นักเทรดคิดว่างานของพวกเขาคือการทำเงิน แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่!

Image
นักเทรดคิดว่างานของพวกเขาคือการทำเงิน แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่! แปลและขยายความจาก  https://x.com/markminervini/status/1850913591630680378 นักเทรดหลายคนมีความเชื่อผิด ๆ ว่า “งาน” หรือสิ่งที่พวกเขาต้องทำคือการทำกำไรให้ได้มากที่สุด ในความจริงแล้ว เป้าหมายของการเทรดคือการทำเงิน แต่งานจริง ๆ ของนักเทรดนั้นคือการปฏิบัติตามและดำเนินกลยุทธ์ที่ได้วางแผนไว้อย่างมีวินัยโดยไม่หลุดออกจากกรอบที่ตั้งไว้ ถ้าคุณสามารถยึดมั่นในกฎการเทรดของตัวเองอย่างต่อเนื่อง ผลลัพธ์ตามมาคือกำไรและความสำเร็จจะเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ เป้าหมาย vs งานจริงของนักเทรด - เป้าหมาย  คือการทำเงินและสร้างผลตอบแทน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนอยากได้ แต่สิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่คุณสามารถควบคุมได้โดยตรง - งานจริง  ของนักเทรดคือการใช้กลยุทธ์ที่มีโอกาสชนะให้ได้อย่างสม่ำเสมอและมีวินัย ยึดมั่นในแผนการเทรดที่ตั้งไว้ การทำตามกฎของตัวเองอย่างเคร่งครัดจะช่วยให้คุณจัดการกับความเสี่ยงและลดโอกาสขาดทุนได้ ทำไมวินัยจึงสำคัญในงานของนักเทรด การมีวินัยเป็นสิ่งที่ช่วยให้การเทรดมีความมั่นคงและปลอดภัยมากขึ้น การไม่มีวินัยในการเทรดจะทำให้นักเทรดเกิดการตัดสินใจที่ผิดพลาด

สูตรเทรดแล้วรวย ที่อมตะและใช้ได้ทั่วโลก ของพี่ Mark Minervini


ความสำเร็จทางการเงินของผมในทุกๆ เรื่อง 

รวมถึงการเทรดหุ้น

สรุปได้ในประโยคเดียว...

"ผมจะลงเงินของผมให้กับการลงทุนที่มี Upside สูง และจัดการ Downside ของมันให้เหลือเพียงเล็กน้อย

ถ้าคุณจำกัด Downside ได้ดี(ให้เสียน้อย)

Upside ก็จะดูแลตัวเอง(ให้คุณได้เยอะเอง)

นี่คือสูตรเทรดแล้วรวย ที่อมตะและใช้ได้ทั่วโลก"

- มาร์ค มิเนอร์วินี

.

คำพูดของพี่มาร์คแสดงถึงหลักการพื้นฐานของการลงทุนที่เวิร์คตลอดมาและใช้ได้ในวงกว้างเสมอ

นั่นคือจัดการ(เพื่อจำกัดและกำจัด)ความเสี่ยงให้ต่ำ และให้โอกาสทำกำไรสูง เขาพูดถึงการลงทุนในหุ้นหรือสินทรัพย์ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง (X upside potential) แต่ในขณะเดียวกันก็ควบคุมความเสี่ยงหรือการสูญเสีย (Y downside) ให้อยู่ในระดับที่ต่ำมาก

.

.

ทำไมการจำกัด downside จึงสำคัญและต้องทำก่อน?

การจำกัด downside หรือความเสี่ยงของการสูญเสียเป็นกุญแจสำคัญของการเทรดที่ประสบความสำเร็จด้วยเหตุผลหลายประการ:

.

การปกป้องทุน: หากคุณสามารถจำกัดความเสี่ยงในการสูญเสียเงินลงทุนของคุณได้ จะทำให้คุณสามารถอยู่รอดและมีโอกาสในการลงทุนต่อไปในอนาคตได้ การสูญเสียที่มากเกินไปอาจทำให้ทุนของคุณลดลงอย่างรวดเร็วและส่งผลกระทบต่อการลงทุนในอนาคต

.

รักษาความมั่นใจ: การมีแผนการจัดการความเสี่ยงที่ดีช่วยลดความวิตกกังวลและความเครียด ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจได้ดีขึ้นโดยไม่ถูกอารมณ์ควบคุม

.

การจัดการการขาดทุน: การตั้งจุดหยุดขาดทุน (stop-loss) ช่วยให้คุณสามารถตัดขาดทุนได้อย่างรวดเร็วเมื่อการลงทุนไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ซึ่งเป็นการป้องกันไม่ให้ความเสียหายขยายตัวออกไป

.

การเพิ่มโอกาสในการทำกำไร: โดยการจำกัด downside คุณสามารถใช้ทุนที่เหลือไปลงทุนในโอกาสที่มีศักยภาพสูงกว่า ทำให้มีโอกาสทำกำไรที่ดีขึ้น

.

การควบคุมความเสี่ยงในระยะยาว: การจำกัด downside ช่วยให้คุณสามารถควบคุมความเสี่ยงได้ในระยะยาวและรักษาความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่สามารถจัดการได้

.

การรักษาสภาพคล่อง: การควบคุมความเสี่ยงช่วยให้คุณรักษาสภาพคล่องของเงินทุนได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดหรือโอกาสในการลงทุนที่ดี

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

Setup เงินล้านของ Kristjan Kullamägi

จิตวิทยา การวิเคราะห์และใช้งาน แท่งเทียน Doji

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่