สโตอิกสำหรับคนขี้เกียจ: ขี้เกียจยังไงให้ทำน้อยได้มาก มี Flow ได้ผลงานขั้นเทพ
- Get link
- X
- Other Apps
สโตอิกสำหรับคนขี้เกียจ: ขี้เกียจยังไงให้ทำน้อยได้มาก มี Flow ได้ผลงานขั้นเทพ
"ผมเลือก คนขี้เกียจ ให้ทำงานยาก
เพราะคนขี้เกียจจะหาวิธีง่ายๆ ในการทำงานนั้น"
https://mebmarket.com/?action=book_details&book_id=322316
I choose a lazy person to do a hard job. Because a lazy person will find an easy way to do it.”
- Bill Gates
ในโลกที่เต็มไปด้วยข้อมูลและสิ่งรบกวน ความขี้เกียจอาจถูกมองว่าเป็นข้อเสีย แต่ในความเป็นจริง การขี้เกียจอย่างฉลาดและมีประสิทธิภาพ สามารถนำไปสู่การทำงานที่คุ้มค่า โดยลงแรงน้อยที่สุด หากคุณเป็นคนที่ขี้เกียจ ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่มีศักยภาพ แต่คุณอาจต้องค้นหาวิธีในการจัดการตัวเองเพื่อให้สามารถทำสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้น ด้วยพลังงานที่น้อยลง
สโตอิกศาสตร์: วิธีจัดการตัวเองสำหรับคนขี้เกียจ
ปรัชญาสโตอิกศาสตร์ไม่ได้สอนแค่การควบคุมอารมณ์ แต่ยังสอนการจัดการสิ่งที่ควบคุมได้และปล่อยวางสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ ซึ่งตรงกับแนวคิดของการทำงานน้อยแต่ได้มาก คนที่ขี้เกียจจะใช้สโตอิกเพื่อมุ่งเน้นเฉพาะสิ่งที่สำคัญจริงๆ และตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป
1. เน้นการกระทำที่มีค่า
หลักของสโตอิกศาสตร์คือการเลือกทำสิ่งที่มีความหมายและมีผลกระทบ การขี้เกียจแบบสโตอิกคือการเลือกเฉพาะกิจกรรมที่ให้ผลลัพธ์สูงสุด โดยไม่เสียเวลาไปกับงานที่ไม่มีค่า
2. โฟกัสกับปัจจุบัน
หลายครั้งคนที่ขี้เกียจจะคิดถึงสิ่งที่ควรทำเยอะเกินไปจนท้อ การนำสโตอิกมาใช้คือการโฟกัสแค่ช่วงเวลาปัจจุบันและทำงานทีละน้อย ขณะเดียวกันก็ให้ความสำคัญกับความชัดเจนของเป้าหมาย
3. การจัดการกับการรบกวน
คนขี้เกียจมักจะหลีกเลี่ยงการทำงานเพราะมีสิ่งรบกวนต่างๆ การฝึกสโตอิกจะช่วยให้คุณสามารถฝึกจิตใจให้ไม่ถูกเบี่ยงเบน และทำงานที่สำคัญอย่างต่อเนื่อง ด้วยความนิ่งและมีสมาธิ การรู้จักปล่อยวางและตัดสิ่งที่ไม่สำคัญเป็นอีกหนึ่งทักษะที่จำเป็น
Flow: การทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
คนขี้เกียจที่เข้าใจ Flow จะรู้ว่า การขี้เกียจไม่ใช่การไม่ทำอะไรเลย แต่คือการทำงานในเวลาที่เหมาะสม ทำให้เวลาที่ทำงานนั้นมีคุณภาพสูงสุด การเข้าสู่ Flow เกิดขึ้นเมื่อเราทำงานอย่างลื่นไหล เป็นการทำงานที่ไม่มีแรงต่อต้าน ไม่รู้สึกเครียดหรือต้องฝืนตนเอง
วิธีเข้าสู่ Flow:
1. ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน: เป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้คุณรู้ว่าคุณต้องทำอะไร และจะทำให้คุณไม่เสียเวลาไปกับงานที่ไม่จำเป็น
2. ลดการขัดจังหวะ: คนขี้เกียจที่ประสบความสำเร็จจะตระหนักถึงความสำคัญของการหลีกเลี่ยงการขัดจังหวะ หาที่ทำงานที่เงียบสงบ หรือกำหนดเวลาที่จะไม่มีคนรบกวน
3. การเริ่มต้นเล็กๆ: อย่ากดดันตัวเองจนท้อ เริ่มต้นจากการทำงานเล็กๆ และค่อยๆ เพิ่มไป การทำอย่างต่อเนื่องเล็กๆ น้อยๆ จะทำให้คุณเข้าสู่ Flow ได้อย่างไม่รู้ตัว
ทำน้อย แต่ได้มาก: ขี้เกียจให้ได้ผลลัพธ์ขั้นเทพ
การขี้เกียจไม่ได้หมายความว่าคุณต้องหยุดทุกอย่าง คุณสามารถทำน้อยและยังได้ผลงานขั้นเทพได้ หากคุณจัดการเวลาและพลังงานของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ เรียนรู้การจัดลำดับความสำคัญ และเลือกสิ่งที่คุ้มค่าที่สุดที่จะทำ
ตัวอย่างของการขี้เกียจอย่างได้ผล:
- การตัดสินใจที่รวดเร็ว: คนที่รู้จักการขี้เกียจอย่างฉลาดจะไม่ลังเลในการตัดสินใจ ใช้เวลาน้อยที่สุดเพื่อเลือกสิ่งที่ดีที่สุด
- การทำงานในช่วงเวลาที่เหมาะสม: คนขี้เกียจที่มีประสิทธิภาพจะรู้ว่าเมื่อไหร่ควรทำงาน เมื่อไหร่ควรพักผ่อน การทำงานช่วงที่มีพลังงานสูงจะให้ผลลัพธ์ที่มากกว่าการทำงานแบบลากยาว
- การพักผ่อนเพื่อความสำเร็จ: คนขี้เกียจมักจะรู้ว่าการพักผ่อนเป็นส่วนสำคัญของความสำเร็จ การนอนหลับที่เพียงพอ การพักสั้นๆ ช่วยให้มีสมองที่สดชื่น และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
สรุป: สโตอิกศาสตร์สำหรับคนขี้เกียจ
หากคุณเป็นคนที่คิดว่าตัวเองขี้เกียจ คุณสามารถนำปรัชญาสโตอิกมาใช้ในการสร้างประสิทธิภาพและความสำเร็จในชีวิตประจำวัน การทำน้อยแต่ได้มากคือการเลือกทำสิ่งที่สำคัญและมีค่า ตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป พร้อมกับการโฟกัสอย่างเต็มที่ในช่วงเวลาที่ทำงาน การขี้เกียจไม่ใช่เรื่องเลวร้าย แต่คือโอกาสในการปรับตัวและสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
- Get link
- X
- Other Apps