การพัฒนาตนเองเป็นนักเทรดที่สำเร็จและเทคนิคสวิงเทรด สูตร Marios Stamatoudis
- Get link
- Other Apps
บทสัมภาษณ์ที่ Marios Stamatoudis ให้กับ @TraderLion_
เกี่ยวกับแนวทางการเทรดและการพัฒนาตนเองในการเป็นนักเทรด :
แปลจาก https://x.com/Hydra_XT/status/1753794850510491921
---
ศึกษาและติดตามการเคลื่อนไหวของราคาเพื่อการเทรดที่ทำกำไร
- ใช้พื้นฐานเป็นแนวทาง และดูการเคลื่อนไหวของราคาเพื่อยืนยันแนวโน้ม
- ใช้รูปแบบและสัญญาณการเทรดที่เรียนรู้จากทฤษฎีเพื่อหาโอกาสที่ดี
การตระหนักถึงความสำคัญของการค้นคว้าและเรียนรู้ด้วยตัวเอง
- การศึกษาและเรียนรู้เป็นเหมือนการฝึกฝน ทำให้คุณรักการเทรด
- แพลตฟอร์มการวิเคราะห์กราฟและการมีวินัยในการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ
- ตระหนักว่าการเทรดให้ได้ผลดีต้องเลิกพึ่งพาความรู้ของคนอื่น และเริ่มวิจัยและศึกษาเอง
- ใช้เวลาหลายเดือนในการศึกษาและทำความเข้าใจจากการเทรดของนักเทรดที่มีประสบการณ์ เพื่อพัฒนากลยุทธ์การเทรดของตนเอง
- เริ่มต้นจากการไม่อ่านหนังสือเทรด แต่ต่อมาได้ศึกษา “How to Make Money in Stocks” ของ William O'Neil
- หนังสือและประสบการณ์การเทรดช่วยให้เกิดความเข้าใจเชิงลึกและทำให้การเทรดดีขึ้น
- ค้นพบแรงบันดาลใจและแรงผลักดันจากนักเทรดชั้นนำเช่น Oliver Kell
- หนังสือทั้งด้านเทคนิคและปรัชญาเกี่ยวกับการเทรดช่วยเปลี่ยนจากการเทรดรายวัน (Day Trading) เป็นการเทรดระยะยาวขึ้น (Swing Trading)
ประเภทของหนังสือเกี่ยวกับการเทรด
- หนังสือเกี่ยวกับนักเทรดชั้นนำและเรื่องราวต่าง ๆ ของตลาดหุ้น
- หนังสือที่ให้เครื่องมือและความรู้ที่สามารถนำไปใช้ได้จริง
- หนังสือส่วนตัวที่เขียนเพื่อตนเอง (บันทึกการเทรดของตัวเอง) ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจอย่างแท้จริง
ความหลงใหลเป็นสิ่งสำคัญในโลกการเทรด
- ความหลงใหลในด้านการเทรดเริ่มต้นจากการศึกษาและค้นพบสิ่งใหม่
- ความหลงใหลในด้านการเทรดต้องถูกเก็บรักษาไว้แม้ในช่วงที่ยากลำบาก
การเผชิญกับความเหนื่อยล้าและความเครียดจากการหมกมุ่นในไลฟ์สไตล์การเทรด
- เผชิญกับการหมดพลังจากการศึกษาการเทรดมากเกินไปและสูญเสียความสัมพันธ์กับเพื่อน ๆ จนรู้สึกเครียด
- พบกับความท้าทายในการเทรดรายวัน ต้องพึ่งอัตราการชนะมากกว่าการจัดการความเสี่ยง นำไปสู่การสูญเสียที่มากขึ้นเมื่อเกิดการเคลื่อนไหวที่ไม่เป็นใจ
- รู้สึกท้อแท้และซึมเศร้าเมื่อต้องเจอกับการสูญเสียครั้งใหญ่ ซึ่งส่งผลต่อชีวิตส่วนตัวและครอบครัว
- รู้สึกไม่เป็นมืออาชีพและรู้สึกไม่เข้ากับการเทรดรายวันโดยเฉพาะเนื่องจากไม่มีหุ้นในพอร์ตโฟลิโอ
การปรับกลยุทธ์จากเดย์เทรดไปสู่การสวิงเทรดเพื่อทำกำไรที่รวดเร็วขึ้น
- ใช้กลยุทธ์เดิมจากการเทรดรายวันเพื่อค้นหาโอกาสการเทรดแบบ Swing ที่เร็วขึ้น
- สนุกกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และรู้สึกผ่อนคลายกับแนวทางใหม่
การเรียนรู้จากที่ปรึกษาและการรับมือกับความท้าทายในการเทรด
- ที่ปรึกษาอาจเป็นใครก็ได้ที่มีแนวคิดใหม่ ๆ ไม่ใช่แค่คนที่มีประสบการณ์
