ยืดหยุ่นและปรับตัวได้ตลอดเวลา คือคุณลักษณะของยอดนักเทรด
- Get link
- X
- Other Apps
Mark Minervini เป็นนักลงทุนและเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งเน้นแนวทางการเทรดที่ยืดหยุ่นและปรับตัวได้ตลอดเวลา คำพูดของเขาที่ว่า:
"การเป็นนักเทรดหุ้น หมายถึงการเปลี่ยนความเห็น การตัดสินใจ และตำแหน่งการลงทุนของคุณได้อย่างอิสระ เมื่อเงื่อนไขของตลาดเปลี่ยนแปลงไป บางคนเรียกสิ่งนี้ว่าการกลับกลอกและมองว่าเป็นความอ่อนแอ ขณะที่บางคนใช้มันสร้างกำไรหลักล้านและลดความเสี่ยงจากการเก็งกำไร การที่คุณไม่ใช้ข้อได้เปรียบของสภาพคล่องที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ทันที นอกจากจะเป็นเรื่องที่โง่เขลาแล้ว ยังทำให้คุณกลายเป็นนักพนัน ไม่ใช่นักลงทุน"
1. การเปลี่ยนแปลงความเห็นไม่ใช่ความอ่อนแอ แต่เป็นกลยุทธ์ของผู้ชนะ
หลายคนเชื่อว่าการยืนหยัดในมุมมองของตัวเองเป็นเรื่องดี แต่ในตลาดหุ้น นั่นอาจเป็นหายนะได้ ถ้าคุณปักใจเชื่อว่า “หุ้นตัวนี้ต้องขึ้นแน่” แล้วตลาดกลับตัวลง คุณจะทำอย่างไร? ถ้าคุณไม่ยอมรับความจริงและยังคงถือหุ้นไว้โดยหวังว่ามันจะกลับขึ้นมา คุณอาจขาดทุนหนัก
Mark Minervini ชี้ให้เห็นว่า "การเปลี่ยนแปลงความเห็นและกลยุทธ์ตามสภาพตลาดเป็นเรื่องสำคัญ" นักเทรดมืออาชีพไม่ได้มีทิฐิ พวกเขายอมรับว่าตลาดเป็นผู้ตัดสินสุดท้าย และพร้อมปรับตัวเสมอ
> เปรียบเทียบกับนักเดินทาง:
> หากคุณขับรถไปยังจุดหมาย แต่พบว่ามีถนนปิดกั้น คุณจะดื้อรั้นฝ่าฟันไปจนติดแหง็ก หรือจะเลือกเปลี่ยนเส้นทางเพื่อไปถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น?
---
2. "Flip-flopping" กับ "ความยืดหยุ่น" ต่างกันอย่างไร?
บางคนอาจมองว่าการเปลี่ยนแปลงแผนบ่อย ๆ เป็นความอ่อนแอ หรือเรียกว่าการ “กลับกลอก” (Flip-flopping) แต่สำหรับนักเทรดมืออาชีพ นี่คือ "ความยืดหยุ่น" (Flexibility) ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นมาก
ความแตกต่างคือ:
- "Flip-flopping" (กลับกลอก) – เปลี่ยนไปมาแบบไร้เหตุผล ขาดหลักการ
- "Flexibility" (ความยืดหยุ่น) – เปลี่ยนแปลงเพราะมีข้อมูลใหม่ที่ชัดเจนและสมเหตุสมผล
นักเทรดที่ดีจะเปลี่ยนใจเมื่อเงื่อนไขเปลี่ยนไป ไม่ใช่เพราะอารมณ์หรือความกลัว แต่เพราะการวิเคราะห์ใหม่บ่งชี้ว่าต้องปรับกลยุทธ์
---
3. สภาพคล่องคือข้อได้เปรียบที่คุณต้องใช้
