10 วิธีเสียเงินในตลาดหุ้น Wall Street (Ways to Lose Money in Wall Street)

Image
วิธีเสียเงินในตลาดหุ้น Wall Street (Ways to Lose Money in Wall Street) ข้อความนี้เป็นคำเตือนที่บอกถึงวิธีที่นักลงทุนมักทำผิดพลาดและนำไปสู่การขาดทุนในตลาดหุ้น หากคุณต้องการประสบความสำเร็จ คุณควรหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้!: --- 1. เชื่อมั่นในข่าวลือในห้องประชุม (Put your trust in board-room gossip.) อย่าเชื่อในข่าวลือที่ไม่มีที่มาที่ไป แม้แต่ข้อมูลจาก "วงใน" หรือแหล่งข่าวที่ดูน่าเชื่อถือ เพราะมันอาจผิดพลาดหรือเป็นข้อมูลที่ถูกบิดเบือนเพื่อประโยชน์ของคนอื่น --- 2. เชื่อทุกอย่างที่ได้ยิน โดยเฉพาะคำแนะนำลับ (Believe everything you hear, especially tips.) คำแนะนำจากคนอื่นอาจดูดี แต่บ่อยครั้งที่มันไม่เหมาะกับสถานการณ์หรือความเสี่ยงของคุณเอง การเชื่อคนอื่นแบบไม่ตรวจสอบอาจทำให้คุณพลาด --- 3. ถ้าคุณไม่รู้ ให้เดา(เข้าข้างตัวเอง)เอา (If you don’t know — guess.) การลงทุนโดยไม่เข้าใจสิ่งที่ทำหรือการเดาโดยไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนเป็นเส้นทางสู่การขาดทุน คุณต้องศึกษาก่อนตัดสินใจ --- 4. ทำตามกระแสโดยไม่ใช้ความได้เปรียบของตนเอง (Follow the public.) การทำตามคนส่วนใหญ่ในตลาดอาจทำให้คุณซื้อเมื่อราคาแพงหรือ...

การพัฒนาตนเองเป็นนักเทรดที่สำเร็จและเทคนิคสวิงเทรด สูตร Marios Stamatoudis

e-book : วินัย:ผลพลอยได้ของ Edge... ในรูปแบบ ebook

บทสัมภาษณ์ที่ Marios Stamatoudis ให้กับ @TraderLion_

เกี่ยวกับแนวทางการเทรดและการพัฒนาตนเองในการเป็นนักเทรด :

แปลจาก https://x.com/Hydra_XT/status/1753794850510491921

---


ศึกษาและติดตามการเคลื่อนไหวของราคาเพื่อการเทรดที่ทำกำไร

- ใช้พื้นฐานเป็นแนวทาง และดูการเคลื่อนไหวของราคาเพื่อยืนยันแนวโน้ม

- ใช้รูปแบบและสัญญาณการเทรดที่เรียนรู้จากทฤษฎีเพื่อหาโอกาสที่ดี


การตระหนักถึงความสำคัญของการค้นคว้าและเรียนรู้ด้วยตัวเอง

- การศึกษาและเรียนรู้เป็นเหมือนการฝึกฝน ทำให้คุณรักการเทรด

- แพลตฟอร์มการวิเคราะห์กราฟและการมีวินัยในการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ

- ตระหนักว่าการเทรดให้ได้ผลดีต้องเลิกพึ่งพาความรู้ของคนอื่น และเริ่มวิจัยและศึกษาเอง

- ใช้เวลาหลายเดือนในการศึกษาและทำความเข้าใจจากการเทรดของนักเทรดที่มีประสบการณ์ เพื่อพัฒนากลยุทธ์การเทรดของตนเอง

- เริ่มต้นจากการไม่อ่านหนังสือเทรด แต่ต่อมาได้ศึกษา “How to Make Money in Stocks” ของ William O'Neil

- หนังสือและประสบการณ์การเทรดช่วยให้เกิดความเข้าใจเชิงลึกและทำให้การเทรดดีขึ้น

- ค้นพบแรงบันดาลใจและแรงผลักดันจากนักเทรดชั้นนำเช่น Oliver Kell

- หนังสือทั้งด้านเทคนิคและปรัชญาเกี่ยวกับการเทรดช่วยเปลี่ยนจากการเทรดรายวัน (Day Trading) เป็นการเทรดระยะยาวขึ้น (Swing Trading)


ประเภทของหนังสือเกี่ยวกับการเทรด

- หนังสือเกี่ยวกับนักเทรดชั้นนำและเรื่องราวต่าง ๆ ของตลาดหุ้น

- หนังสือที่ให้เครื่องมือและความรู้ที่สามารถนำไปใช้ได้จริง

- หนังสือส่วนตัวที่เขียนเพื่อตนเอง (บันทึกการเทรดของตัวเอง) ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจอย่างแท้จริง


ความหลงใหลเป็นสิ่งสำคัญในโลกการเทรด

- ความหลงใหลในด้านการเทรดเริ่มต้นจากการศึกษาและค้นพบสิ่งใหม่

- ความหลงใหลในด้านการเทรดต้องถูกเก็บรักษาไว้แม้ในช่วงที่ยากลำบาก


การเผชิญกับความเหนื่อยล้าและความเครียดจากการหมกมุ่นในไลฟ์สไตล์การเทรด

- เผชิญกับการหมดพลังจากการศึกษาการเทรดมากเกินไปและสูญเสียความสัมพันธ์กับเพื่อน ๆ จนรู้สึกเครียด

- พบกับความท้าทายในการเทรดรายวัน ต้องพึ่งอัตราการชนะมากกว่าการจัดการความเสี่ยง นำไปสู่การสูญเสียที่มากขึ้นเมื่อเกิดการเคลื่อนไหวที่ไม่เป็นใจ

- รู้สึกท้อแท้และซึมเศร้าเมื่อต้องเจอกับการสูญเสียครั้งใหญ่ ซึ่งส่งผลต่อชีวิตส่วนตัวและครอบครัว

- รู้สึกไม่เป็นมืออาชีพและรู้สึกไม่เข้ากับการเทรดรายวันโดยเฉพาะเนื่องจากไม่มีหุ้นในพอร์ตโฟลิโอ


การปรับกลยุทธ์จากเดย์เทรดไปสู่การสวิงเทรดเพื่อทำกำไรที่รวดเร็วขึ้น

- ใช้กลยุทธ์เดิมจากการเทรดรายวันเพื่อค้นหาโอกาสการเทรดแบบ Swing ที่เร็วขึ้น

- สนุกกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และรู้สึกผ่อนคลายกับแนวทางใหม่


การเรียนรู้จากที่ปรึกษาและการรับมือกับความท้าทายในการเทรด

- ที่ปรึกษาอาจเป็นใครก็ได้ที่มีแนวคิดใหม่ ๆ ไม่ใช่แค่คนที่มีประสบการณ์

- การเผชิญความท้าทายในการเทรดต้องอาศัยสภาพจิตใจที่เข้มแข็งและการจดบันทึกที่ดี

- อย่าหยุดเรียนรู้ เพราะการเรียนรู้เป็นสิ่งสำคัญในทุกระยะของการเทรด



3 Setup หลักสำหรับการสวิงเทรดของเขา

1. Breakouts แบบคลาสสิก: กราฟแสดงการพุ่งขึ้นแรง (big leg up) ตามด้วยการสะสมราคาแน่น ๆ ทางขวา นักเทรดจะมองหาการเข้าซื้อเมื่อเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่สอดคล้องกับรูปแบบนี้

2. Pivot เป็นช่วงๆ หลังประกาศผลประกอบการ: มักเกิดจากปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้ราคาหุ้นเกิดช่องว่าง (gap up) และมักจะขึ้นต่อในวันถัดไป

3. Parabolic Short: เป็นการเทรดระยะสั้นที่มองหาโอกาสทำกำไรจากการเคลื่อนไหวแบบพาราโบลิก


การใช้โมเดลการประเมินมูลค่าของสถาบันและกองทุนที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เมื่อเกิดเหตุการณ์สำคัญ

- หุ้นอาจถูกประเมินมูลค่าต่ำหรือสูงเกินไปหลังจากเกิดเหตุการณ์สำคัญ เช่น การประกาศผลประกอบการหรือข่าวใหญ่

- สถาบันมักใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนในการสร้างตำแหน่งในหุ้น จึงสร้างโอกาสการเทรดให้กับนักลงทุนรายย่อย


การเตรียมตัวสำหรับการสวิงเทรด

- ใช้การสแกนหุ้นเพื่อวิเคราะห์การแกว่งของราคาหุ้น โดยเฉพาะในช่วง 10-20 นาทีก่อนตลาดเปิด

- มีหน้าต่างการสั่งการที่แสดงตำแหน่งและสแกนระหว่างวันเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลในช่วงก่อนตลาดเปิด

- ตรวจสอบความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติของหุ้นในช่วงก่อนตลาดเปิด

- ใช้การสแกนเพื่อกรองหุ้นที่มีแรงซื้อที่แข็งแกร่งในช่วง 1 เดือน, 3 เดือน และ 6 เดือน

- พัฒนารายการหุ้นที่น่าสนใจและสแกนหาหุ้นที่มีปริมาณซื้อขายสูง

- พัฒนาการสแกนเพื่อหาการเคลื่อนไหวของรูปแบบกราฟและความต่อเนื่องของแรงกระตุ้น

- ตรวจสอบรายการเทรดที่เป็นไปได้สำหรับสัปดาห์นี้และอัปเดตอย่างสม่ำเสมอ

- วาดเส้นแนวโน้มและตั้งค่าเตือนสำหรับการ Breakout

- วิเคราะห์หุ้นก่อนตลาดเปิดสำหรับข่าวผลประกอบการ ปริมาณซื้อขาย และปัจจัยกระตุ้นต่างๆ

- ใช้การวิเคราะห์พื้นฐานและเทคนิคประกอบการตัดสินใจ

- มองหาปัจจัยกระตุ้น เช่น ข่าวแนะนำทางการเงิน ผลกำไรเร่งตัว และการเติบโตของยอดขาย

- เน้นเทรดหุ้นที่มีสภาพคล่องสูง มีมูลค่าการซื้อขายมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ต่อวัน

- เลือกหุ้นที่มีราคาเฉลี่ยต่อวันสูงกว่า $1 และค่าเฉลี่ยการเคลื่อนไหวรายวันเกินกว่า 5 จุด

- กระจายการเทรดแบบ Breakout ไปยังหุ้นที่เคลื่อนไหวเร็วที่มีโอกาสขึ้น 100-200%

- สร้างรายการเฝ้าดูหุ้นในรูปแบบและธีมต่าง ๆ เพื่อการเทรดที่สำเร็จ

- เฝ้าดูหุ้นที่มีแรงซื้อแข็งแกร่งเทียบกับตลาดโดยรวม

- เข้าใจความสำคัญของการเทรดหุ้นที่มีแรงซื้อมาก โดยเฉพาะในช่วงขาลงหรือตลาดขาขึ้น


---


การทบทวนประจำสัปดาห์ที่เน้นการสแกนเชิงลึกและปรับปรุงรายการเฝ้าดู

- การสแกนประจำสัปดาห์ควรมีรายละเอียดเพื่อตรวจหาหุ้นที่มีประสิทธิภาพต่ำหรือไม่เหมาะกับการเทรด

- ปรับปรุงรายการเฝ้าดูโดยลบหุ้นที่ไม่ทำกำไรออก และเน้นที่หุ้นที่มีศักยภาพ

- ทบทวนตลาดหุ้นและรายการเฝ้าดูจากสัปดาห์ก่อนเพื่อดูการ Breakout และการเปลี่ยนแปลงของตลาด

- รักษารายการเฝ้าดูเพื่อช่วยให้การติดตามหุ้นมีประสิทธิภาพ และพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของตลาด


---


โฟกัสที่การสร้างผลตอบแทนที่ไม่สมมาตร (Asymmetric Returns)

- อัตราการชนะโดยเฉลี่ยคือ 32% มีความผันผวนบ้าง

- กลยุทธ์นี้เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่น้อยต่อการเทรดแต่ละครั้งประมาณ 0.25% ถึง 0.4%

- การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญในการหลีกเลี่ยงการขาดทุนต่อเนื่องตามอัตราการชนะและความถี่ในการเทรด

