ความแตกต่างระหว่าง Hard Work และ Smart Work ในการเทรด
- Get link
- X
- Other Apps
ความแตกต่างระหว่าง Hard Work และ Smart Work ในการเทรด
Hard Work (ทำงานหนัก)
1. Chasing trades (ไล่ตามราคา)
การรีบไล่ตามราคาที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว หวังว่าจะได้กำไรจากการเคลื่อนไหวนั้น มักทำให้คุณซื้อแพงเกินไปหรือขายถูกเกินไป เพราะคุณไม่ได้วางแผนมาก่อน ผลลัพธ์คือการเทรดที่ไม่เป็นระบบและอาจขาดทุน
การไล่ตามราคาคือการเห็นหุ้นวิ่งขึ้นเร็ว แล้วรีบเข้าไปซื้อโดยไม่มีการวิเคราะห์ เช่น เห็นหุ้นขึ้น 5% แล้วรีบกระโดดเข้าไปซื้อ เพราะกลัวตกรถ แต่พอซื้อแล้วราคากลับดิ่งลง ทำให้ขาดทุน
2. Staying in front of your screen all day (นั่งจ้องหน้าจอทั้งวัน)
การใช้เวลานั่งเฝ้าหน้าจอตลอดทั้งวันเพื่อตามการเคลื่อนไหวของตลาด อาจทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยล้าและตัดสินใจผิดพลาดจากความกดดัน
คุณไม่จำเป็นต้องจับจ้องตลาดทุกวินาที เพราะมันทำให้คุณเครียดและอาจพลาดโอกาสดี ๆ การเฝ้าหน้าจออย่างไม่มีเป้าหมายอาจทำให้คุณเสียเงินจากการเทรดเกินความจำเป็น
3. Trading everything that moves (เทรดทุกอย่างที่ขยับ)
การเทรดหุ้นหรือสินทรัพย์ทุกตัวที่มีการเคลื่อนไหวโดยไม่มีการวิเคราะห์หรือตั้งกลยุทธ์ชัดเจน ทำให้คุณเสียโฟกัสและอาจขาดทุนจากการกระจายความสนใจ
คุณอาจเห็นหุ้นหลายตัวเคลื่อนไหวแรงแล้วอยากลองเทรดไปหมด แต่นี่เป็นกับดักที่ทำให้คุณขาดทุน การเทรดทุกอย่างที่ขยับเหมือนการเล่นพนันมากกว่าเป็นการลงทุน
"ระบบเทรดและการเทรดตามระบบ เบื้องต้นสำหรับมือใหม่" : Ebook ลดราคา 20% ครับ ที่แอพ MEB https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjMzNDk4Njt9
Smart Work (ทำงานอย่างชาญฉลาด)
1. Chilling. Letting trades come to you (ผ่อนคลายและรอจังหวะที่ใช่)
การรออย่างใจเย็นเพื่อให้หุ้นหรือสินทรัพย์เข้ามาอยู่ในเกณฑ์ที่คุณวางไว้ แทนที่จะรีบไล่ตาม คุณควรมีแผนและทำตามแผนนั้น
คุณไม่จำเป็นต้องเทรดทุกวัน รอให้ราคาหรือเงื่อนไขตรงตามกลยุทธ์ เช่น รอให้ราคาลงมาที่แนวรับสำคัญก่อนซื้อ หรือรอ Breakout ก่อนเข้า ไม่ต้องรีบร้อน
2. Placing trades then letting contingent exit orders do the rest (ตั้งคำสั่งซื้อขายล่วงหน้า)
การตั้งคำสั่งซื้อขายและจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) หรือเป้าหมายกำไร (Take Profit) แล้วปล่อยให้ระบบทำงานให้แทนที่จะเฝ้าหน้าจอเอง
เมื่อคุณเข้าเทรดแล้ว ให้ตั้งจุดที่คุณจะขายทำกำไรหรือขายเพื่อตัดขาดทุนไว้ล่วงหน้า เช่น ซื้อที่ 100 บาท ตั้งขายกำไรที่ 110 บาท และตั้งขายตัดขาดทุนที่ 95 บาท ปล่อยให้ระบบทำงาน คุณไม่ต้องนั่งเฝ้าจอ
3. Specializing. Knowing a few select names & only trading them (โฟกัสหุ้นหรือสินทรัพย์เฉพาะ)
การเลือกหุ้นหรือสินทรัพย์เพียงไม่กี่ตัวที่คุณรู้จักและเข้าใจเป็นอย่างดี แล้วเน้นเทรดเฉพาะสิ่งเหล่านั้น
แทนที่จะเทรดทุกอย่าง ลองเลือกหุ้นหรือสินทรัพย์ที่คุณรู้จัก เช่น หุ้นที่มีข่าวดีหรือมีการเคลื่อนไหวที่คุณเข้าใจ แล้วเน้นวิเคราะห์และเทรดแค่กลุ่มนั้น
สรุป
- Hard Work: ทำให้เหนื่อยล้า เสี่ยง และขาดความชัดเจน
- Smart Work: ช่วยลดความเครียด เพิ่มโอกาสกำไร และทำให้คุณมีวินัยในการเทรด
ถ้าคุณเป็นมือใหม่ ให้เริ่มจากการโฟกัสแผนการเทรดอย่างมีระบบ รอจังหวะที่เหมาะสม และอย่าพยายามไล่ตามตลาดครับ
"ระบบเทรดและการเทรดตามระบบ เบื้องต้นสำหรับมือใหม่" : Ebook ลดราคา 20% ครับ ที่แอพ MEB https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjMzNDk4Njt9
- Get link
- X
- Other Apps