การเทรดที่ประสบความสำเร็จ นั้น แค่ “ดีกว่าค่าเฉลี่ย” ก็ยังไม่พอ

Image
Alexander Elder กล่าวว่า การเป็นเพียงแค่ “ดีกว่าค่าเฉลี่ย” ยังไม่เพียงพอ คุณต้องโดดเด่นกว่าใครๆ เพื่อที่จะชนะในเกมที่มีผลรวมติดลบ (Being simply “better than average” is not good enough. You have to be head and shoulders above the crowd to win a minus-sum game.) eBook : คิดและสวิงเทรดเป็นระบบแบบพี่แดน (Dan Zanger) มีจำหน่ายที่แอพ Meb ที่เดียว https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjM0NDM3MTt9 ในคำพูดนี้ Alexander Elder กำลังเน้นย้ำว่า ในโลกของการเทรด การเป็นเพียงแค่คนที่ "เก่งกว่าค่าเฉลี่ย" อาจไม่เพียงพอที่จะประสบความสำเร็จได้ เพราะการเทรดไม่ใช่เกมที่ทุกคนสามารถชนะพร้อมกันได้ มันคือเกมที่เรียกว่า เกมที่มีผลรวมติดลบ (minus-sum game) ซึ่งหมายความว่า ทรัพยากรที่หมุนเวียนอยู่ในตลาด เช่น กำไรและขาดทุน ถูกกระจายไปในกลุ่มผู้เล่น แต่เมื่อรวมต้นทุนการเทรด เช่น ค่าธรรมเนียม นายหน้า และค่าเสียโอกาสแล้ว จะทำให้โดยรวมตลาดมีผลขาดทุนสุทธิ "เกมที่มีผลรวมติดลบ" หมายถึงอะไร? การเทรดในตลาดไม่ได้มี...

Asymmetric leverage + always getting odds on your money = Holy grail

 Asymmetric leverage + always getting odds on your money = Holy grail

"ผมสร้างอาชีพและโชคลาภจากการเทรดที่ผิดพลาดบ่อย(False breakout)พอๆ กับการเทรดหุ้นที่ถูกต้อง(Breakout แล้วไปต่อ) 

สิ่งสำคัญคือ Asymmetric leverage (นั่นคือ)เก็บกำไรจากผู้ชนะของคุณให้ได้เงินก้อนโตมากกว่าที่คุณตัดขาดทุนให้กับหุ้นผู้แพ้ และทำให้เงินของคุณเติบโตอยู่เสมอ นี่คือ Holy grail!"

- Mark Minervini

.

พี่มาร์คบอกว่าแกได้สร้างอาชีพและความมั่งคั่งจากการเทรดหุ้นโดยการยอมรับว่าตนเองทำผิดพลาดบ่อยครั้งเท่าๆ กับที่ทำถูกต้อง 

สิ่งสำคัญที่ทำให้ผมประสบความสำเร็จคือการใช้ "asymmetric leverage" หมายถึง การทำให้กำไรจากการเทรดที่ประสบความสำเร็จก้อนโตกว่าการตัดขาดทุนจากการเทรดที่ล้มเหลว" 

.

นี่คือแนวทางที่มือใหม่สามารถเอาไปประยุกต์ใช้ได้:

1. ยอมรับว่าคุณจะผิดพลาด: ในการเทรด คุณจะไม่สามารถทำกำไรได้ทุกครั้ง คุณต้องยอมรับความผิดพลาดและไม่ท้อแท้เมื่อขาดทุน

.

2. ใช้กลยุทธ์ที่มี Risk:Reward 1:2 ขึ้นไป: พยายามหากลยุทธ์ที่ทำให้เมื่อคุณชนะ คุณจะได้กำไรมากกว่าตอนที่คุณแพ้ ตัวอย่างเช่น การใช้ stop loss เพื่อลดการขาดทุน และ letting profits run เพื่อเพิ่มกำไร

.

3. จัดการความเสี่ยง: อย่าเสี่ยงเงินทั้งหมดในเทรดเดียว ควรแบ่งการลงทุนและใช้การจัดการความเสี่ยงเพื่อป้องกันการสูญเสียมากเกินไป

.

4. **มองหาโอกาสที่มีความเป็นไปได้สูง**: การเลือกการเทรดที่มีโอกาสสำเร็จสูง (odds on your money) จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในระยะยาว

.

5. วิเคราะห์และปรับปรุงกลยุทธ์: เรียนรู้จากความผิดพลาดและการทำกำไรของคุณ วิเคราะห์สิ่งที่ทำให้การเทรดบางครั้งประสบความสำเร็จและบางครั้งไม่สำเร็จ แล้วปรับปรุงกลยุทธ์ของคุณ

.

การนำข้อคิดเหล่านี้ไปใช้จะช่วยให้มือใหม่มีความสามารถในการเทรดที่มั่นคงและมีประสิทธิภาพมากขึ้นในระยะยาวได้แน่นอนครับ

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

Marios Stamatoudis สวิงเทรดปั้นพอร์ตโต 291.2% ในปีเดียว เขาทำได้อย่างไร?

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

Oliver Kell: วงจรของการเคลื่อนไหวของราคา (Cycle of Price Action)