ทำไม PLTR มีศักยภาพที่จะเป็น true market leade

Image
เคล็ดลึกเทรดหุ้น True Market Leader จำหน่ายที่ https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjM2MTk3ODt9 Randy Opper : “ผมยังเชื่อว่า PLTR เป็นผู้นำตลาดที่แท้จริง เพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งรีบร้อนที่จะขายหุ้นตัวนี้ออกไป” สรุปและอธิบายแบบเข้าใจง่ายสำหรับนักเทรดมือใหม่: PLTR คืออะไร? เป็นชื่อย่อของหุ้นบริษัท Palantir ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ บริษัทนี้ทำงานเกี่ยวกับการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ซึ่งหลายองค์กรระดับโลกใช้งาน Randy กำลังบอกอะไร? เขากำลังเตือนนักลงทุนว่า อย่าเพิ่งตัดสินใจขายหุ้น PLTR แบบรีบร้อน เพราะเขายังเชื่อว่าบริษัทนี้ มีศักยภาพในระยะยาว และเป็น "ผู้นำตลาด" หรือ Market Leader ในกลุ่มของมัน สำหรับนักเทรดมือใหม่ควรคิดอย่างไร? ไม่ควรตัดสินใจจากแค่ราคาขึ้นหรือลงในระยะสั้น ควรศึกษาธุรกิจของบริษัทที่เราลงทุนให้ดีว่าเขามีศักยภาพระยะยาวไหม ฟังความคิดเห็นจากผู้มีประสบการณ์ เช่น Randy ได้ แต่อย่าลืมวิเคราะห์ด้วยตัวเองด้วยนะ ข้อคิดที่ได้: "การเทรดไม่ใช่...

แนวทางคัดกรองหุ้นจาก 100 ตัว ให้ได้ตัวที่ดีที่สุด 1-3 ตัว

 


ภาพนี้แสดงให้เห็นกระบวนการคัดเลือกหุ้นที่เหมาะสมสำหรับการเทรด โดยแบ่งเป็นลำดับขั้นตอนจากจำนวนหุ้นที่เยอะมากไปจนถึงการเลือกหุ้นเพียงไม่กี่ตัวเพื่อเข้าเทรดจริง กระบวนการนี้เปรียบเสมือนกรวยที่ช่วยกรองหุ้นจากหลายร้อยตัวให้เหลือแค่ไม่กี่ตัวที่มีโอกาสทำกำไรสูงสุด

1. ขั้นแรก: คัดกรองหุ้น (100 ตัว)
ที่ด้านบนของกรวย เราเริ่มต้นด้วยการพิจารณาหุ้นจำนวนมาก (ประมาณ 100 ตัว) โดยพิจารณาปัจจัยสำคัญต่างๆ เช่น:
- Momentum: หุ้นที่มีแนวโน้มการเคลื่อนไหวอย่างแข็งแกร่ง
- Volatility: หุ้นที่มีความผันผวนพอเหมาะที่ทำให้มีโอกาสทำกำไร
- Liquidity: หุ้นที่มีสภาพคล่องสูง สามารถซื้อขายได้โดยไม่ทำให้ราคาขยับมาก
- Linearity: หุ้นที่มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในทิศทางที่ต่อเนื่องและไม่สะเปะสะปะ
- Trend: หุ้นที่มีแนวโน้มขาขึ้นชัดเจน
- Fundamentals: พื้นฐานของบริษัท เช่น รายได้และกำไรที่เติบโต
- News: ข่าวที่ส่งผลต่อราคาหุ้น เช่น ข่าวการประกาศผลประกอบการ

เป้าหมายของขั้นตอนนี้คือการเลือกหุ้นที่มีความต้องการสูงและมีเหตุผลที่จะเคลื่อนไหวในทิศทางที่ดีต่อเนื่อง

e-book : วินัย:ผลพลอยได้ของ Edge... ในรูปแบบ ebook

ขั้นที่สอง: การตั้งค่าและบริบท (20 ตัว)
ในขั้นตอนนี้ เราคัดกรองหุ้นให้เหลือประมาณ 20 ตัว โดยพิจารณาการตั้งค่าทางเทคนิคและบริบทของตลาด เช่น:
- ADXpress และ ADXcellence: การวิเคราะห์ความแข็งแกร่งของแนวโน้มด้วยตัวชี้วัดทางเทคนิค ADX (Average Directional Index)
- Market Situational Awareness: การทำความเข้าใจสถานการณ์ของตลาดในขณะนั้น เช่น แนวโน้มตลาดโดยรวม หรือสภาพแวดล้อมที่อาจส่งผลต่อการเทรด

นักเทรดต้องมีความตระหนักรู้ในสถานการณ์ของตลาดเพื่อปรับการเทรดให้เหมาะสม และเลือกหุ้นที่มีการตั้งค่าทางเทคนิคที่เอื้อต่อการเทรด

---

ขั้นที่สาม: การขยายตัวของราคาและปริมาณ (5 ตัว)
ในขั้นตอนนี้ เราจะคัดเลือกหุ้นให้เหลือประมาณ 5 ตัว โดยดูจากการขยายตัวของราคาและปริมาณการซื้อขาย (Price/Volume Breakout) ซึ่งหมายถึง:
- Price/Volume Expansion: หุ้นที่มีการเพิ่มขึ้นของราคาและปริมาณการซื้อขายจากบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวแบบแคบ (contraction area)
- การขยายตัวนี้เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าหุ้นอาจกำลังเริ่มแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่ง

---

ขั้นสุดท้าย: การเข้าเทรด (1-3 ตัว)
สุดท้าย เราจะเลือกหุ้นเพียง 1-3 ตัวสำหรับการเข้าเทรดจริง ขั้นตอนนี้เน้นการคัดหุ้นที่มีโอกาสทำกำไรสูงสุดและสามารถจัดการความเสี่ยงได้ดี การเลือกหุ้นจำนวนน้อยช่วยให้นักเทรดสามารถโฟกัสกับการจัดการการเทรดและติดตามการเคลื่อนไหวของหุ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ


สรุปความสำคัญของกระบวนการนี้
- กระบวนการนี้ช่วยให้นักเทรดสามารถคัดเลือกหุ้นที่มีศักยภาพสูงสุดจากจำนวนมาก โดยใช้ปัจจัยพื้นฐานและเทคนิคเพื่อให้แน่ใจว่าหุ้นที่เลือกมีโอกาสทำกำไรในระยะสั้นและระยะยาว
- การลดจำนวนหุ้นจาก 100 ตัวเหลือเพียง 1-3 ตัวช่วยลดความซับซ้อนและความเสี่ยงในการบริหารพอร์ตโฟลิโอ
- การรอจังหวะที่เหมาะสมและการเทรดอย่างมีวินัยเป็นกุญแจสำคัญในการประสบความสำเร็จในการเทรด


7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

เส้นทางการเทรดและวิธีเทรดปั้นพอร์ต 100% ++ ของ Leoš Mikulka

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

รวมบทความที่เกี่ยวกับ Gap หุ้น & ทฤษฎี Gap หุ้น

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่