มีการเทรดแค่ 10%-20% ของทั้งหมด ที่ทำกำไรให้ 80%-90% ของทั้งหมด
- Get link
- Other Apps
ตลอด 48 ปีของผมในฐานะนักเก็งกำไร
นักเทรดมืออาชีพทุกคนที่ผมรู้จัก ปั้นพอร์ตภายใต้หลักการ Pareto
นั่นคือมีการเทรดแค่ 10%-20% ของทั้งหมด ที่ทำกำไรให้ 80%-90% ของทั้งหมด -- ปีแล้วปีเล่า
มีน้อยนักที่เข้าใจสิ่งนี้ (ไม่ว่าพวกเขาจะอ้างถึง Pareto หรือไม่ก็ตาม) และเขาก็จะประสบความสำเร็จได้ในท้ายที่สุด
.
ทำไมเป็นเช่นนั้น?
เนื่องจาก
๑) ความสามารถในการทำกำไรในระยะยาวในการเก็งกำไรในตลาดนั้นเกี่ยวข้องกับวิธีจัดการกับความสูญเสีย(ตัดขาดทุน)มากกว่าการค้นหาหุ้นผู้ชนะที่วิเศษ(หุ้นกำไรก้อนโต)
๒) ผู้ชนะ(หุ้นกำไรก้อนโต)จะมาหาเฉพาะนักเทรดที่จำกัด Drawdown ได้ดีที่สุดให้ทุนเหลือมากที่สุด (พอร์ตไม่เสียหายหนักเมื่อต้องเจอตลาดที่เลี่ยงการขาดทุนต่อเนื่องไม่ได้)
.
เป็นเรื่องง่ายที่จะทำเงินจากการเทรด ความท้าทายคือการรักษามันไว้ และต้องรักษาไว้ให้นานพอ จนกว่าจะได้พบโอกาสดี ๆ และต้องรอให้กำไรก้อนงามออกดอกผล
.
ผมพบว่าโซเชียลมีเดียนั้น มีวัยรุ่นที่เสพฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนเกินขนาดชอบคุยโวเกี่ยวกับการเทรดได้กำไร 5 เท่า, 10 เท่า, 30 เท่า ของพวกเขา - มันน่าขัน เกินกว่าที่จะเป็นไปได้จริง
.
การอวดรูปถ่ายกับ Lambo โชว์จอคอมพิวเตอร์แสดงกราฟ 6 หน้าจอ นั้นไม่ได้การันตีว่าเขาทำได้จริง มันเป็นเพียงการนำเสนอที่ไร้สาระหลอกหมูเท่านั้นเอง
- Peter Brandt; Market Wizards
.
.
ตีความและขยายความ
การเทรดแบบมืออาชีพที่ประสบความสำเร็จในระยะยาวนั้นไม่ใช่เรื่องของการหาวิธีทำกำไรอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของการจัดการกับการขาดทุนด้วย ความสำเร็จในการเทรดไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าคุณสามารถหาทำกำไรได้อย่างไร แต่ขึ้นอยู่กับว่าคุณสามารถรักษากำไรและทุนของคุณได้อย่างไรในช่วงที่มีการขาดทุน
.
ตามหลักการของ Pareto Principle (กฎ 80/20) จะพบว่าประมาณ 10% ถึง 20% ของการเทรดของเทรดเดอร์มืออาชีพนั้นสร้างกำไรได้มากถึง 80% ถึง 90% ของกำไรทั้งหมดในแต่ละปี ซึ่งหมายความว่าการเทรดที่ทำกำไรได้นั้นมีจำนวนน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนการเทรดทั้งหมด และการขาดทุนเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นการรักษาทุนและการจัดการกับการขาดทุนเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
.
มือใหม่รู้แล้วควรทำอย่างไร
1. การเรียนรู้การจัดการความเสี่ยง: หลีกเลี่ยงการสูญเสียทุนมากเกินไปในครั้งเดียว โดยกำหนดระดับการขาดทุนที่ยอมรับได้ (stop loss) และรักษาขนาดของการเทรดให้เหมาะสมกับทุนของคุณ
2. การวิเคราะห์และการวางแผน: ใช้เวลาในการวิเคราะห์ตลาดและสร้างแผนการเทรดที่มีความเป็นระบบและมีเหตุผล ไม่ใช่แค่การคาดเดาหรือเล่นพนัน
3. การรักษาความมั่นคงทางจิตใจ: การเทรดอาจทำให้เกิดความเครียดและอารมณ์ที่รุนแรง การเรียนรู้วิธีการจัดการกับความรู้สึกเหล่านี้จะช่วยให้คุณไม่ตัดสินใจจากอารมณ์และสามารถปฏิบัติตามแผนการเทรดของคุณได้
4. การเรียนรู้จากการขาดทุน: การขาดทุนเป็นส่วนหนึ่งของการเทรด การวิเคราะห์ว่าทำไมถึงขาดทุนและเรียนรู้จากความผิดพลาดจะช่วยให้คุณพัฒนากลยุทธ์ของคุณได้ดีขึ้น
5. ไม่หลงเชื่อข้อมูลจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ: ในยุคของโซเชียลมีเดีย มีข้อมูลมากมายที่อาจไม่เป็นความจริง อย่าหลงเชื่อการโอ้อวดของคนที่อ้างว่าทำกำไรได้มากโดยไม่มีหลักฐานหรือความรู้พื้นฐาน
.
การเริ่มต้นจากการมีพื้นฐานที่ดีและการจัดการความเสี่ยงอย่างรอบคอบจะช่วยให้คุณมีโอกาสประสบความสำเร็จในระยะยาวในการเทรด
- Get link
- Other Apps