การเทรดที่ประสบความสำเร็จ นั้น แค่ “ดีกว่าค่าเฉลี่ย” ก็ยังไม่พอ

Image
Alexander Elder กล่าวว่า การเป็นเพียงแค่ “ดีกว่าค่าเฉลี่ย” ยังไม่เพียงพอ คุณต้องโดดเด่นกว่าใครๆ เพื่อที่จะชนะในเกมที่มีผลรวมติดลบ (Being simply “better than average” is not good enough. You have to be head and shoulders above the crowd to win a minus-sum game.) eBook : คิดและสวิงเทรดเป็นระบบแบบพี่แดน (Dan Zanger) มีจำหน่ายที่แอพ Meb ที่เดียว https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjM0NDM3MTt9 ในคำพูดนี้ Alexander Elder กำลังเน้นย้ำว่า ในโลกของการเทรด การเป็นเพียงแค่คนที่ "เก่งกว่าค่าเฉลี่ย" อาจไม่เพียงพอที่จะประสบความสำเร็จได้ เพราะการเทรดไม่ใช่เกมที่ทุกคนสามารถชนะพร้อมกันได้ มันคือเกมที่เรียกว่า เกมที่มีผลรวมติดลบ (minus-sum game) ซึ่งหมายความว่า ทรัพยากรที่หมุนเวียนอยู่ในตลาด เช่น กำไรและขาดทุน ถูกกระจายไปในกลุ่มผู้เล่น แต่เมื่อรวมต้นทุนการเทรด เช่น ค่าธรรมเนียม นายหน้า และค่าเสียโอกาสแล้ว จะทำให้โดยรวมตลาดมีผลขาดทุนสุทธิ "เกมที่มีผลรวมติดลบ" หมายถึงอะไร? การเทรดในตลาดไม่ได้มี...

5 เหตุผล ที่นักเทรดต้องปรับตัวให้เข้ากับตลลาดก่อน จึงจะทำเงินจากตลาดได้?

 การปรับตัวให้เข้ากับตลาดเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักเทรดมือใหม่ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้:


1. ความผันผวนของตลาด

- การเปลี่ยนแปลงของราคา: ตลาดหุ้นมีความผันผวนสูง ราคาหุ้นสามารถขึ้นหรือลงได้อย่างรวดเร็ว การปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปจึงเป็นสิ่งจำเป็น

- การตอบสนองต่อข่าวสาร: ราคาหุ้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามข่าวสารต่าง ๆ การปรับตัวให้เข้ากับข้อมูลใหม่ ๆ จะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจการซื้อขายได้ถูกต้อง


2. การบริหารความเสี่ยง

- การจัดการความเสี่ยง: การปรับตัวให้เข้ากับตลาดช่วยให้นักเทรดมือใหม่เรียนรู้ที่จะจัดการกับความเสี่ยงได้ดีขึ้น เช่น การตั้งค่า Stop-Loss และการกำหนดขนาดของการลงทุน

- ลดความเสี่ยงในการขาดทุน: การเรียนรู้และปรับตัวทำให้นักเทรดสามารถระบุและหลีกเลี่ยงการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงเกินไป


3. การทำความเข้าใจกับพฤติกรรมตลาด

- การวิเคราะห์และพยากรณ์: การปรับตัวช่วยให้นักเทรดสามารถทำความเข้าใจรูปแบบและแนวโน้มของตลาดได้ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยให้สามารถวิเคราะห์และพยากรณ์การเคลื่อนไหวของราคาหุ้นได้แม่นยำขึ้น

- การเรียนรู้จากประสบการณ์: การปรับตัวช่วยให้นักเทรดเรียนรู้จากการซื้อขายที่ผ่านมา และปรับกลยุทธ์การลงทุนตามประสบการณ์ที่ได้รับ


4. การควบคุมอารมณ์

- การควบคุมความกลัวและความโลภ: นักเทรดมือใหม่มักจะมีความกลัวเมื่อราคาหุ้นตก และความโลภเมื่อราคาหุ้นขึ้น การปรับตัวให้เข้ากับตลาดจะช่วยให้สามารถควบคุมอารมณ์และตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล

- การมีวินัยในการลงทุน: การปรับตัวให้เข้ากับตลาดช่วยให้นักเทรดสามารถพัฒนาวินัยในการลงทุน ซึ่งจะช่วยลดการตัดสินใจที่ผิดพลาด


5. การเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ

- การปรับกลยุทธ์: การปรับตัวให้เข้ากับตลาดช่วยให้นักเทรดสามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การลงทุนตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไร

- การพัฒนาและเรียนรู้ตลอดเวลา: การปรับตัวทำให้นักเทรดมีการพัฒนาและเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ อยู่เสมอ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการลงทุนในระยะยาว


การปรับตัวให้เข้ากับตลาดเป็นการพัฒนาทักษะที่สำคัญที่นักเทรดทุกคนควรมี โดยเฉพาะนักเทรดมือใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์ในการลงทุนในสภาวะตลาดที่มีความผันผวน


คอร์สสอนเล่นหุ้น

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

Marios Stamatoudis สวิงเทรดปั้นพอร์ตโต 291.2% ในปีเดียว เขาทำได้อย่างไร?

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

Oliver Kell: วงจรของการเคลื่อนไหวของราคา (Cycle of Price Action)