เส้นทางการเทรดและวิธีเทรดปั้นพอร์ต 100% ++ ของ Leoš Mikulka

Image
Leoš Mikulka กับการบริหารความเสี่ยงอย่างเป็นรูปธรรมและการจดบันทึกการเทรด   การแสวงหาการวัดผลเป็นตัวเลข: วิธีบริหารอารมณ์ขณะเทรด แปลจาก https://tradingresourcehub.substack.com/p/leos-mikulka-practical-risk-management-journaling อินโทรเวิร์ท เทรดเดอร์: สร้างเงินล้านด้วยธุรกิจตัวคนเดียว https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjM1NjkwMjt9 PART 1: เส้นทางการเทรดของฉัน    ตลอดอาชีพการเทรดของฉัน ฉันได้ผ่านช่วงเวลาหวือหวาขึ้นลงมากมาย (ช่วง ‘รุ่งเรืองและล่มสลาย’ – Boom and Bust)   ฉันเกือบล้างพอร์ตครั้งแรกในปีที่สามของการเทรด   หลังจากทำกำไรได้ 40–50% ในปีที่สอง ฉันก็ตกหลุมพรางยอดฮิตของนักเทรดมือใหม่ที่ได้แรงหนุนจากตลาดที่ดี แม้ว่าจะตัดสินใจผิดพลาดก็ตาม:   ฉายภาพกำไรเหล่านั้นไปสู่จินตนาการว่าอีกไม่กี่ปีจะกลายเป็นมหาเศรษฐี   โดยไม่มีความเข้าใจที่แท้จริงเกี่ยวกับ การบริหารความเสี่ยง (Risk Management) หรือ การกำหนดขนาดสถานะ (Position Sizing) ฉันจึงไม่พ...

(ตอบคำถาม) หัวใจหลักของการเทรด Odds, RR 1:2 vs 1:3, ทบต้นกำไรน้อย vs Big shot

 



Q: หัวใจหลักของการเทรด คือ กำไรทบต้นที่จะทวีคูณในระยะยาวใช่ไหมครับ ไม่ใช่การมัวแต่หากำไรมากๆ จากการเทรดแต่ละครั้ง

A: เอาทั้งสองอย่างดีกว่าครับ ถ้าได้แบบหลังก็สุดยอดเลย เราคุมตลาดไม่ได้ 

ถ้ามันร้าย-การอยู่รอดและกำไรน้อย คือสิ่งที่ควรทำ หากมันดี ก็ต้องกำไรมาก ๆ มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ ยืดหยุ่นตามตลาดดีกว่า ยึดหลักทฤษฎีนะ

Q: เคยเห็นนักเทรดที่ประสบความสำเร็จ ใช้ RR ส่วนใหญ่แค่ 1:2 แต่สามารถได้กำไร 17 เท่าใน 1 ปี จากการทบต้น และเมื่อดูสถิติได้กำไรรวมมากกว่า RR 1:3 อีก แถม win rate ยังแค่ 55% ซึ่งมากกว่าการทายหัวก้อยเพียงเล็กน้อย

A: ภาพระยะยาวนับสิบปี ค่าเฉลี่ยจะลงไปที่ 1:2 เสมอครับ // แต่ในภาพระยะสั้น ทุกคนจะพยายามทำให้ได้ 1:3 หรือกระทั่ง 1:5 ให้ได้ก่อนครับ เพราะเขาไม่รู้ว่าครั้งหน้าเขาออาจจะผิดพลาดติดต่อกัน Losing streak กี่รอบ จะ Drawdown หนักแค่ไหน จำไว้เสมอว่า คุณไม่สามารถควบคุมตลาดได้ ถ้าตลาดให้เงินเซียนจะบุกหนักมาก เพราะเป็นการการันตีกำไรเอาไปถัวเผื่อ Drawdown ด้วยครับ คุณคือ Growth stock ที่ไม่มีวันจบรอบ ไม่ใช่หุ้นปั่น

Q: การได้กำไรจาก RR มากๆในการเทรด เหมือนโบนัสจากการทำงานของนักเทรดที่ชำนาญเท่านั้น แต่ถ้าจะมุ่งหากำไรมากๆในการเทรดแต่ละครั้ง มันเป็น mindset ที่ไม่ถูกต้อง

A: ใช่ครับ กำไรโต = โบน้ส แต่การมุ่งหากำไรโตไม่ใช่ Mindset ที่ผิดครับ ถ้าคุณมีการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุมทุกครั้ง (Trend Following คือสไตล์ที่คาดหวังกำไรโตมหาศาล Market Wizards เกือบครึ่งมีสไตล์นี้) ในเมื่อ ผลการเทรดมีโชคเข้ามาเกี่ยวข้องครึ่งหนึ่งเสมอ (อ่าน Black Swan, Random Walk ของ Taleb กับ Psychology of Money) ถ้าโชคไม่เข้าข้างต้องรอด หากโชคเข้าข้างต้องเอาให้เยอะครับ

Q: การเทรดในช่วงแรก จะเป็นไปได้ช้า เพราะ ต้องใช้เวลาในการเพิ่มทุน แต่พอทุนมากขึ้นแล้ว จะยิ่งได้กำไรมากขึ้นๆไปอีกจากการทบต้น

A: ความเชื่องช้าในช่วงแรก มักจะมาจากการลองผิดลองถูกเพื่อสร้างระบบที่ลงตัวสำหรับการทำเงิน คุณต้องเอาตัวรอดให้ได้ก่อน สะสมทักษะ ประสบการณ์ให้ได้ก่อน ไม่มีใครเข้ามาแล้วนับหนึ่งได้ทันที คุณต้องปรับตัวให้เข้ากับตลาด หาสไตล์ ระบบที่สอดคล้องกับความเชื่อ จริตของคุณ (ถ้าไม่สอดคล้องก็จะหมดตัวหมดไฟหมดใจไปก่อน) มีไม่น้อยที่ต้องใช้เวลาในการฟื้นจาก Drawdown หลายปี // เมื่อตั้งหลักได้แล้ว การทบต้นจึงเริ่มขึ้น ซึ่งต้องใช้เวลา-ถ้าคุณมีทุนน้อย แต่ถ้าทุกอย่าลงตัว คุณมีเงินก้อนโต-การทบต้นก็จะมี impact มากกว่าครับ

Q: การเทรดไม่ใช่งานที่จะต้องรีบทำกำไรเกินตัว เพราะ จะทำให้เรา over trade และ ใช้ risk มากเกิน ทุนที่ตัวเองมี จนเจ๊ง

A: ถูกต้องครับ

Q: การโฟกัสกับการคุมความเสี่ยง จึงสำคัญที่สุด เพื่อที่จะสามารถยืนระยะ จนเกิดพลังการทบต้นได้ในระยะยาว

A: ถูกต้องครับ


7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

เส้นทางการเทรดและวิธีเทรดปั้นพอร์ต 100% ++ ของ Leoš Mikulka

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

Oliver Kell: วงจรของการเคลื่อนไหวของราคา (Cycle of Price Action)

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

VCP หรือ Volatility Contraction Pattern

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่