ไม่มีใครแคร์ความฝันของคุณหรอก

Image
  ไม่มีใครสนใจคุณหรอก! มุ่งมั่นทำสิ่งที่คุณฝันให้เต็มที่ "You aren't afraid of failure. You're afraid of what other people will think of you if you fail. Well, no one is thinking about you. They're too busy thinking about themselves. So go do the damn thing."   คุณไม่ได้กลัวความล้มเหลว แต่คุณกลัวว่าคนอื่นจะคิดยังไงกับคุณถ้าคุณล้มเหลว เอาเข้าจริงแล้ว ไม่มีใครสนใจคุณหรอก พวกเขายุ่งกับการคิดถึงตัวเองกันอยู่ ดังนั้น ไปทำมันซะเถอะ   --- หลายครั้งที่เรากลัวที่จะลงมือทำอะไรบางอย่าง ไม่ใช่เพราะเรากลัวความล้มเหลวจริงๆ แต่เพราะเรากลัวว่า "คนอื่นจะคิดยังไงกับเรา" ถ้าเราล้มเหลว เรากลัวว่าจะถูกมองว่าไม่เก่ง กลัวจะถูกหัวเราะเยาะ หรือกลัวจะถูกนินทา   แต่ข้อความในภาพนี้กำลังบอกเราว่า "ไม่มีใครสนใจคุณขนาดนั้นหรอก" เพราะในความเป็นจริง ทุกคนต่างก็มีเรื่องของตัวเองให้คิด ไม่มีใครมานั่งจดจ่อวิเคราะห์ชีวิตคุณตลอดเวลา   ลองนึกดูว่าตัวคุณเองในแต่ละวัน คุณคิดถึงเรื่องของตัวเองมากกว่าคนอื่นแค่ไหน? คนอื่นก็เป็นแบบเดียวกัน พวกเขาอาจจะเห็นคุณแค่ชั่วครู่ แล้วก็กลับไปสนใจเ...

การบริหารความเสี่ยง: ไม่ใช่แค่การตั้ง Stop Loss แบบเดาสุ่ม

การบริหารความเสี่ยง: ไม่ใช่แค่การตั้ง Stop Loss แบบเดาสุ่ม

แปลจาก https://x.com/NickSchmidt_/status/1870997680513544635?t=v5ED4IJCHVAJTwaAGY3IqQ&s=19

หลายคนเข้าใจผิดว่า การตั้ง Stop Loss เป็นเพียงการกำหนดเปอร์เซ็นต์ขาดทุนแบบสุ่มเพื่อป้องกันความเสียหาย แต่ความจริงแล้ว การตั้ง Stop Loss ที่ถูกต้องต้องมีเหตุผลที่สอดคล้องกับโครงสร้างและแผนการเทรดของคุณ



eBook "Risk Management: การบริหารจัดการความเสี่ยงเบื้องต้นสำหรับนักเทรด" มีจำหน่ายที่แอพ Meb เท่านั้น https://www.mebmarket.com/?action=book_details&book_id=332340


สิ่งที่นักเทรดมือใหม่ควรรู้เกี่ยวกับ Stop Loss

1. Stop Loss ควรมีเหตุผล ไม่ใช่แค่เปอร์เซ็นต

ตัวอย่าง: คุณอาจใช้กฎ 7% เป็นขีดจำกัดการขาดทุน แต่ไม่ใช่ว่าแค่ซื้อหุ้นแล้วตั้ง Stop Loss ไว้ที่ 7% โดยไม่มีการพิจารณาโครงสร้างของหุ้น นั่นไม่ใช่การบริหารความเสี่ยงที่ดี

2. Stop Loss ต้องเข้ากับลักษณะของการเทรด

หุ้นที่ยังแข็งแรง: บางครั้งหุ้นอาจปรับฐาน 10% แต่ยังคงแนวโน้มที่แข็งแรงและโครงสร้างไม่เสียหาย

ถ้า Stop Loss ของคุณตั้งไว้ต่ำเกินไป เช่น 7% โดยไม่สอดคล้องกับธรรมชาติของการเคลื่อนไหวของหุ้น คุณอาจโดน "เขย่าออก" (Shake Out) โดยไม่จำเป็น และพลาดโอกาสเมื่อหุ้นกลับตัวขึ้น


---

ข้อผิดพลาดของการตั้ง Stop Loss ที่มือใหม่มักทำ

1. ตั้งจุด Stop Loss ที่แคบเกินไป

หาก Stop Loss แคบเกินกว่าความผันผวนปกติของหุ้น คุณอาจโดนบังคับขายทั้งที่หุ้นยังไม่ได้เสียหายอะไร