ตลาดหุ้นให้ข้อได้เปรียบอย่างหนึ่งที่ธุรกิจทั่วไปไม่มี นั่นคือ "สภาพคล่องสูง" หมายความว่าเราสามารถซื้อขายหุ้นได้ทันที ไม่เหมือนกับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หรือธุรกิจที่ต้องใช้เวลาในการขายหรือถอนตัว
ตัวอย่าง:
ลองนึกภาพว่าคุณซื้อบ้านแล้วพบว่ามันมีปัญหาทางกฎหมาย จะขายทิ้งทันทีคงเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าคุณซื้อหุ้นที่เริ่มมีสัญญาณขาลง คุณสามารถขายออกภายในไม่กี่วินาทีได้เลย
Minervini ชี้ว่า หากคุณไม่ใช้ข้อได้เปรียบนี้ให้เกิดประโยชน์ คุณจะกลายเป็น “นักพนัน” มากกว่านักลงทุน เพราะ:
- นักพนัน เดิมพันโดยหวังโชคช่วย ถือหุ้นที่ขาดทุนโดยไม่ยอมขาย เพราะ "อาจจะกลับมา"
- นักเทรดมืออาชีพ ตัดขาดทุนเมื่อแผนไม่เป็นไปตามที่คาด ปรับพอร์ตใหม่ให้เหมาะสมกับตลาด
---
4. อย่าเป็นนักพนัน จงเป็นนักลงทุนที่มีวินัย
ความแตกต่างระหว่างนักพนันและนักลงทุนคือ "การควบคุมความเสี่ยง"
- นักพนัน: หวังว่าโชคจะเข้าข้าง
- นักลงทุน: มีแผนรับมือเมื่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลง
หลักการสำคัญ:
"จงซื้อหุ้นเมื่อเงื่อนไขเอื้ออำนวย และขายออกเมื่อเงื่อนไขเปลี่ยนแปลง"
นักเทรดมือใหม่หลายคนเสียเงินเพราะไม่กล้าเปลี่ยนแผน บางคนซื้อหุ้นแล้วไม่กล้าขายแม้ราคาจะตกลงเรื่อย ๆ เพราะกลัวขาดทุน นี่คือ “การพนัน” แต่ถ้าคุณมีวินัย ตัดขาดทุนเร็ว และเปลี่ยนแผนเมื่อจำเป็น คุณจะสามารถอยู่รอดในตลาดได้นานขึ้น
---
สรุปแนวคิดของ Mark Minervini สำหรับนักเทรดมือใหม่
1. อย่ายึดติดกับมุมมองเดิม ถ้าตลาดเปลี่ยน คุณต้องเปลี่ยนตาม
2. การเปลี่ยนใจไม่ใช่ความอ่อนแอ แต่มันคือความยืดหยุ่น
3. ใช้ข้อได้เปรียบของสภาพคล่องในการจัดการความเสี่ยง
4. อย่าเป็นนักพนันที่คาดหวังโชคช่วย จงเป็นนักเทรดที่มีแผนและวินัย
---
หลักปฏิบัติสำหรับมือใหม่
- ก่อนเข้าซื้อหุ้น ให้กำหนดจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) ไว้เสมอ
- ถ้าหุ้นไปผิดทาง ให้ขายออก อย่าถือเพราะ "หวังว่า" จะกลับขึ้นมา
- อย่าเทรดโดยใช้อารมณ์ ให้ใช้ข้อมูลและหลักการ
- ฝึกฝนการเป็นนักเทรดที่ยืดหยุ่น ปรับตัวได้เร็วตามสถานการณ์ตลาด
---
การเทรดไม่ใช่เรื่องของการ "เดาถูก" แต่เป็นเรื่องของการ "ปรับตัวและจัดการความเสี่ยง" ถ้าคุณเข้าใจแนวคิดนี้และนำไปใช้ คุณจะอยู่ในเกมได้นานขึ้น และมีโอกาสสร้างกำไรอย่างยั่งยืน
- Get link
- X
- Other Apps