สิ่งที่คุณต้องมองคือภาพในอีก 18 เดือนข้างหน้า เพราะราคาหุ้นในวันนี้สะท้อนสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนั้น

uckenmiller กล่าวถึงเหตุผลที่เราไม่ควรลงทุนโดยมองแค่ปัจจุบัน: "ไม่สำคัญเลยว่าบริษัทตอนนี้กำลังทำกำไรเท่าไหร่ หรือเคยทำได้แค่ไหน — สิ่งที่คุณต้องมองคือภาพในอีก 18 เดือนข้างหน้า เพราะราคาหุ้นในวันนี้สะท้อนสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนั้น" --- ราคาหุ้นไม่ได้สะท้อนสิ่งที่เกิดขึ้น ตอนนี้ แต่มันสะท้อนสิ่งที่ “ตลาดคาดว่า” จะเกิดในอนาคต ดังนั้น แทนที่จะถามว่า “บริษัทนี้กำไรดีมั้ยตอนนี้?” ควรเปลี่ยนเป็น “อีก 18 เดือนข้างหน้า บริษัทนี้จะดีกว่านี้ไหม?” ใครที่มองอนาคตได้แม่นกว่า คนนั้นมักจะได้เปรียบในตลาด --- การลงทุนไม่ใช่การถอดบัญชีกำไรขาดทุน แต่คือการอ่าน “เรื่องราวของอนาคต” อย่าลงทุนเพื่อวันนี้ — ลงทุนเพื่อสิ่งที่จะมาถึง

Position sizing ที่ดี ช่วยลดปัญหา Trading psychology ได้แทบทั้งหมด

Steve Burns พูดได้น่าสนใจว่า "ส่วนใหญ่ของปัญหาด้านจิตวิทยาการเทรดสามารถแก้ไขได้ด้วยการลดขนาดของการเทรดลง และเฝ้าดูกราฟเฉพาะช่วงเวลาที่จำเป็นสำหรับสัญญาณที่คุณใช้ ไม่ใช่การดูกราฟทั้งวัน"


Position Sizing กับพัฒนาการนักเทรด 3 ระดับ... ในรูปแบบ ebook โดย เซียว จับอิดนึ้ง
  https://www.mebmarket.com/?action=book_details&book_id=312087


หมายความว่าไง:

1. ปัญหาด้านจิตวิทยาในการเทรดคืออะไร?

เป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ เช่น ความกลัว ความโลภ ความเครียด หรือความกังวล ที่อาจทำให้คุณตัดสินใจผิดพลาด เช่น ขายเร็วเกินไป ซื้อเพิ่มโดยไม่ไตร่ตรอง หรือไม่กล้าปิดขาดทุน


2. ทำไมการลดขนาดการเทรดถึงช่วยได้?

ถ้าคุณเปิดออเดอร์ขนาดใหญ่ เช่น ใช้เงินจำนวนมากหรือเลเวอเรจสูง คุณจะรู้สึกกดดัน เพราะการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยของราคาอาจทำให้คุณขาดทุนหรือกำไรมาก

แต่ถ้าคุณลดขนาดการเทรดลง เช่น ใช้เงินหรือเลเวอเรจน้อยลง คุณจะควบคุมอารมณ์ได้ง่ายขึ้น เพราะแรงกดดันลดลง และมีเวลาคิดวิเคราะห์มากขึ้น


3. การดูกราฟตลอดทั้งวันมีผลเสียอย่างไร?

การจ้องกราฟนานเกินไปอาจทำให้คุณเหนื่อยล้าทั้งกายและใจ รวมถึงสร้างความกังวลเกินเหตุ

ยิ่งคุณดูกราฟบ่อยเท่าไหร่ คุณอาจรู้สึกอยาก "เทรดตามอารมณ์" เช่น เห็นราคาขึ้นก็รีบซื้อ เห็นราคาลงก็รีบขาย โดยไม่อิงกับแผนที่วางไว้


e-book : วินัย:ผลพลอยได้ของ Edge... ในรูปแบบ ebook


4. แล้วควรทำอย่างไร?

ตั้งเวลาในการดูกราฟให้ชัดเจน เช่น ดูเฉพาะช่วงที่กราฟมีโอกาสส่งสัญญาณการเข้า/ออก เช่น ทุกชั่วโมง หรือแค่ช่วงปิดตลาด

ใช้แผนการเทรดที่คุณกำหนดไว้ เช่น รอสัญญาณที่ชัดเจนจากเครื่องมือ เช่น MACD, RSI หรือกราฟแท่งเทียน แล้วค่อยตัดสินใจ ไม่ใช่ดูกราฟแล้วเทรดตามอารมณ์


5. ประโยชน์ของการทำตามนี้:

- ช่วยลดความเครียดและการตัดสินใจผิดพลาด

- ทำให้คุณมีเวลาโฟกัสกับเรื่องอื่นในชีวิต เช่น การศึกษาเพิ่มเติม การพักผ่อน หรือวางแผนเทรด

- ส่งเสริมการเทรดที่มีวินัยและยั่งยืนในระยะยาว

eBook "Risk Management: การบริหารจัดการความเสี่ยงเบื้องต้นสำหรับนักเทรด"

มีจำหน่ายที่แอพ Meb เท่านั้น https://www.mebmarket.com/?action=book_details&book_id=332340

สรุปง่าย ๆ: ลดขนาดการเทรดเพื่อไม่ให้กดดันตัวเอง และอย่าจ้องกราฟทั้งวัน เลือกดูเฉพาะช่วงที่จำเป็นตามแผนการเทรดของคุณ แล้วจิตใจคุณจะนิ่งขึ้นและการตัดสินใจดีขึ้น!

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

เส้นทางการเทรดและวิธีเทรดปั้นพอร์ต 100% ++ ของ Leoš Mikulka

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

รวมบทความที่เกี่ยวกับ Gap หุ้น & ทฤษฎี Gap หุ้น

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่