อย่าเลือกอาชีพเทรด แต่จงเลือกที่จะใช้ชีวิตแบบนักเทรด

Image
คำว่า "อย่าเลือกอาชีพเทรด แต่จงเลือกที่จะใช้ชีวิตแบบนักเทรด"  มีความหมายที่ลึกซึ้งและเป็นแนวทางการคิดที่แสดงถึงการสร้างแนวทางชีวิตของนักเทรดที่ไม่ได้ยึดติดแค่กับการทำอาชีพเทรด แต่เป็นการสร้างวิถีชีวิตที่สอดคล้องกับการเป็นนักเทรดอย่างแท้จริง ซึ่งสามารถอธิบายได้เป็นขั้นตอนดังนี้: 1. ความแตกต่างระหว่าง "อาชีพเทรด" และ "ชีวิตแบบนักเทรด"    - อาชีพเทรด : การมองการเทรดเป็นแค่ "งาน" หรือ "อาชีพ" หนึ่งที่คุณทำเพื่อหาเงิน คุณอาจจะเข้ามาเทรดในตลาดหุ้น ฟอเร็กซ์ หรือคริปโตฯ เพื่อทำกำไร แต่เมื่อจบวัน คุณก็แค่ปิดหน้าจอและกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ    - ชีวิตแบบนักเทรด : การเทรดไม่ใช่แค่อาชีพ แต่เป็น "วิถีชีวิต" ที่ผสมผสานเข้ากับตัวตนของคุณ คุณไม่ใช่แค่เทรดเพื่อหาเงิน แต่คุณคิดแบบนักเทรด ใช้ชีวิตและวางแผนแบบนักเทรด ซึ่งหมายถึงการเรียนรู้ที่จะรับมือกับความเสี่ยง การจัดการอารมณ์ และการสร้างวินัยให้กับตัวเองอย่างสม่ำเสมอ 2. การสร้างความยั่งยืน    การใช้ชีวิตแบบนักเทรดหมายถึงการมองการเทรดในระยะยาว คุณไม่เร่งรีบที่จะทำกำไรในระยะสั้นจนเสี่ยงที่จะเสียเง

“ทำน้อยได้มาก” ตามหลักสโตอิก คืออะไร? ทำอย่างไร?


จำหน่ายแล้ว : สโตอิก สำหรับคนขี้เกียจ... ในรูปแบบ ebook 
ลดราคา 20% จากปก 25-29 กันยายน นี้เท่านั้น

"สโตอิก สำหรับคนขี้เกียจ"

: ขี้เกียจยังไง ให้ทำน้อยได้มาก มี Flow ได้ผลงานขั้นเทพ"

“ทำน้อยได้มาก” ตามหลักสโตอิก คือการเน้นสิ่งที่มีความสำคัญสูงสุดในชีวิตของเรา ด้วยการตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป หลักการนี้ไม่ได้หมายถึงการขี้เกียจหรือละเลยหน้าที่ แต่คือการทำอย่างมีสติ จดจ่อ และมีเป้าหมายชัดเจนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากการลงแรงเพียงเล็กน้อย


ตามแนวคิดของ สโตอิก (Stoicism) ซึ่งเป็นปรัชญาที่มุ่งเน้นการควบคุมตนเองและยอมรับในสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมได้ การ "ทำน้อยได้มาก" คือการใช้พลังงานและทรัพยากรของเราในเรื่องที่เราควบคุมได้ เช่น การจัดการอารมณ์ การตัดสินใจ และการมองเห็นความเป็นจริงอย่างไม่หลงตัวไปกับอารมณ์หรือสิ่งที่ไม่อยู่ในความควบคุม


ลองนึกภาพดูว่า ถ้าชีวิตของคุณเหมือนกับเรือหนึ่งลำ เป้าหมายของหลักสโตอิกคือการพาคุณออกจากความยุ่งเหยิง ลดการโคจรรอบสิ่งที่ไม่จำเป็น เหมือนการโยนของเกะกะทิ้งไปจากเรือ แล้วแล่นไปสู่จุดหมายด้วยการพายที่ชัดเจนและไม่สิ้นเปลืองแรงโดยไม่จำเป็น


วิธีการปฏิบัติตามหลักนี้:

1. โฟกัสกับสิ่งที่ควบคุมได้ – อย่าเสียเวลาและพลังงานไปกับสิ่งที่เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ การยอมรับความจริงที่เราควบคุมไม่ได้จะทำให้จิตใจสงบและปลอดโปร่งมากขึ้น


2. จัดการกับสิ่งสำคัญ – ให้พิจารณาว่า อะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตหรือการงานของเรา แล้วโฟกัสการลงแรงไปที่สิ่งนั้น ไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่าง แต่ต้องทำสิ่งที่มีคุณค่าและส่งผลลัพธ์สูงสุด


3. ลดการกระจายความสนใจ – เลิกพยายามทำหลายสิ่งพร้อมกัน เรียนรู้การตัดสิ่งที่ไม่สำคัญออกไป แล้วทำสิ่งที่สำคัญเพียงอย่างเดียวอย่างตั้งใจ


4. สร้างความชัดเจนในเป้าหมาย – หากคุณรู้ว่าอะไรที่คุณต้องการจริง ๆ ในชีวิตหรือการทำงาน คุณจะสามารถจัดลำดับความสำคัญได้อย่างง่ายดาย และทุ่มเทกับสิ่งนั้นเท่านั้น


ขอบอกเลยว่า การใช้ชีวิตตามหลัก "ทำน้อยได้มาก" นี้ไม่เพียงแต่จะทำให้คุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ยังสร้างความสงบและความสมดุลในชีวิต คุณจะรู้สึกเบาสบายจากภาระอันหนักอึ้งที่คุณเคยคิดว่าต้องแบก และทำให้สามารถก้าวหน้าไปข้างหน้าได้อย่างมั่นใจและปลอดโปร่ง


ทุกการตัดสินใจ ทุกการกระทำ สามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงใหญ่ ๆ ได้ ถ้าเราเลือกที่จะใช้แรงน้อย ๆ ไปกับสิ่งที่มีความหมายสูงสุด!


“ไม่ใช่การทำมากที่ทำให้เราประสบความสำเร็จ แต่เป็นการทำสิ่งที่ถูกต้องต่างหากที่ทำให้เราประสบความสำเร็จ”

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

Setup เงินล้านของ Kristjan Kullamägi

จิตวิทยา การวิเคราะห์และใช้งาน แท่งเทียน Doji

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo