การเทรดที่ประสบความสำเร็จ นั้น แค่ “ดีกว่าค่าเฉลี่ย” ก็ยังไม่พอ

Image
Alexander Elder กล่าวว่า การเป็นเพียงแค่ “ดีกว่าค่าเฉลี่ย” ยังไม่เพียงพอ คุณต้องโดดเด่นกว่าใครๆ เพื่อที่จะชนะในเกมที่มีผลรวมติดลบ (Being simply “better than average” is not good enough. You have to be head and shoulders above the crowd to win a minus-sum game.) eBook : คิดและสวิงเทรดเป็นระบบแบบพี่แดน (Dan Zanger) มีจำหน่ายที่แอพ Meb ที่เดียว https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjM0NDM3MTt9 ในคำพูดนี้ Alexander Elder กำลังเน้นย้ำว่า ในโลกของการเทรด การเป็นเพียงแค่คนที่ "เก่งกว่าค่าเฉลี่ย" อาจไม่เพียงพอที่จะประสบความสำเร็จได้ เพราะการเทรดไม่ใช่เกมที่ทุกคนสามารถชนะพร้อมกันได้ มันคือเกมที่เรียกว่า เกมที่มีผลรวมติดลบ (minus-sum game) ซึ่งหมายความว่า ทรัพยากรที่หมุนเวียนอยู่ในตลาด เช่น กำไรและขาดทุน ถูกกระจายไปในกลุ่มผู้เล่น แต่เมื่อรวมต้นทุนการเทรด เช่น ค่าธรรมเนียม นายหน้า และค่าเสียโอกาสแล้ว จะทำให้โดยรวมตลาดมีผลขาดทุนสุทธิ "เกมที่มีผลรวมติดลบ" หมายถึงอะไร? การเทรดในตลาดไม่ได้มี...

Being Right or Making Money ความต่างที่มือใหม่ ไม่เข้าใจ

ทัศนคติการเทรด "Being Right" กับ "Making Money" มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ และสามารถส่งผลต่อผลลัพธ์ของการเทรดได้อย่างชัดเจน ดังนี้:


1. ทัศนคติ "Being Right" (การต้องถูกต้อง)

- ลักษณะของทัศนคติ: นักเทรดที่มีทัศนคตินี้มักจะมุ่งเน้นไปที่การพิสูจน์ว่าตัวเองถูกต้องเสมอ พยายามที่จะทำให้การคาดการณ์และการตัดสินใจในการเทรดถูกต้อง

- ผลลัพธ์:

  - อารมณ์และจิตใจ: นักเทรดอาจรู้สึกเสียใจหรือโกรธเมื่อการเทรดไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ทำให้เกิดความเครียดและความกดดัน

  - การจัดการการขาดทุน: การไม่ยอมรับความผิดพลาดอาจทำให้นักเทรดไม่ยอมปิดตำแหน่งที่ขาดทุน และถือครองตำแหน่งนานเกินไป จนกระทั่งขาดทุนหนักขึ้น

  - การตัดสินใจที่ไม่เป็นระบบ: การพยายามที่จะพิสูจน์ว่าตนเองถูกต้องอาจทำให้นักเทรดเปลี่ยนกลยุทธ์บ่อยๆ ซึ่งนำไปสู่การตัดสินใจที่ไม่เป็นระบบและไม่สอดคล้องกับแผนการเทรด


2. ทัศนคติ "Making Money" (การทำกำไร)

- ลักษณะของทัศนคติ: นักเทรดที่มีทัศนคตินี้มุ่งเน้นไปที่การทำกำไรในระยะยาวมากกว่าการพิสูจน์ว่าตนเองถูกต้อง พวกเขายอมรับความเสี่ยงและเข้าใจว่าการขาดทุนเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเทรด

- ผลลัพธ์:

  - อารมณ์และจิตใจ: นักเทรดมักมีความสงบและมีสมาธิ เพราะมุ่งเน้นที่การปฏิบัติตามแผนการเทรดและการจัดการความเสี่ยง มากกว่าการพิสูจน์ว่าตนเองถูกต้อง

  - การจัดการการขาดทุน: นักเทรดที่มุ่งเน้นการทำกำไรมักมีการตั้งจุดหยุดการขาดทุน (stop loss) ที่ชัดเจน และยอมรับความผิดพลาดได้ง่ายขึ้น ซึ่งช่วยป้องกันการขาดทุนหนัก

  - การตัดสินใจที่เป็นระบบ: การมุ่งเน้นการทำกำไรทำให้นักเทรดปฏิบัติตามกลยุทธ์และแผนการเทรดอย่างเคร่งครัด ลดความเสี่ยงจากการตัดสินใจที่อิงอารมณ์


วิธีการเปลี่ยนทัศนคติจาก "Being Right" เป็น "Making Money"

1. การเรียนรู้และยอมรับความเสี่ยง: นักเทรดควรเรียนรู้ว่าการขาดทุนเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเทรด และไม่มีใครสามารถคาดการณ์ตลาดได้อย่างถูกต้องทุกครั้ง


2. การตั้งจุดหยุดการขาดทุนและจุดทำกำไร: การมีจุดหยุดการขาดทุนและจุดทำกำไรที่ชัดเจนจะช่วยให้นักเทรดสามารถปฏิบัติตามแผนการเทรดได้อย่างมีวินัย


3. การทบทวนและปรับปรุงแผนการเทรด: นักเทรดควรทบทวนผลการเทรดเป็นระยะ และพยายามปรับปรุงกลยุทธ์หรือแผนการเทรดอย่างต่อเนื่อง


4. การพัฒนาทัศนคติที่ถูกต้อง: นักเทรดควรมุ่งเน้นที่การทำกำไรในระยะยาว และพัฒนาทัศนคติที่ยอมรับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนของตลาด


สรุป : ทัศนคติ "Being Right" มุ่งเน้นที่การพิสูจน์ว่าตนเองถูกต้อง ซึ่งอาจทำให้เกิดความเครียดและการตัดสินใจที่ไม่เป็นระบบ ขณะที่ทัศนคติ "Making Money" มุ่งเน้นที่การทำกำไรในระยะยาว ยอมรับความเสี่ยงและการขาดทุนเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเทรด ซึ่งส่งผลให้นักเทรดมีวินัยและปฏิบัติตามแผนการเทรดได้ดียิ่งขึ้น


คอร์สสอนเล่นหุ้น

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

Marios Stamatoudis สวิงเทรดปั้นพอร์ตโต 291.2% ในปีเดียว เขาทำได้อย่างไร?

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

Oliver Kell: วงจรของการเคลื่อนไหวของราคา (Cycle of Price Action)