- การเผชิญความท้าทายในการเทรดต้องอาศัยสภาพจิตใจที่เข้มแข็งและการจดบันทึกที่ดี
- อย่าหยุดเรียนรู้ เพราะการเรียนรู้เป็นสิ่งสำคัญในทุกระยะของการเทรด
3 Setup หลักสำหรับการสวิงเทรดของเขา
1. Breakouts แบบคลาสสิก: กราฟแสดงการพุ่งขึ้นแรง (big leg up) ตามด้วยการสะสมราคาแน่น ๆ ทางขวา นักเทรดจะมองหาการเข้าซื้อเมื่อเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่สอดคล้องกับรูปแบบนี้
2. Pivot เป็นช่วงๆ หลังประกาศผลประกอบการ: มักเกิดจากปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้ราคาหุ้นเกิดช่องว่าง (gap up) และมักจะขึ้นต่อในวันถัดไป
3. Parabolic Short: เป็นการเทรดระยะสั้นที่มองหาโอกาสทำกำไรจากการเคลื่อนไหวแบบพาราโบลิก
การใช้โมเดลการประเมินมูลค่าของสถาบันและกองทุนที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เมื่อเกิดเหตุการณ์สำคัญ
- หุ้นอาจถูกประเมินมูลค่าต่ำหรือสูงเกินไปหลังจากเกิดเหตุการณ์สำคัญ เช่น การประกาศผลประกอบการหรือข่าวใหญ่
- สถาบันมักใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนในการสร้างตำแหน่งในหุ้น จึงสร้างโอกาสการเทรดให้กับนักลงทุนรายย่อย
การเตรียมตัวสำหรับการสวิงเทรด
- ใช้การสแกนหุ้นเพื่อวิเคราะห์การแกว่งของราคาหุ้น โดยเฉพาะในช่วง 10-20 นาทีก่อนตลาดเปิด
- มีหน้าต่างการสั่งการที่แสดงตำแหน่งและสแกนระหว่างวันเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลในช่วงก่อนตลาดเปิด
- ตรวจสอบความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติของหุ้นในช่วงก่อนตลาดเปิด
- ใช้การสแกนเพื่อกรองหุ้นที่มีแรงซื้อที่แข็งแกร่งในช่วง 1 เดือน, 3 เดือน และ 6 เดือน
- พัฒนารายการหุ้นที่น่าสนใจและสแกนหาหุ้นที่มีปริมาณซื้อขายสูง
- พัฒนาการสแกนเพื่อหาการเคลื่อนไหวของรูปแบบกราฟและความต่อเนื่องของแรงกระตุ้น
- ตรวจสอบรายการเทรดที่เป็นไปได้สำหรับสัปดาห์นี้และอัปเดตอย่างสม่ำเสมอ
- วาดเส้นแนวโน้มและตั้งค่าเตือนสำหรับการ Breakout
- วิเคราะห์หุ้นก่อนตลาดเปิดสำหรับข่าวผลประกอบการ ปริมาณซื้อขาย และปัจจัยกระตุ้นต่างๆ
- ใช้การวิเคราะห์พื้นฐานและเทคนิคประกอบการตัดสินใจ
- มองหาปัจจัยกระตุ้น เช่น ข่าวแนะนำทางการเงิน ผลกำไรเร่งตัว และการเติบโตของยอดขาย
- เน้นเทรดหุ้นที่มีสภาพคล่องสูง มีมูลค่าการซื้อขายมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ต่อวัน
- เลือกหุ้นที่มีราคาเฉลี่ยต่อวันสูงกว่า $1 และค่าเฉลี่ยการเคลื่อนไหวรายวันเกินกว่า 5 จุด
- กระจายการเทรดแบบ Breakout ไปยังหุ้นที่เคลื่อนไหวเร็วที่มีโอกาสขึ้น 100-200%
- สร้างรายการเฝ้าดูหุ้นในรูปแบบและธีมต่าง ๆ เพื่อการเทรดที่สำเร็จ
- เฝ้าดูหุ้นที่มีแรงซื้อแข็งแกร่งเทียบกับตลาดโดยรวม
- เข้าใจความสำคัญของการเทรดหุ้นที่มีแรงซื้อมาก โดยเฉพาะในช่วงขาลงหรือตลาดขาขึ้น
---
การทบทวนประจำสัปดาห์ที่เน้นการสแกนเชิงลึกและปรับปรุงรายการเฝ้าดู
- การสแกนประจำสัปดาห์ควรมีรายละเอียดเพื่อตรวจหาหุ้นที่มีประสิทธิภาพต่ำหรือไม่เหมาะกับการเทรด
- ปรับปรุงรายการเฝ้าดูโดยลบหุ้นที่ไม่ทำกำไรออก และเน้นที่หุ้นที่มีศักยภาพ
- ทบทวนตลาดหุ้นและรายการเฝ้าดูจากสัปดาห์ก่อนเพื่อดูการ Breakout และการเปลี่ยนแปลงของตลาด
- รักษารายการเฝ้าดูเพื่อช่วยให้การติดตามหุ้นมีประสิทธิภาพ และพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของตลาด
---
โฟกัสที่การสร้างผลตอบแทนที่ไม่สมมาตร (Asymmetric Returns)
- อัตราการชนะโดยเฉลี่ยคือ 32% มีความผันผวนบ้าง
- กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่น้อยต่อการเทรดแต่ละครั้งประมาณ 0.25% ถึง 0.4%
- การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญในการหลีกเลี่ยงการขาดทุนต่อเนื่องตามอัตราการชนะและความถี่ในการเทรด
- การลดสัดส่วนความเสี่ยงช่วยลดการผันผวนทางอารมณ์จากการขาดทุนที่หนัก
- ใช้กลยุทธ์ Stop-Loss อย่างรัดกุมเพื่อป้องกันการขาดทุนและรักษากำไร
- ตั้ง Stop-Loss ไว้สูงกว่าราคาตลาดเล็กน้อยเพื่อให้เพิ่มขนาดการลงทุนได้อย่างอิสระ
การมองหาและใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวใหญ่ในตลาดหุ้น
- ใช้ปริมาณการซื้อขายและการเคลื่อนไหวของราคาสำหรับจับการเคลื่อนไหวขนาดใหญ่และการสะสมตัวของหุ้น
- ใช้กลยุทธ์ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เพื่อการเคลื่อนไหวในรูปแบบต่างๆ ของหุ้น
- ขายหุ้นเมื่อตลาดยังคงแข็งแกร่ง ใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ และเฝ้าดูรูปแบบการกลับตัว
การใช้กราฟรายนาทีเพื่อการเข้าและตั้ง Stop-Loss
- ใช้กราฟราย 1 นาที และ 5 นาทีเพื่อคาดการณ์จุด Pivot และ Breakout
- เข้าซื้อขายโดยใช้จุด Breakout และสัญญาณความแข็งแกร่งของราคา
การใช้มาร์จิ้นอย่างรอบคอบเป็นกุญแจสู่การจัดการความเสี่ยง
- ใช้มาร์จิ้นด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดอยู่ในช่วงขาขึ้น
- ก่อนใช้มาร์จิ้น ควรประเมินคุณภาพของตำแหน่งการลงทุนและลดการเสี่ยงในหุ้นที่ไม่ทำกำไร
การถือครองตำแหน่งเยอะเกินไปทำให้เกิดอารมณ์และลดกำไร
- การถือครองหลายตำแหน่งอาจทำให้รู้สึกไม่มั่นคงและทำให้เกิดความกลัวต่อการเคลื่อนไหวของตลาด
- การถือครองตำแหน่งน้อยทำให้ควบคุมได้ง่ายและตัดสินใจได้ดีกว่า
การเทรดที่ประสบความสำเร็จอาศัยเพียงการเทรดไม่กี่ครั้งที่มีผลกระทบสูง
- การเทรดหลายครั้งอาจไม่มีการเคลื่อนไหวหรือหยุดขาดทุน
- การเทรดเพียงไม่กี่ครั้งที่มีผลสูงแต่ละเดือนสามารถสร้างผลบวกต่อบัญชีการเทรดได้อย่างมีนัยสำคัญ
หลีกเลี่ยงการให้เป้าหมายระยะสั้นกำหนดการเทรด มุ่งเน้นที่ระยะยาว
- เป้าหมายระยะสั้นอาจสร้างแรงกดดันและทำให้เกิดความผิดพลาดได้
- หลีกเลี่ยงการเทรดตามอารมณ์หรือการเพิ่มขนาดตำแหน่งเพียงเพื่อตอบโจทย์ระยะสั้น
มุ่งเน้นการพัฒนาอย่างต่อเนื่องแทนที่จะหวังผลตอบแทนสูง
- รักษาทั้งความเข้มแข็งทางจิตใจและเงินทุนเพื่อหลีกเลี่ยงการหยุดเทรด
- รอช่วงการเรียนรู้ที่ราบรื่นก่อนที่จะก้าวอย่างรวดเร็ว (เริ่มจากเล็ก ๆ ก่อน)
- ศึกษาการตั้งค่าการเทรดในอดีตและมุ่งเน้นที่สิ่งที่ได้ผล (ศึกษาอย่างต่อเนื่อง)
- อย่าลืมพักผ่อนเพื่อสุขภาพจิตที่ดี และหลีกเลี่ยงการหมดไฟ
- Get link
- Other Apps