ถ้ายังไม่เห็นความสำเร็จหลังจากเทรดมา 2 ปี ลองทำสิ่งที่ตรงข้ามดู
- Get link
- X
- Other Apps
"ถ้ายังไม่เห็นความสำเร็จหลังจากเทรดมา 2 ปี ลองทำสิ่งที่ตรงข้ามดู"
แปลจาก https://x.com/TraderDivergent/status/1871570528097435869?t=Ly5PXatJPzDOo-IeKz6AbQ&s=19
สำหรับนักเทรดที่ยังไม่ประสบความสำเร็จในตลาด แม้จะพยายามมาหลายปี บางทีคำตอบอาจอยู่ที่การเปลี่ยนแปลงแนวทางการเทรดของคุณอย่างสิ้นเชิง ลองทำสิ่งที่ตรงข้ามกับสิ่งที่คุณเคยทำ แล้วคุณอาจค้นพบวิธีที่เหมาะกับตัวเอง
Trader’s Journey: กว่าจะสำเร็จ...นักเทรดต้องเจออะไรบ้าง? มีจำหน่ายเป็นอีบุ๊กที่ https://www.mebmarket.com/?action=book_details&book_id=270047
แนวทาง "ทำสิ่งตรงข้าม" สำหรับนักเทรดมือใหม่
1. ถ้าฟอเร็กซ์ไม่ใช่คำตอบ (FX not working? Move to indices)
สิ่งที่อาจเกิดขึ้น: คุณอาจเจอความผันผวนสูงในฟอเร็กซ์ และวางแผนได้ยาก
เปลี่ยนไปที่ดัชนี (Indices):ลองศึกษาและเทรดในตลาดดัชนี เช่น S&P 500 หรือ NASDAQ ที่มีแนวโน้มที่ชัดเจนกว่า เหมาะสำหรับการวางแผนในระยะยาวหรือกลาง
ระบบเทรดและการเทรดตามระบบ เบื้องต้นสำหรับมือใหม่... ในรูปแบบ ebook โดย เซียว จับอิดนึ้ง https://www.mebmarket.com/?action=book_details&book_id=334986
2. ถ้าการเทรดกลับตัวไม่เวิร์ก (Reversals not working? Try a trend system)
สิ่งที่อาจเกิดขึ้น: การจับจังหวะกลับตัวของราคา (Reversals) อาจทำให้คุณเสียเงินเพราะตลาดยังไม่เปลี่ยนแนวโน้มจริง
ลองเปลี่ยนเป็นการตามแนวโน้ม (Trend Following):เทรดไปตามทิศทางของแนวโน้ม เช่น ซื้อเมื่อราคาขึ้น หรือขายเมื่อราคาลง วิธีนี้ลดโอกาสการโดน "ผิดทาง"
3. ถ้าการตัดสินใจเองไม่ดี (Discretionary not working? Go mechanical)
สิ่งที่อาจเกิดขึ้น: การตัดสินใจด้วยความรู้สึกหรือประสบการณ์ (Discretionary) อาจทำให้คุณเกิดข้อผิดพลาดเพราะอารมณ์
ลองใช้ระบบกลไก (Mechanical Trading): ตั้งกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน เช่น ซื้อเมื่อ EMA ตัดขึ้น หรือขายเมื่อ RSI เข้าเขต Overbought แล้วปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด
4. ถ้าคุณ sabotaging ตัวเอง (Self-Sabotaging? Focus more on psychology)
สิ่งที่อาจเกิดขึ้น: คุณอาจเสียเงินเพราะความกลัว ความโลภ หรือขาดวินัย
โฟกัสที่จิตวิทยาการเทรด (Trading Psychology):
อ่านหนังสือหรือฝึกฝนการควบคุมอารมณ์ เช่น "Trading in the Zone" โดย Mark Douglas และฝึกให้ตัวเองอยู่กับแผนเสมอ
---
เริ่มต้นทีละอย่าง (Start with 1 thing at a time)
อย่าพยายามเปลี่ยนแปลงทุกอย่างพร้อมกัน เพราะจะทำให้คุณสับสนและยากที่จะวัดผล
ลองเลือก 1 อย่าง เช่น เปลี่ยนจากการเทรดฟอเร็กซ์ไปเทรดดัชนี แล้วดูผลลัพธ์
หากพบว่าวิธีนั้นเหมาะสม ค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนวิธีการอื่นทีละขั้นตอน
---
ปฏิบัติอย่างนักทดลอง (Treat it like an experiment)
1. มองการเทรดเป็นการทดลอง:
คิดเหมือนนักวิทยาศาสตร์ที่ทดสอบสมมติฐาน วัดผล และปรับปรุง
ตัวอย่าง:ถ้าการใช้ EMA ไม่ได้ผล ลองเปลี่ยนไปใช้ MACD หรือ RSI
จดบันทึกการเปลี่ยนแปลงและผลลัพธ์ทุกครั้ง
2. ไม่ใช่แผนรวยทางลัด:
การเทรดเป็นการเดินทางระยะยาว การเร่งรีบจะนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาดและสูญเสียเงินทุน
---
ข้อดีของการเปลี่ยนแปลงแนวทาง
1) เพิ่มโอกาสค้นพบสิ่งที่เหมาะกับตัวเอง:ไม่ใช่ทุกคนจะเทรดแบบเดียวกันแล้วสำเร็จ การเปลี่ยนวิธีช่วยให้คุณค้นหาแนวทางที่เหมาะกับคุณ
2) ลดข้อผิดพลาดเดิม ๆ:การลองสิ่งที่ตรงข้ามกับสิ่งที่คุณเคยทำ อาจช่วยให้คุณเลี่ยงปัญหาที่เจอมาตลอด
3) พัฒนาทักษะและความยืดหยุ่น:คุณจะได้เรียนรู้มุมมองใหม่ ๆ และสามารถปรับตัวได้ในสถานการณ์ต่าง ๆ
---
บทสรุป
ถ้าคุณยังไม่ประสบความสำเร็จในการเทรด ลองเปลี่ยนแนวทางไปในสิ่งที่ตรงข้ามกับที่เคยทำ แต่ปรับทีละอย่าง อย่าเร่งรัด และมองทุกอย่างเป็นการทดลองเพื่อพัฒนาตัวเอง เมื่อคุณเจอสิ่งที่ได้ผล คุณจะค่อย ๆ สร้างระบบที่เหมาะสมและก้าวสู่ความสำเร็จในที่สุด
"การเปลี่ยนแปลงอาจเป็นคำตอบของปัญหาเดิมที่คุณมองข้าม"
- Get link
- X
- Other Apps