IBD'S 10 SECRETS TO SUCCESS ความลับสู่ความสำเร็จของการเทรด

Image
IBD'S 10 SECRETS TO SUCCESS Investor's Business Daily ได้ทำการวิเคราะห์ผู้นำและคนที่ประสบความสำเร็จจากหลายวงการมาหลายปี พบว่าคนส่วนใหญ่ที่ประสบความสำเร็จนั้นมี 10 คุณลักษณะที่เมื่อผสมผสานกันสามารถทำให้ความฝันกลายเป็นความจริงได้ นี่คือ 10 ข้อหลักที่ควรปฏิบัติเพื่อความสำเร็จ 1. วิธีคิดของคุณคือทุกอย่าง      คิดบวกเสมอ คิดถึงความสำเร็จ ไม่ใช่ความล้มเหลว ระวังสิ่งแวดล้อมที่เป็นลบ    - การคิดบวกมีผลต่อทุกการกระทำ ถ้าคิดว่าตัวเองจะล้มเหลว ก็จะทำให้เกิดความกลัวและลังเล ควรล้อมรอบตัวเองด้วยสิ่งแวดล้อมที่สนับสนุนความสำเร็จ 2. ตัดสินใจเกี่ยวกับความฝันและเป้าหมายที่แท้จริงของคุณ      เขียนเป้าหมายที่ชัดเจน และพัฒนากลยุทธ์เพื่อไปถึงเป้าหมาย    - การเขียนเป้าหมายทำให้เรามีแนวทางที่ชัดเจนและสามารถวางแผนที่จะทำให้ฝันเป็นจริง 3. ลงมือทำ       เป้าหมายไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากปราศจากการลงมือทำ อย่ากลัวที่จะเริ่มต้น ทำมันเลย!    - การมีแผนแต่ไม่ลงมือทำเท่ากับไม่มีค่า ควรลงมือทำทันทีและไม่กลัวที่จะเริ่มใหม่เมื่อพบปัญหา 4. อย่าหยุดเรียนรู้     กลับไปเรียนต่อ หรืออ่านหนังสือ ฝึกอบรม และพัฒนาทักษะใหม่

Indicator ตัว ไหน ดี ที่สุด?

 


การเลือกใช้ Indicator ที่ดีที่สุดนั้นขึ้นอยู่กับลักษณะการลงทุนและสไตล์การเทรดของนักลงทุนแต่ละคน ไม่มี Indicator ใดที่สามารถใช้ได้ดีที่สุดในทุกสถานการณ์ การเลือกใช้ Indicator ที่เหมาะสมต้องพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น ประเภทของตลาด สภาวะตลาด เป้าหมายการลงทุน และระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ นี่คือตัวอย่าง Indicator ที่ได้รับความนิยมและเหมาะสมกับการใช้งานในสถานการณ์ต่าง ๆ:


1. Moving Averages (MA)

- Simple Moving Average (SMA): ใช้ค่าเฉลี่ยราคาหุ้นในช่วงเวลาที่กำหนด เป็นเครื่องมือที่เรียบง่ายและใช้งานง่าย

- Exponential Moving Average (EMA): ให้ความสำคัญกับราคาล่าสุดมากกว่า เหมาะสำหรับการติดตามแนวโน้มระยะสั้น


2. Relative Strength Index (RSI)

- เป็นเครื่องมือวัดความแข็งแรงและความอ่อนแอของราคาในช่วงเวลาที่กำหนด ช่วยระบุระดับ Overbought (ซื้อมากเกินไป) และ Oversold (ขายมากเกินไป)


3. Moving Average Convergence Divergence (MACD)

- ใช้ในการระบุแนวโน้มและจุดกลับตัวของราคา ประกอบด้วยเส้น MACD เส้น Signal และ Histogram ช่วยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มและแรงกระตุ้นของตลาด


4. Bollinger Bands

- ประกอบด้วยเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) และเส้นเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) บนและล่าง ช่วยในการระบุความผันผวนของราคาและจุดซื้อขาย


5. Stochastic Oscillator

- เป็นตัวชี้วัดที่ใช้ในการระบุระดับ Overbought และ Oversold โดยวัดความสัมพันธ์ระหว่างราคาปิดล่าสุดกับช่วงราคาที่กำหนด


6. Fibonacci Retracement

- ใช้ในการระบุระดับแนวรับและแนวต้านที่สำคัญ โดยใช้เลข Fibonacci Sequence ในการคำนวณระดับต่าง ๆ


7. Average Directional Index (ADX)

- ใช้ในการวัดความแข็งแกร่งของแนวโน้ม ช่วยให้นักลงทุนรู้ว่าแนวโน้มที่กำลังเกิดขึ้นนั้นแข็งแกร่งหรืออ่อนแอ


8. Volume Indicators

- เช่น On-Balance Volume (OBV) และ Volume Moving Average ใช้ในการวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายเพื่อยืนยันแนวโน้มและแรงกระตุ้นของตลาด


การเลือก Indicator ที่เหมาะสม

การเลือก Indicator ที่เหมาะสมต้องพิจารณาจากสไตล์การลงทุนและลักษณะของตลาดที่คุณกำลังลงทุน:

- นักลงทุนระยะยาว: ใช้ Indicator ที่เกี่ยวข้องกับแนวโน้มระยะยาว เช่น Moving Averages, MACD

- นักลงทุนระยะสั้นหรือเทรดเดอร์: ใช้ Indicator ที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวระยะสั้น เช่น RSI, Stochastic Oscillator

- ตลาดที่มีความผันผวนสูง: ใช้ Indicator ที่ช่วยในการระบุความผันผวน เช่น Bollinger Bands, ATR (Average True Range)


นักลงทุนควรทดลองใช้ Indicator หลาย ๆ ตัว และปรับให้เข้ากับสไตล์การลงทุนของตนเอง การใช้ Indicator ร่วมกันหลาย ๆ ตัวเพื่อยืนยันสัญญาณ (Confluence) จะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจลงทุน


7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

5 Holy Grail ที่ใช้ได้ผลจริง ในการเทรด

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

จิตวิทยา การวิเคราะห์และใช้งาน แท่งเทียน Doji

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