อย่าเลือกอาชีพเทรด แต่จงเลือกที่จะใช้ชีวิตแบบนักเทรด

Image
คำว่า "อย่าเลือกอาชีพเทรด แต่จงเลือกที่จะใช้ชีวิตแบบนักเทรด"  มีความหมายที่ลึกซึ้งและเป็นแนวทางการคิดที่แสดงถึงการสร้างแนวทางชีวิตของนักเทรดที่ไม่ได้ยึดติดแค่กับการทำอาชีพเทรด แต่เป็นการสร้างวิถีชีวิตที่สอดคล้องกับการเป็นนักเทรดอย่างแท้จริง ซึ่งสามารถอธิบายได้เป็นขั้นตอนดังนี้: 1. ความแตกต่างระหว่าง "อาชีพเทรด" และ "ชีวิตแบบนักเทรด"    - อาชีพเทรด : การมองการเทรดเป็นแค่ "งาน" หรือ "อาชีพ" หนึ่งที่คุณทำเพื่อหาเงิน คุณอาจจะเข้ามาเทรดในตลาดหุ้น ฟอเร็กซ์ หรือคริปโตฯ เพื่อทำกำไร แต่เมื่อจบวัน คุณก็แค่ปิดหน้าจอและกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ    - ชีวิตแบบนักเทรด : การเทรดไม่ใช่แค่อาชีพ แต่เป็น "วิถีชีวิต" ที่ผสมผสานเข้ากับตัวตนของคุณ คุณไม่ใช่แค่เทรดเพื่อหาเงิน แต่คุณคิดแบบนักเทรด ใช้ชีวิตและวางแผนแบบนักเทรด ซึ่งหมายถึงการเรียนรู้ที่จะรับมือกับความเสี่ยง การจัดการอารมณ์ และการสร้างวินัยให้กับตัวเองอย่างสม่ำเสมอ 2. การสร้างความยั่งยืน    การใช้ชีวิตแบบนักเทรดหมายถึงการมองการเทรดในระยะยาว คุณไม่เร่งรีบที่จะทำกำไรในระยะสั้นจนเสี่ยงที่จะเสียเง

ถึงจะนอนตื่นสาย ก็มีรายได้ประจำ Passive Income ไม่เคยขาดตอน

ถึงจะนอนตื่นสาย ก็มีรายได้ประจำ: Passive Income ไม่เคยขาดตอน


eBook ถึงจะนอนตื่นสาย ก็มีรายได้ประจำ: Passive Income ไม่เคยขาดตอน

ลดราคาจากปก 20% ถึง 25 กันยายนนี้เท่านั้น eBook ถึงจะนอนตื่นสาย ก็มีรายได้ประจำPassive Income ไม่เคยขาดตอน มีจำหน่ายที่แอพ Meb

https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6ODoiMTIzNzExNDMiO3M6NzoiYm9va19pZCI7aTozMjE0NTE7fQ

ในยุคที่ทุกคนต่างโหยหาความมั่นคงทางการเงิน และการสร้างรายได้ที่ไม่ต้องพึ่งพาการทำงานตลอดเวลา การสร้างรายได้แบบ "Passive Income" กลายเป็นหัวข้อที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้น หลายคนฝันว่าอยากนอนตื่นสาย พักผ่อนแบบสบายใจ และยังมีเงินเข้าบัญชีเป็นประจำโดยไม่ต้องทำงานหนักทุกวัน แต่จะทำได้จริงหรือไม่? และจะเริ่มต้นอย่างไร?


Passive Income คืออะไร?

Passive Income หรือรายได้ที่ไม่ต้องทำงานตลอดเวลา คือการที่คุณได้รับเงินจากแหล่งที่คุณเคยสร้างไว้แล้ว เช่น การลงทุนในหุ้น ปันผล การปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์ หรือการสร้างธุรกิจที่สามารถทำงานด้วยตัวเองได้ ระบบนี้แตกต่างจาก Active Income ซึ่งคุณต้องแลกเวลาและแรงกายเพื่อได้รับรายได้ เช่น การทำงานประจำหรือการทำธุรกิจที่คุณต้องบริหารทุกวัน


ข้อดีของ Passive Income

1. อิสระทางเวลา: คุณไม่จำเป็นต้องตื่นเช้าไปทำงาน แต่ยังคงมีรายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ คุณสามารถใช้เวลาไปกับสิ่งที่รักและสนุกกับชีวิต

2. ความมั่นคงทางการเงิน: การมีแหล่งรายได้หลายแหล่งช่วยกระจายความเสี่ยงและลดความกังวลเรื่องการเงิน

3. พลังของการทบต้น: หากคุณใช้ Passive Income มาลงทุนต่อ ยอดรายได้จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง


วิธีสร้าง Passive Income ให้เติบโต

1. การลงทุนในหุ้นปันผล: หุ้นปันผลคือหุ้นของบริษัทที่จ่ายปันผลแก่ผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอ หากคุณมีการวางแผนการลงทุนอย่างชาญฉลาด หุ้นปันผลสามารถสร้างรายได้ให้คุณได้เป็นประจำ

2. การปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์: การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อปล่อยเช่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยสร้างรายได้ประจำ แม้คุณจะใช้เวลาในการจัดการบ้าง แต่เมื่อระบบเสถียร รายได้จะไหลเข้ามาเอง

3. ธุรกิจออนไลน์: เช่น การขายสินค้าดิจิทัล การทำบล็อกที่มีโฆษณา หรือการเปิดร้านค้าออนไลน์ สิ่งเหล่านี้สามารถสร้างรายได้ในระยะยาวได้โดยที่คุณไม่ต้องดูแลทุกวัน

4. สร้างเนื้อหาบน YouTube หรือ Podcast: หากคุณมีความสามารถในการสร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจ คุณสามารถรับรายได้จากโฆษณา การสนับสนุน หรือการขายผลิตภัณฑ์ผ่านเนื้อหาของคุณ


สรุป: ชีวิตอิสระที่ใครๆ ก็ฝันถึง

การสร้าง Passive Income อาจจะไม่ได้มาแบบรวดเร็วหรือโดยไม่ต้องทำอะไรเลย แต่หากคุณลงทุนเวลาและทรัพยากรในตอนแรก คุณสามารถเก็บเกี่ยวผลลัพธ์ระยะยาวได้ การนอนตื่นสายและยังคงมีรายได้ประจำเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ แต่คุณต้องมีความพยายามและวางแผนล่วงหน้า หัวใจสำคัญคือการเลือกช่องทางที่เหมาะสมกับตนเองและพัฒนามันให้ยั่งยืน

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

Setup เงินล้านของ Kristjan Kullamägi

จิตวิทยา การวิเคราะห์และใช้งาน แท่งเทียน Doji

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo