"ไม่คัทเพราะกลัวขาดทุนหนัก สุดท้ายขาดทุนหนักกว่าเดิม" เกิดจากอะไร? มาดูกันครับ
- Get link
- Other Apps
1. Loss Aversion (ความกลัวการสูญเสีย)
มนุษย์มักจะกลัวการสูญเสียมากกว่าที่จะได้รับกำไรในจำนวนเดียวกัน ความกลัวการสูญเสียทำให้ผู้คนยอมเสี่ยงที่จะขาดทุนมากขึ้นเพื่อไม่ให้เห็นการขาดทุนจริง ๆ ในปัจจุบัน
2. Confirmation Bias (อคติต่อการยืนยัน)
นักลงทุนมักจะมองหาข้อมูลที่สนับสนุนความเชื่อหรือการตัดสินใจของตนเอง และมองข้ามหรือไม่ยอมรับข้อมูลที่ขัดแย้งกับความเชื่อเหล่านั้น การไม่ยอมคัทขาดทุนอาจเกิดจากการเชื่อว่าหุ้นจะกลับมาฟื้นตัว
3. Overconfidence (ความมั่นใจเกินไป)
นักลงทุนมือใหม่อาจมีความมั่นใจในความสามารถของตนเองมากเกินไป ทำให้เชื่อว่าตนเองจะสามารถทนรอจนกว่าหุ้นจะฟื้นตัวกลับมาได้
4. Sunk Cost Fallacy (ความผิดพลาดในการคิดคำนวณต้นทุนที่จม)
มนุษย์มักจะยึดติดกับการลงทุนที่เคยทำมาแล้ว แม้ว่าจะรู้ว่ามันไม่คุ้มค่าอีกต่อไป การไม่คัทขาดทุนเป็นการยึดติดกับต้นทุนที่จมไปแล้ว หวังว่าจะไม่สูญเสียไปมากกว่านี้
5. Emotional Attachment (การผูกพันทางอารมณ์)
นักลงทุนบางคนอาจผูกพันกับหุ้นบางตัวมากเกินไป เช่น เป็นหุ้นที่ซื้อมานาน หรือมีความรู้สึกส่วนตัวต่อบริษัทนั้น ๆ ทำให้ยากที่จะยอมรับการขาดทุน
6. Lack of Experience (ขาดประสบการณ์)
นักลงทุนมือใหม่อาจไม่มีประสบการณ์ในการรับมือกับการขาดทุน และไม่ทราบว่าการขาดทุนเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุน ความไม่รู้ทำให้เกิดความกลัวและการตัดสินใจที่ผิดพลาด
7. Herd Mentality (พฤติกรรมตามกลุ่ม)
บางครั้งนักลงทุนอาจตัดสินใจโดยยึดตามพฤติกรรมของคนอื่น ๆ ในตลาด เมื่อเห็นคนอื่นไม่คัทขาดทุนก็อาจคิดว่าตนเองควรทำตาม
การเข้าใจเหตุผลเหล่านี้จะช่วยให้นักลงทุนมือใหม่สามารถพัฒนากลยุทธ์ในการรับมือกับการขาดทุนได้ดียิ่งขึ้น การศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับจิตวิทยาการลงทุนและการจัดการความเสี่ยงจะช่วยให้การลงทุนมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- Get link
- Other Apps