- การลดสัดส่วนความเสี่ยงช่วยลดการผันผวนทางอารมณ์จากการขาดทุนที่หนัก

- ใช้กลยุทธ์ Stop-Loss อย่างรัดกุมเพื่อป้องกันการขาดทุนและรักษากำไร

- ตั้ง Stop-Loss ไว้สูงกว่าราคาตลาดเล็กน้อยเพื่อให้เพิ่มขนาดการลงทุนได้อย่างอิสระ


การมองหาและใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวใหญ่ในตลาดหุ้น

- ใช้ปริมาณการซื้อขายและการเคลื่อนไหวของราคาสำหรับจับการเคลื่อนไหวขนาดใหญ่และการสะสมตัวของหุ้น

- ใช้กลยุทธ์ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เพื่อการเคลื่อนไหวในรูปแบบต่างๆ ของหุ้น

- ขายหุ้นเมื่อตลาดยังคงแข็งแกร่ง ใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ และเฝ้าดูรูปแบบการกลับตัว


การใช้กราฟรายนาทีเพื่อการเข้าและตั้ง Stop-Loss

- ใช้กราฟราย 1 นาที และ 5 นาทีเพื่อคาดการณ์จุด Pivot และ Breakout

- เข้าซื้อขายโดยใช้จุด Breakout และสัญญาณความแข็งแกร่งของราคา


การใช้มาร์จิ้นอย่างรอบคอบเป็นกุญแจสู่การจัดการความเสี่ยง

- ใช้มาร์จิ้นด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดอยู่ในช่วงขาขึ้น

- ก่อนใช้มาร์จิ้น ควรประเมินคุณภาพของตำแหน่งการลงทุนและลดการเสี่ยงในหุ้นที่ไม่ทำกำไร


การถือครองตำแหน่งเยอะเกินไปทำให้เกิดอารมณ์และลดกำไร

- การถือครองหลายตำแหน่งอาจทำให้รู้สึกไม่มั่นคงและทำให้เกิดความกลัวต่อการเคลื่อนไหวของตลาด

- การถือครองตำแหน่งน้อยทำให้ควบคุมได้ง่ายและตัดสินใจได้ดีกว่า


การเทรดที่ประสบความสำเร็จอาศัยเพียงการเทรดไม่กี่ครั้งที่มีผลกระทบสูง

- การเทรดหลายครั้งอาจไม่มีการเคลื่อนไหวหรือหยุดขาดทุน

- การเทรดเพียงไม่กี่ครั้งที่มีผลสูงแต่ละเดือนสามารถสร้างผลบวกต่อบัญชีการเทรดได้อย่างมีนัยสำคัญ


หลีกเลี่ยงการให้เป้าหมายระยะสั้นกำหนดการเทรด มุ่งเน้นที่ระยะยาว

- เป้าหมายระยะสั้นอาจสร้างแรงกดดันและทำให้เกิดความผิดพลาดได้

- หลีกเลี่ยงการเทรดตามอารมณ์หรือการเพิ่มขนาดตำแหน่งเพียงเพื่อตอบโจทย์ระยะสั้น


มุ่งเน้นการพัฒนาอย่างต่อเนื่องแทนที่จะหวังผลตอบแทนสูง

- รักษาทั้งความเข้มแข็งทางจิตใจและเงินทุนเพื่อหลีกเลี่ยงการหยุดเทรด

- รอช่วงการเรียนรู้ที่ราบรื่นก่อนที่จะก้าวอย่างรวดเร็ว (เริ่มจากเล็ก ๆ ก่อน)

- ศึกษาการตั้งค่าการเทรดในอดีตและมุ่งเน้นที่สิ่งที่ได้ผล (ศึกษาอย่างต่อเนื่อง)

- อย่าลืมพักผ่อนเพื่อสุขภาพจิตที่ดี และหลีกเลี่ยงการหมดไฟ


7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

Marios Stamatoudis สวิงเทรดปั้นพอร์ตโต 291.2% ในปีเดียว เขาทำได้อย่างไร?

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

Oliver Kell: วงจรของการเคลื่อนไหวของราคา (Cycle of Price Action)

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน