Mindset การทนรวยขั้นเทพให้ได้กำไรหลายเด้งของ ของ Marios Stamatoudis

Image
จาก  https://x.com/stamatoudism/status/1869037676424208885 สำหรับนักเทรดมือใหม่ คำถามนี้ถามถึงกระบวนการคิดและจิตวิทยาของ Marios Stamatoudis ในการถือหุ้น QUBT เป็นเวลานาน และเปรียบเทียบกับการถือหุ้น LUNR ที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ โดยคำตอบของเขาได้แสดงถึงแนวคิดที่น่าสนใจเกี่ยวกับการจัดการอารมณ์และการวางกลยุทธ์ในตลาดหุ้น สนับสนุนโดย อีบุ๊ค "เคล็ดลึก สวิงเทรด ให้ได้กำไรสม่ำเสมอ"   https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjMzNjYyMjt9 Marios Stamatoudis อธิบายว่า: 1. ไม่ตามติดทุกการเคลื่อนไหวเล็กน้อยของหุ้น     - เขาเลือกที่จะไม่ตรวจสอบแท่งเทียนทุกแท่งหลังจากเข้าซื้อหุ้น เพราะการเฝ้าดูใกล้ชิดเกินไปอาจทำให้เกิดความกังวลและอารมณ์ที่ไม่จำเป็น    - เขายอมรับว่าเขาไม่มีความสามารถที่จะคาดเดาศักยภาพของหุ้นได้ทั้งหมด ดังนั้นการเข้าไปแทรกแซงจึงเพิ่มแรงกดดันและอารมณ์ที่ไม่ดีต่อผลลัพธ์ 2. การยอมรับในความสุ่มของตลาด      - เขาเปลี่ยนมุมมองโดยยอมรับว่าตลาดมีคว...

ถ้าคุณไม่มีแผน Exit คุณก็ไม่มีแผนการเทรด

 


อีบุ๊ก เทคนิค Exit พิชิตผลการเทรด

มีจำหน่ายแล้วที่แอพ Meb https://t.co/6hfYXffLeK

โปรโมชั่น Early Bird : ลดราคา 20% จากปก 30 กย - 2 ตค 


Peter Robbins – "แผนการเข้าตลาดโดยไม่มีแผนการออกตลาด คือแผนสำหรับความล้มเหลว"**

คำกล่าวนี้ของ Peter Robbins เน้นย้ำถึงความสำคัญของการมี **"แผนการออกจากตลาด"** (Exit Plan) ในการเทรด การมีแค่แผนการเข้าตลาด (Entry Plan) อย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ หากคุณไม่มีแผนชัดเจนเกี่ยวกับการออกจากตลาด ไม่ว่าจะเพื่อทำกำไรหรือป้องกันการขาดทุน ผลลัพธ์ที่ตามมาจะมีโอกาสสูงที่จะเป็นความล้มเหลว


1. แผนการออกจากตลาดมีความสำคัญมากกว่าการเข้าตลาด:  

หลายคนมักให้ความสำคัญกับการหา "จุดเข้า" (Entry Point) ที่ดีที่สุด แต่ลืมไปว่าการออกจากตลาด (Exit Strategy) นั้นสำคัญไม่แพ้กัน การเข้าเทรดในจุดที่ดีไม่มีความหมายหากคุณไม่รู้ว่าควรจะออกเมื่อไหร่และอย่างไร การไม่วางแผนการออกจะทำให้คุณไม่มีทิศทางหรือหลักเกณฑ์ในการตัดสินใจ เมื่อเกิดความผันผวนในตลาด คุณจะเสี่ยงต่อการติดอยู่ในสถานะการเทรดที่อาจนำไปสู่การสูญเสียครั้งใหญ่


2. แผนการออกเป็นการป้องกันความเสี่ยงและรักษากำไร:  

แผนการออกจากตลาดเป็นส่วนสำคัญในการจัดการความเสี่ยง เมื่อคุณเปิดสถานะการเทรด ควรจะมีการตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) และจุดทำกำไร (Take Profit) ล่วงหน้า ซึ่งช่วยปกป้องคุณจากการสูญเสียเงินทุนและช่วยรักษากำไรที่ทำได้ การขาดแผนการออกจากตลาดจะทำให้คุณเสี่ยงที่จะเสียกำไรหรือแม้แต่ทุนทั้งหมด


3. การออกจากตลาดช่วยควบคุมอารมณ์:  

การเทรดมักเกี่ยวข้องกับอารมณ์อย่างลึกซึ้ง ทั้งความโลภและความกลัว หากคุณไม่มีแผนการออกจากตลาดที่ชัดเจน คุณอาจปล่อยให้การตัดสินใจถูกควบคุมด้วยอารมณ์ ซึ่งนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาด เช่น การยืดถือสถานะการเทรดที่ขาดทุน หรือการไม่ปิดสถานะเมื่อมีกำไรจนสุดท้ายกำไรหายไป


4. การออกจากตลาดคือการจัดการความไม่แน่นอนของตลาด:  

ตลาดการเงินนั้นเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน แม้คุณจะคาดการณ์ทิศทางของตลาดได้ถูกต้องในช่วงแรก แต่สถานการณ์สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา การมีแผนการออกจากตลาดเป็นการเตรียมตัวรับมือกับความไม่แน่นอนเหล่านั้น การไม่วางแผนการออกเสมือนเป็นการเสี่ยงโชคมากกว่าการเทรดอย่างมีระบบ


5. แผนการออกควบคู่ไปกับแผนการเข้า: 

เพื่อความสำเร็จในการเทรด คุณต้องมีทั้งแผนการเข้าและออกที่ชัดเจนตั้งแต่ต้น นักเทรดที่มีแผนการเข้าตลาดที่ดีจะต้องรู้ว่าเมื่อใดควรปิดสถานะการเทรด การออกจากตลาดที่มีประสิทธิภาพต้องอยู่บนพื้นฐานของการวิเคราะห์และแผนที่วางไว้อย่างรอบคอบ ไม่ใช่การตัดสินใจจากความรู้สึก


สรุป:  

การมีแผนการเข้าตลาดโดยไม่มีแผนการออกจากตลาดคือการเปิดช่องให้เกิดความล้มเหลวในการเทรด การเทรดที่ประสบความสำเร็จต้องมีการวางแผนการออกที่ชัดเจนเพื่อจัดการความเสี่ยง ปกป้องกำไร และควบคุมอารมณ์ การวางแผนล่วงหน้าในทุกขั้นตอนคือหัวใจของการเทรดที่มั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว


7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

แชร์วิธีการหารายได้จากการช่วยขาย ebook ที่ mebmarket.com

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