2. ตั้ง Stop Loss แบบไม่มีเหตุผล

การตั้ง Stop Loss โดยไม่ดูแนวรับ แนวต้าน หรือโครงสร้างของหุ้น อาจทำให้คุณขายเร็วเกินไปและพลาดโอกาสที่ดี


3. ขาดความเข้าใจในระดับที่สำคัญ

หากคุณไม่เข้าใจว่าระดับใดคือจุดที่โครงสร้างหุ้นเสียหาย (เช่น หลุดแนวรับสำคัญ) คุณอาจตั้ง Stop Loss ในจุดที่ไม่เหมาะสม


สนับสนุนโดย อีบุ๊ค "เคล็ดลึก สวิงเทรด ให้ได้กำไรสม่ำเสมอ"  https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjMzNjYyMjt9


วิธีตั้ง Stop Loss อย่างมีประสิทธิภาพ

1. กำหนดจุดที่ "ไอเดียการเทรดผิดพลาด"

จุดที่ควรตั้ง Stop Loss ควรเป็น จุดที่แสดงให้เห็นว่าการวิเคราะห์ของคุณผิดพลาด หรือหุ้นเสียโครงสร้าง เช่น หลุดแนวรับสำคัญ หรือเสียแนวโน้มขาขึ้น

ตัวอย่าง:หากคุณซื้อหุ้นในแนวโน้มขาขึ้น ให้ตั้ง Stop Loss ใต้แนวรับที่สำคัญ หรือใต้จุดต่ำสุดก่อนหน้า


2. พิจารณาความผันผวนของหุ้น

หุ้นแต่ละตัวมีความผันผวนไม่เท่ากัน หุ้นบางตัวอาจปรับตัว 3-5% แต่ยังอยู่ในแนวโน้มเดิม ในขณะที่หุ้นบางตัวอาจปรับตัวถึง 10% และยังแข็งแรง

ถ้าหุ้นมีโอกาสปรับฐานเกินจุดที่คุณรับได้ คุณควรหลีกเลี่ยงการเทรดนั้น


3. ใช้ Stop Loss เพื่อจัดการความเสี่ยงที่ยอมรับได้

หากจุดที่คุณต้องตั้ง Stop Loss (จุดที่โครงสร้างหุ้นเสียหาย) ทำให้ความเสี่ยงของคุณเกิน 1-2% ของพอร์ต แสดงว่าการเทรดนี้อาจไม่เหมาะสมกับคุณ คุณควรรอจังหวะที่ดีกว่า


---

ตัวอย่างที่เข้าใจง่าย

1. สมมติว่าคุณซื้อหุ้นที่ 100 บาท

แนวรับที่สำคัญอยู่ที่ 90 บาท: คุณควรตั้ง Stop Loss ใต้ 90 บาท เช่น 88 บาท เพราะถ้าหลุด 90 บาท แนวโน้มอาจเปลี่ยนเป็นขาลง

2. ถ้าหุ้นเคลื่อนไหวผันผวนปกติ 8-10%: การตั้ง Stop Loss ที่ 95 บาท (5% จากราคา 100 บาท) อาจทำให้คุณโดนเขย่าออกโดยไม่จำเป็น

3. ถ้าความเสี่ยงเกินที่คุณรับได้: หากตั้ง Stop Loss ที่ 88 บาท ทำให้คุณเสี่ยงเกิน 2% ของพอร์ต คุณควรหลีกเลี่ยงการเทรดนี้และรอหุ้นตัวอื่น


---


บทสรุป: ความสำคัญของ Stop Loss ที่เหมาะสม

- Stop Loss ที่ดีคือจุดที่แผนการเทรดของคุณเป็นโมฆะ: ถ้าหุ้นหลุดจุดนั้น คุณต้องยอมรับว่าแผนไม่ถูกต้อง และขายออกทันที

- ไม่ต้องรีบเทรด: หาก Stop Loss อยู่ในจุดที่ทำให้คุณเสี่ยงเกินที่ยอมรับได้ ให้มองหาการเทรดที่ดีกว่า

- อย่าตั้ง Stop Loss แบบสุ่ม: เพราะจะทำให้คุณพลาดโอกาสและเสียเงินโดยไม่จำเป็น


---


"การตั้ง Stop Loss ไม่ใช่เรื่องของการป้องกันขาดทุนเพียงอย่างเดียว แต่มันคือการรักษาแผนการเทรดและเงินทุนของคุณในระยะยาว"


7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

Marios Stamatoudis สวิงเทรดปั้นพอร์ตโต 291.2% ในปีเดียว เขาทำได้อย่างไร?

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

Oliver Kell: วงจรของการเคลื่อนไหวของราคา (Cycle of Price Action)

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo