กลยุทธ์สวิงเทรด ปั้นพอร์ตโต 259% ของ Deepak Uppal
- Get link
- X
- Other Apps
กลยุทธ์การเทรด 259% ของ Deepak Uppal
แปลจาก https://traderlion.com/investing-champions/deepak-uppals-trading-strategy/
สนับสนุนโดย อีบุ๊ค "เคล็ดลึก สวิงเทรด ให้ได้กำไรสม่ำเสมอ" https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjMzNjYyMjt9
จุดเริ่มต้นของ Deepak Uppal
Deepak Uppal เริ่มต้นเส้นทางการเทรดในช่วงปี 1990 หลังจากจบการศึกษาระดับ MBA เขาเริ่มทำงานเต็มเวลา เปิดบัญชีนายหน้า และเริ่มต้นเทรด โดยประสบการณ์ผ่านวิกฤตตลาดต่าง ๆ เช่น ตลาดหุ้นดอทคอมปี 1999-2000 และวิกฤตที่อยู่อาศัยปี 2008 ช่วยให้ Deepak พัฒนากลยุทธ์การเทรดของเขาได้สำเร็จ
ในปี 2023 Deepak Uppal ได้กลายเป็นหนึ่งในนักลงทุนที่ทำผลตอบแทนอันดับต้น ๆ ใน United States Investing Championship ด้วยผลตอบแทนถึง 259%
บทความนี้จะเปิดเผยว่ากลยุทธ์ของเขามีที่มาจากไหน และเขาใช้วิธีการอย่างไรในการสร้างผลตอบแทนที่โดดเด่น
ค้นหาแรงบันดาลใจและที่ปรึกษาเพื่อพัฒนากลยุทธ์
Deepak เริ่มต้นจากการได้กำไรในตลาดขาขึ้นใหญ่ แต่เสียเงินจำนวนมากในตลาดขาลง เขาตัดสินใจศึกษาแนวทางจากนักเทรดที่ประสบความสำเร็จ เขาลองเทรดทั้งหุ้น, ออปชั่น, สินค้าโภคภัณฑ์, และค่าเงิน รวมถึงทดลองช่วงเวลาการถือครองตั้งแต่เดย์เทรดจนถึงลงทุนระยะยาว
ในปี 2011 เขาค้นพบหนังสือ "How to Make Money in Stocks" ของ William O’Neil ซึ่งช่วยให้เขารู้ว่าควรมองหาหุ้นประเภทใด ต่อมา เขาได้เข้าร่วมกลุ่ม Stock Market Mentor ของ Dan Fitzpatrick เพื่อศึกษาเทคนิคอล
นอกจากนี้ Deepak ยังศึกษาแนวทางของ Dan Zanger ในการหาหุ้นที่สามารถเคลื่อนไหวในขาขึ้นได้อย่างรุนแรง และศึกษาหนังสือของ Mark Minervini เช่น "Trade Like a Stock Market Wizard" และ "Think & Trade Like a Champion" เพื่อปรับปรุงกระบวนการของตัวเอง
ข้อผิดพลาดที่ Deepak เคยเจอและแก้ไขได้:
1. เลือกหุ้นผิดประเภท
2. ไม่ใช้จุดตัดขาดทุน (Stop Loss)
3. ไม่เข้าใจสภาพแวดล้อมของตลาด
4. บริหารขนาดการลงทุนไม่ดีพอ
5. ขาดกฎชัดเจนในการวิเคราะห์ทางเทคนิค
---
เข้าใจสถิติการเทรดของตัวเอง
การพัฒนากลยุทธ์ต้องเริ่มจากการเข้าใจตัวเลขสถิติการเทรดของเราเอง โดยผลกำไรต้องมากกว่าผลขาดทุน
สถิติของ Deepak ในปี 2023:
- อัตราชนะ (Batting Average): 50%
- กำไรเฉลี่ย: 3.25%
- ขาดทุนเฉลี่ย: 2.3%
- อัตราส่วนกำไรต่อขาดทุน: 1.41
- ระยะเวลาถือครองหุ้นที่กำไร: 6 วัน
- ระยะเวลาถือครองหุ้นที่ขาดทุน: 2 วัน
- จำนวนการเทรดทั้งหมด: 152 ครั้ง
แม้กำไรและขาดทุนเฉลี่ยดูเล็กน้อย แต่ Deepak ใช้ การเพิ่มขนาดการลงทุนในช่วงตลาดที่เหมาะสม และ การใช้มาร์จิ้น อย่างมีกลยุทธ์
Position Sizing กับพัฒนาการนักเทรด 3 ระดับ... ในรูปแบบ ebook โดย เซียว จับอิดนึ้ง
https://www.mebmarket.com/?action=book_details&book_id=312087
เข้าใจสภาพแวดล้อมของตลาด
Deepak พบว่าสภาพตลาดมีผลสำคัญต่อผลตอบแทนของเขา:
- ตลาดขาขึ้น: ทำกำไรได้ดี
- ตลาดขาลง: ขาดทุน
การวาดเส้นแนวโน้ม (Trendline) ช่วยให้ Deepak เข้าใจการเคลื่อนไหวของตลาด แต่เขาให้ความสำคัญกับผลการเทรดล่าสุดมากกว่า หากการซื้อของเขาเริ่มได้ผล เขาจะเพิ่มขนาดการลงทุนและปล่อยให้กำไรเติบโต หากเริ่มขาดทุน เขาจะลดขนาดการลงทุนและตัดขาดทุนอย่างรวดเร็ว
---
สไตล์การเทรดของ Deepak
Deepak พบว่าสไตล์การเทรดแบบ Swing Trading เหมาะกับตัวเขา โดยจะถือหุ้นไม่กี่วันถึงสองสามสัปดาห์ วิธีนี้ช่วยให้เขาเก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวระยะสั้นและลดความเสี่ยงในระยะยาว
---
การควบคุมสิ่งที่ควบคุมได้
Deepak ให้ความสำคัญกับ 3 ปัจจัย:
1. การเลือกหุ้น: คัดเลือกหุ้นที่มีศักยภาพสูง
2. การซื้อ: ซื้อเมื่อไรและขนาดเท่าไร
3. การขาย: ขายเมื่อไรและจำนวนเท่าไร
เขาย้ำว่าการยอมรับว่าความผันผวนของตลาดอยู่นอกเหนือการควบคุมจะช่วยให้จิตใจโล่งและสามารถโฟกัสกับการวิเคราะห์ตลาดได้ดียิ่งขึ้น
---
เกณฑ์การเลือกหุ้น
Deepak ใช้เกณฑ์เหล่านี้ในการเลือกหุ้น:
- หุ้นที่อยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (50SMA > 200SMA)
- หุ้นที่มีความแข็งแกร่ง (Relative Strength) สูง
- ราคาหุ้นมากกว่า $75
- อยู่ในอุตสาหกรรมเติบโต เช่น เทคโนโลยีและกองทุน ETF ที่มีเลเวอเรจ
- หุ้นที่มี ATR (ความผันผวนเฉลี่ยรายวัน) > 5%
- บริษัทที่มีผลกำไรเชิงบวก
กลยุทธ์การซื้อ
1. มองหารูปแบบกราฟที่มั่นคง
Deepak เลือกซื้อหุ้นที่มีรูปแบบกราฟดั้งเดิม เช่น
- Cup & Handle: รูปถ้วยและหูถ้วยที่แสดงถึงการสะสมพลังเพื่อขึ้นต่อ
- Bull Flag: รูปธงกระทิงที่บ่งบอกถึงการหยุดพักชั่วคราวก่อนการเคลื่อนไหวขึ้น
นอกจากนี้ เขายังให้ความสำคัญกับหุ้นที่แข็งแกร่งที่สุด โดยสังเกตว่าหุ้นเหล่านี้ดึงตัวกลับมาใกล้แนวรับ (Support) และมีการรวมตัว (Consolidate) หลังจากพุ่งแรงในช่วงที่ผ่านมา
---
2. ตรวจสอบสภาพแวดล้อมของตลาดก่อนตัดสินใจซื้อ
Deepak ย้ำว่าสภาพตลาดต้องเหมาะสมก่อนทำการซื้อ โดยเขาดูปัจจัยเหล่านี้:
- VIX (ดัชนีวัดความผันผวนของตลาด)
- Put/Call Ratio (อัตราส่วนของออปชั่นที่คาดการณ์ตลาดขาลงเทียบกับตลาดขาขึ้น)
- Stocks over 200-day MA Breadth Indicator (จำนวนหุ้นที่อยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน)
- ตัวชี้วัดเฉพาะอื่น ๆ ที่เขาพัฒนาเอง
หากตลาดอยู่ในช่วง ขาขึ้น (Bullish Phase) และหุ้นเริ่มมีสัญญาณที่ดี เขาจะเพิ่มขนาดการลงทุน (Concentrated Position Sizes) และใช้มาร์จิ้น (Margin) เพื่อเพิ่มโอกาสทำกำไรในหุ้นที่มีผลตอบรับเชิงบวก
---
3. ใช้จุด Stop Loss อย่างมีกลยุทธ์
Deepak ใช้ระดับทางเทคนิค (Technical Levels) บนกราฟเพื่อกำหนดจุด Stop Loss โดยตั้งไว้ต่ำกว่าแนวรับที่มีเหตุผล (Logical Support) เพื่อป้องกันการขาดทุนหากราคาหุ้นหลุดแนวรับนั้น
---
สรุปกลยุทธ์การซื้อง่าย ๆ
- เลือกรูปแบบกราฟที่มั่นคง (Cup & Handle, Bull Flag)
- ตรวจสอบสภาพตลาดและปัจจัยพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง
- ซื้อเมื่อหุ้นมีแนวโน้มดีและตั้ง Stop Loss ใต้แนวรับเพื่อจำกัดความเสี่ยง
กลยุทธ์นี้ช่วยให้คุณซื้อในจังหวะที่เหมาะสมและป้องกันความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ!
เทคนิค Exit พิชิตผลการเทรด... ในรูปแบบ ebook โดย เซียว จับอิดนึ้ง https://www.mebmarket.com/?action=book_details&book_id=322348
กลยุทธ์การขาย
1. ควบคุมความเสี่ยงสูงสุดต่อการเทรด
Deepak จำกัดความเสี่ยงสูงสุดไว้ที่ 1% ของมูลค่าพอร์ตทั้งหมด ในแต่ละการเทรด แต่เขามักพยายามลดความเสี่ยงให้น้อยกว่านี้
---
2. ใช้อัตราส่วนกำไรต่อความเสี่ยง (Reward-to-Risk Ratio) ที่ 3:1
Deepak จะขายหุ้นเมื่ออัตราส่วนกำไรต่อความเสี่ยง (3R) ถึงเป้าหมาย เช่น:
- หากตั้งจุดขาดทุน (Stop Loss) ไว้ที่ $2 ต่อหุ้น
- เขาจะขายทำกำไรเมื่อหุ้นมีกำไร $6 ต่อหุ้น
การตั้งเป้าหมายนี้ช่วยให้เขามั่นใจว่าแต่ละการเทรดให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับความเสี่ยง
---
3. ขายเมื่อหุ้นหรือตลาดเริ่มส่งสัญญาณผิดปกติ
Deepak ยังมีเกณฑ์การขายเพิ่มเติม:
- ขายทำกำไรเมื่อผลกำไรของการเทรดนั้น เกินค่าเฉลี่ยกำไรต่อการเทรด (Average R Gain)
- ขายเมื่อหุ้นเริ่มมีพฤติกรรมผิดปกติ (Abnormal Behavior) เช่น ราคาขึ้นหรือลงเร็วผิดปกติ
- ขายเมื่อ ตลาดมีภาวะยืดเยื้อ หรืออยู่ในจุดที่มีความเสี่ยงสูง
---
4. ยืดหยุ่นและพร้อมเข้าซื้อใหม่เสมอ
Deepak เข้าใจว่าการขายไม่จำเป็นต้องเป็นจุดจบของการลงทุนในหุ้นตัวนั้น คุณสามารถ ขายเพื่อป้องกันความเสี่ยง และ ซื้อกลับอีกครั้ง เมื่อหุ้นกลับมามีสัญญาณที่ดีหรือทะลุแนวต้านสำคัญ
บางครั้งคุณอาจต้อง "เข้า-ออก" หุ้นหลายครั้ง เพื่อสร้างขนาดการลงทุนที่เหมาะสมรอบ ๆ จุด Breakout
---
สรุปกลยุทธ์การขายง่าย ๆ
- จำกัดความเสี่ยงสูงสุดต่อการเทรดไว้ที่ 1% ของพอร์ต
- ตั้งเป้าหมายขายเมื่อกำไรถึง 3 เท่าของความเสี่ยง
- ขายเมื่อหุ้นเริ่มมีพฤติกรรมผิดปกติหรืออยู่ในตลาดที่ไม่เอื้ออำนวย
- พร้อมกลับมาซื้อใหม่เมื่อหุ้นแสดงสัญญาณดีอีกครั้ง
กลยุทธ์นี้ช่วยให้คุณรักษากำไร ป้องกันการขาดทุน และมีความยืดหยุ่นในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้!
ระบบเทรดและการเทรดตามระบบ เบื้องต้นสำหรับมือใหม่... ในรูปแบบ ebook โดย เซียว จับอิดนึ้ง https://www.mebmarket.com/?action=book_details&book_id=334986
อย่าหยุดเรียนรู้
Deepak เชื่อว่าความสำเร็จในตลาดหุ้นต้องพัฒนาไม่หยุดยั้ง เขามักทบทวนการเทรดที่ผ่านมาเพื่อหาโอกาสปรับปรุงกลยุทธ์ เช่น:
- ขายทำกำไรในช่วงตลาดแข็งแกร่ง
- ลดความเสี่ยงในตลาดขาลง
สุดท้าย เขาย้ำว่าการบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญ อย่าเร่งรีบทำกำไรในตลาดที่ไม่เอื้ออำนวย จงเชื่อมั่นในกระบวนการและตัวเอง
- Get link
- X
- Other Apps