10 วิธีเสียเงินในตลาดหุ้น Wall Street (Ways to Lose Money in Wall Street)

Image
วิธีเสียเงินในตลาดหุ้น Wall Street (Ways to Lose Money in Wall Street) ข้อความนี้เป็นคำเตือนที่บอกถึงวิธีที่นักลงทุนมักทำผิดพลาดและนำไปสู่การขาดทุนในตลาดหุ้น หากคุณต้องการประสบความสำเร็จ คุณควรหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้!: --- 1. เชื่อมั่นในข่าวลือในห้องประชุม (Put your trust in board-room gossip.) อย่าเชื่อในข่าวลือที่ไม่มีที่มาที่ไป แม้แต่ข้อมูลจาก "วงใน" หรือแหล่งข่าวที่ดูน่าเชื่อถือ เพราะมันอาจผิดพลาดหรือเป็นข้อมูลที่ถูกบิดเบือนเพื่อประโยชน์ของคนอื่น --- 2. เชื่อทุกอย่างที่ได้ยิน โดยเฉพาะคำแนะนำลับ (Believe everything you hear, especially tips.) คำแนะนำจากคนอื่นอาจดูดี แต่บ่อยครั้งที่มันไม่เหมาะกับสถานการณ์หรือความเสี่ยงของคุณเอง การเชื่อคนอื่นแบบไม่ตรวจสอบอาจทำให้คุณพลาด --- 3. ถ้าคุณไม่รู้ ให้เดา(เข้าข้างตัวเอง)เอา (If you don’t know — guess.) การลงทุนโดยไม่เข้าใจสิ่งที่ทำหรือการเดาโดยไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนเป็นเส้นทางสู่การขาดทุน คุณต้องศึกษาก่อนตัดสินใจ --- 4. ทำตามกระแสโดยไม่ใช้ความได้เปรียบของตนเอง (Follow the public.) การทำตามคนส่วนใหญ่ในตลาดอาจทำให้คุณซื้อเมื่อราคาแพงหรือ...

อย่าเลือกอาชีพเทรด แต่จงเลือกที่จะใช้ชีวิตแบบนักเทรด


คำว่า "อย่าเลือกอาชีพเทรด แต่จงเลือกที่จะใช้ชีวิตแบบนักเทรด" มีความหมายที่ลึกซึ้งและเป็นแนวทางการคิดที่แสดงถึงการสร้างแนวทางชีวิตของนักเทรดที่ไม่ได้ยึดติดแค่กับการทำอาชีพเทรด แต่เป็นการสร้างวิถีชีวิตที่สอดคล้องกับการเป็นนักเทรดอย่างแท้จริง ซึ่งสามารถอธิบายได้เป็นขั้นตอนดังนี้:


1. ความแตกต่างระหว่าง "อาชีพเทรด" และ "ชีวิตแบบนักเทรด"

   - อาชีพเทรด: การมองการเทรดเป็นแค่ "งาน" หรือ "อาชีพ" หนึ่งที่คุณทำเพื่อหาเงิน คุณอาจจะเข้ามาเทรดในตลาดหุ้น ฟอเร็กซ์ หรือคริปโตฯ เพื่อทำกำไร แต่เมื่อจบวัน คุณก็แค่ปิดหน้าจอและกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ

   - ชีวิตแบบนักเทรด: การเทรดไม่ใช่แค่อาชีพ แต่เป็น "วิถีชีวิต" ที่ผสมผสานเข้ากับตัวตนของคุณ คุณไม่ใช่แค่เทรดเพื่อหาเงิน แต่คุณคิดแบบนักเทรด ใช้ชีวิตและวางแผนแบบนักเทรด ซึ่งหมายถึงการเรียนรู้ที่จะรับมือกับความเสี่ยง การจัดการอารมณ์ และการสร้างวินัยให้กับตัวเองอย่างสม่ำเสมอ


2. การสร้างความยั่งยืน

   การใช้ชีวิตแบบนักเทรดหมายถึงการมองการเทรดในระยะยาว คุณไม่เร่งรีบที่จะทำกำไรในระยะสั้นจนเสี่ยงที่จะเสียเงิน แต่คุณวางแผนและปรับปรุงกลยุทธ์อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความยั่งยืน นักเทรดที่ใช้ชีวิตแบบนี้จะรู้จักการกระจายความเสี่ยง (Diversification) และมีการจัดการเงิน (Money Management) อย่างรอบคอบ


 3. การเรียนรู้และพัฒนาตนเองตลอดเวลา

   การเป็นนักเทรดที่แท้จริงหมายถึงการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง คุณต้องศึกษาและพัฒนาทักษะของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ทางเทคนิค การอ่านกราฟ การวิเคราะห์เศรษฐกิจ และอื่น ๆ เพราะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการเตรียมพร้อมและปรับตัวจึงเป็นสิ่งสำคัญ


4. การควบคุมอารมณ์และวินัยในตัวเอง

   ชีวิตของนักเทรดมีความเสี่ยงและความท้าทาย ซึ่งสิ่งสำคัญคือการควบคุมอารมณ์และรักษาวินัย หากคุณแค่ทำการเทรดเป็นงาน การควบคุมอารมณ์อาจเป็นเรื่องยาก แต่ถ้าคุณเลือกที่จะใช้ชีวิตแบบนักเทรด คุณจะเรียนรู้การรับมือกับความกลัว ความโลภ และความไม่แน่นอนอย่างมีสติ


5. การมองหาความหมายที่มากกว่าการทำกำไร

   นักเทรดที่ใช้ชีวิตแบบนี้จะมองเห็นความหมายในการเทรดมากกว่าการทำกำไร เขาจะรู้สึกสนุกและหลงใหลในการเข้าใจตลาด การวิเคราะห์กราฟ และการพัฒนาทักษะตนเองไปเรื่อย ๆ ชีวิตของเขาจะไม่ยึดติดกับผลลัพธ์หรือเงินทอง แต่เป็นการเดินทางและการเติบโตทางจิตใจและทักษะที่สำคัญ


สรุป

คำว่า "อย่าเลือกอาชีพเทรด แต่จงเลือกที่จะใช้ชีวิตแบบนักเทรด" จึงหมายถึงการไม่มองการเทรดเป็นแค่อาชีพที่ทำเพื่อหาเงิน แต่เป็นการเลือกสร้างวิถีชีวิตที่มุ่งเน้นการเรียนรู้ การเติบโต และการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องในฐานะนักเทรด คุณจะไม่แค่ทำงานเพื่อเงิน แต่จะสนุกกับการพัฒนาตนเองและใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าและยั่งยืนไปพร้อม ๆ กัน

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

Marios Stamatoudis สวิงเทรดปั้นพอร์ตโต 291.2% ในปีเดียว เขาทำได้อย่างไร?

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

Oliver Kell: วงจรของการเคลื่อนไหวของราคา (Cycle of Price Action)

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน