี่ยนแนวคิดเกี่ยวกับการเทรดไปอย่างสิ้นเชิง จากเดิมที่เน้นไปที่ "ตลาด" (Market) เป็นหลัก เขาหันมาโฟกัสที่ "คณิตศาสตร์และสถิติของการเทรด" (Math/Stats of Trading) ซึ่งเป็นตัวกำหนดผลลัพธ์ที่แท้จริง
1. เปลี่ยนโฟกัสจาก "ตลาด" ไปสู่ "สถิติ" ของการเทรด
เทรดเดอร์มือใหม่มักจะพยายามทำนายตลาดว่ามันจะขึ้นหรือลง แต่ Peter Brandt บอกว่า
จริง ๆ แล้วการพยายามทำนายตลาดเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ สิ่งที่เราควบคุมได้คือ "ตัวเลขและสถิติ" ที่อยู่เบื้องหลังระบบเทรดของเรา
2. กฎของ Peter Brandt สำหรับการบริหารความเสี่ยง
Brandt ไม่ได้ใช้กลยุทธ์ซับซ้อน แต่เขาให้ความสำคัญกับ "การควบคุมตัวเลขทางสถิติของการเทรด" โดยเขามีหลักเกณฑ์สำคัญดังนี้:
✅ (1) หลีกเลี่ยงช่วงที่มีอัตราชนะมากเกินไป (>50%)
- ฟังดูขัดแย้ง แต่ Brandt หมายถึงว่าถ้าเราเข้าใจสถิติของระบบการเทรดของตัวเองดีพอ จะรู้ว่าช่วงที่เราชนะติดกันมากเกินไปอาจทำให้เราประมาท และเพิ่มขนาดการเทรดมากเกินไป ซึ่งอาจนำไปสู่การขาดทุนหนักในภายหลัง
✅ (2) จำกัดขนาดการขาดทุนในแต่ละการเทรด
- ขาดทุนเฉลี่ยต่อเทรดต้องไม่เกิน 20 basis points (BPs)
(1 BP = 0.01% ของพอร์ต)
หมายความว่า เขาพยายามให้ขนาดของการขาดทุนในแต่ละไม้ไม่เกิน 0.2% ของพอร์ต
→ ตัวอย่าง: ถ้าพอร์ตมีขนาด $100,000 การขาดทุนเฉลี่ยต่อไม้ต้องไม่เกิน $200
- ถ้าเปิด 2 ไม้ (tranche) ในการเทรดเดียวกัน การขาดทุนรวมกันต้องไม่เกิน 60 BPs
→ ตัวอย่าง: ถ้าเปิด 2 ไม้ต่อการเทรดเดียวกัน ขาดทุนรวมกันต้องไม่เกิน 0.6% ของพอร์ต
Position Sizing กับพัฒนาการนักเทรด 3 ระดับ... ในรูปแบบ ebook โดย เซียว จับอิดนึ้ง
https://www.mebmarket.com/?action=book_details&book_id=312087
✅ (3) ต้องมีการเทรดที่กำไรเยอะพอ
- 15% ของการเทรดทั้งหมดต้องมีกำไรเฉลี่ยมากกว่า 60 BPs
หมายความว่า แม้จะมีการขาดทุนเล็ก ๆ อยู่บ้าง แต่ต้องมีการเทรดที่มีกำไรใหญ่มากพอที่จะทดแทนขาดทุน และดึงค่าเฉลี่ยกำไรขึ้นมาได้
→ ตัวอย่าง: ถ้าพอร์ตมีขนาด $100,000 เทรดที่ทำกำไรสูงควรทำได้มากกว่า $600 ต่อการเทรด
3. เป้าหมายหลักคือ "Profit Factor" ไม่ใช่ Return on Risk (ROR)
Brandt ไม่ได้ตั้งเป้าหมายไปที่ อัตราผลตอบแทน (ROR) โดยตรง แต่เขาให้ความสำคัญกับ Profit Factor (อัตราส่วนกำไรต่อขาดทุน)
Profit Factor = กำไรรวม ÷ ขาดทุนรวม
ถ้า Profit Factor สูงกว่า 1.5 หรือ 2 หมายความว่าระบบเทรดมีประสิทธิภาพดี
- Get link
- X
- Other Apps