ทำไมทั้ง ๆ ที่ "การเทรดเป็นระบบ" เป็นเรื่องที่ดีต่อ "ความสำเร็จในการเทรด" แต่นักเทรด 90% ทำตามไม่ได้
- Get link
- X
- Other Apps
"ระบบเทรดและการเทรดตามระบบ เบื้องต้นสำหรับมือใหม่" : Ebook ลดราคา 20% ครับ ที่แอพ MEB https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjMzNDk4Njt9
การเทรดเป็นระบบ (Systematic Trading) เป็นพื้นฐานสำคัญของความสำเร็จในการเทรด เนื่องจากมันช่วยลดความไม่แน่นอนและอารมณ์ที่มักส่งผลเสียต่อการตัดสินใจ แต่ในความเป็นจริง นักเทรดจำนวนมากไม่สามารถทำตามระบบได้ หรือบางคนไม่มีระบบเลย สาเหตุของปัญหานี้และเหตุผลที่การเทรดเป็นระบบสำคัญ สามารถอธิบายได้ดังนี้:
ทำไมการเทรดเป็นระบบจึงดีต่อความสำเร็จ
1. ลดอารมณ์ในการตัดสินใจ
ระบบเทรดที่ดีจะมีกฎชัดเจนเกี่ยวกับการเข้า-ออกออเดอร์ การจัดการความเสี่ยง และการทำกำไร สิ่งนี้ช่วยลดความโลภและความกลัว ซึ่งเป็นอารมณ์ที่ทำลายการเทรด
2. สร้างความสม่ำเสมอ
การมีระบบทำให้คุณตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลและแผนที่วางไว้ แทนที่จะเปลี่ยนวิธีการเทรดทุกครั้งที่ตลาดเปลี่ยนแปลง
3. สามารถวัดผลและปรับปรุงได้
ระบบช่วยให้คุณสามารถบันทึกและวิเคราะห์ผลลัพธ์เพื่อพัฒนาการเทรดให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ
4. บริหารความเสี่ยงได้ดีขึ้น
ระบบมักรวมถึงการกำหนด Stop Loss และ Take Profit ชัดเจน ซึ่งช่วยควบคุมการขาดทุนและปกป้องกำไร
5. เพิ่มโอกาสทำกำไรระยะยาว
แม้จะมีการขาดทุนบ้าง แต่การเทรดตามระบบที่ได้รับการทดสอบแล้วช่วยให้คุณมีกำไรที่มั่นคงในระยะยาว
ทำไมนักเทรด 90% ทำตามระบบไม่ได้
1. ขาดวินัย
การทำตามระบบต้องใช้วินัยอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง นักเทรดมักจะละเมิดกฎ เช่น ปรับ Stop Loss หรือออกจากออเดอร์ก่อนเวลาเพราะความกังวล
2. ไม่มีความเชื่อมั่นในระบบ
หลายคนสร้างระบบขึ้นมาแต่ไม่ได้ทดสอบ หรือฝึกฝนเพียงพอ จึงไม่มั่นใจว่าระบบจะทำงานได้จริงในสถานการณ์ที่ตลาดเปลี่ยนแปลง
3. อารมณ์มีบทบาทสำคัญเกินไป
เมื่อเผชิญกับการขาดทุนต่อเนื่องหรือกำไรที่ยังไม่ถึงเป้าหมาย นักเทรดมักปล่อยให้อารมณ์เข้ามาควบคุม เช่น การเพิ่มขนาดออเดอร์เพื่อ "เอาคืน" หรือหยุดเทรดเพราะความกลัว
4. ขาดการจัดการความเสี่ยง
นักเทรดบางคนไม่รวมเรื่องการบริหารเงิน เข้าไว้ในระบบ เช่น การกำหนดเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงต่อออเดอร์ ทำให้เมื่อเกิดการขาดทุน พอร์ตได้รับผลกระทบรุนแรงจนพวกเขาหยุดทำตามระบบ
5. คาดหวังผลลัพธ์เร็วเกินไป
นักเทรดส่วนใหญ่อยากเห็นกำไรทันที แต่ระบบเทรดมักต้องใช้เวลาในการแสดงผลในระยะยาว เมื่อไม่ได้ผลลัพธ์ทันใจ พวกเขามักจะละทิ้งระบบ
6. เปลี่ยนแปลงระบบบ่อยเกินไป
ความไม่อดทนทำให้นักเทรดเปลี่ยนระบบหลังจากเผชิญกับการขาดทุนเล็กน้อย ทั้งที่ในความจริง ระบบที่ดีต้องเผชิญกับการขาดทุนเป็นเรื่องปกติ
ตัวอย่างสถานการณ์: ทำไมระบบถูกละเลย
สถานการณ์: คุณสร้างระบบที่ให้สัญญาณซื้อขายชัดเจน แต่หลังจากการขาดทุน 3 ครั้งติดกัน คุณเริ่มสงสัยในระบบ และครั้งถัดมา เลือกไม่ทำตามสัญญาณระบบ ผลปรากฏว่าตลาดเคลื่อนไหวตามระบบที่คุณไม่ทำตาม และคุณเสียโอกาสทำกำไรใหญ่
นี่คือผลของการขาดวินัยและความเชื่อมั่นในระบบ ที่เกิดจากการไม่เข้าใจธรรมชาติของการขาดทุนในระบบที่ดี
วิธีแก้ไข: ทำให้การเทรดตามระบบเป็นนิสัย
1. ทดสอบระบบให้มั่นใจ
ใช้การ Backtest และ Forward Test เพื่อดูว่าสมรรถภาพของระบบในสถานการณ์ต่าง ๆ เป็นอย่างไร และมั่นใจว่าสอดคล้องกับเป้าหมายการเทรด
2. สร้างแผนการเทรด
เขียนแผนเทรดที่ระบุชัดเจนว่า:
- คุณจะเข้าเทรดเมื่อไร
- คุณจะจัดการความเสี่ยงอย่างไร
- คุณจะออกจากออเดอร์เมื่อไร
3. ฝึกวินัยในการปฏิบัติตามระบบ
ใช้บัญชีทดลอง เพื่อฝึกทำตามระบบอย่างเคร่งครัดก่อนลงเงินจริง
4. ทำความเข้าใจกับการขาดทุน
การขาดทุนเป็นส่วนหนึ่งของการเทรด แม้ระบบที่ดีที่สุดก็ยังขาดทุนได้บ้าง การเข้าใจธรรมชาติของการขาดทุนจะช่วยลดความกังวลและไม่ละทิ้งระบบง่าย ๆ
5. ใช้บันทึกการเทรด
บันทึกทุกการเทรดเพื่อวิเคราะห์ว่าเมื่อไรคุณละเมิดระบบ และผลลัพธ์เป็นอย่างไร
6. ตั้งเป้าหมายระยะยาว
มองภาพใหญ่ของผลลัพธ์ระยะยาวแทนที่จะตัดสินระบบจากการเทรดไม่กี่ครั้ง
แรงบันดาลใจสำหรับนักเทรด
"ระบบที่ดีคือเครื่องมือของคุณ แต่วินัยคือพลังที่ขับเคลื่อนมัน"
การเทรดตามระบบต้องอาศัยความอดทนและความเข้าใจในธรรมชาติของตลาด แต่หากคุณยึดมั่นและพัฒนาตัวเอง ระบบเทรดจะกลายเป็นพันธมิตรที่พาคุณไปสู่ความสำเร็จในระยะยาว
นักเทรด 90% อาจล้มเหลว แต่คุณสามารถเป็นส่วนหนึ่งของ 10% ที่ประสบความสำเร็จได้ เพียงแค่คุณเลือกที่จะปฏิบัติตามระบบด้วยความมุ่งมั่นและวินัยที่ไม่สั่นคลอน!
- Get link
- X
- Other Apps