หากคุณเลิกกังวลว่า "ตลาด" จะไปในทิศทางไหน? มันจะถึงจุดต่ำสุดแล้วหรือยัง? คุณอาจมีโอกาสค้นหาหุ้นที่ดีที่สุดและเทรดได้สำเร็จ
- Get link
- X
- Other Apps
หากคุณเลิกกังวลว่า "ตลาด" จะไปในทิศทางไหน?
มันจะถึงจุดต่ำสุดแล้วหรือยัง?
มันจะขึ้นไปด้านบนไหม?
และการใช้ป้ายกำกับ เช่น กระทิงและหมี
....เพื่อกำหนดการซื้อขายของคุณ
คุณอาจมีโอกาสค้นหาหุ้นที่ดีที่สุดและเทรดได้สำเร็จ
Mark Minervini
.
คำกล่าวของเขาเน้นย้ำถึงความสำคัญของการมุ่งเน้นไปที่หุ้นแต่ละตัวและผลงานเฉพาะของหุ้นแต่ละตัว แทนที่จะกังวลมากเกินไปกับทิศทางของตลาดโดยรวมหรือติดป้ายว่า "มีแนวโน้มขาขึ้น" หรือ "มีแนวโน้มขาลง" เพื่อกำหนดการตัดสินใจซื้อขาย
นี่คือเหตุผลที่เขาพูดประเด็นนี้และวิธีใช้คำแนะนำของเขา:
.
1. การจับจังหวะตลาดเป็นเรื่องยาก:
- การคาดการณ์การเคลื่อนไหวที่แน่นอนของตลาดทั้งหมดเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างยิ่งและมักไม่น่าเชื่อถือ ปัจจัยหลายประการมีอิทธิพลต่อตลาด ทำให้ไม่สามารถคาดเดาได้ในระยะสั้น
.
2. โอกาสเฉพาะหุ้น:
- แม้ในตลาดที่ตกต่ำ ก็อาจมีหุ้นแต่ละตัวที่ทำผลงานได้ดี โดยการมุ่งเน้นไปที่หุ้นเหล่านี้ เทรดเดอร์สามารถค้นพบโอกาสที่ทำกำไรได้โดยไม่คำนึงถึงแนวโน้มตลาดโดยรวม
.
3. วินัยทางอารมณ์:
- ป้ายกำกับเช่น "ขาขึ้น" และ "ขาลง" อาจนำไปสู่การซื้อขายทางอารมณ์ ตัวอย่างเช่น เทรดเดอร์อาจหลีกเลี่ยงการซื้อหุ้นที่แข็งแกร่งเนื่องจากเชื่อว่าตลาดเป็นขาลง ทำให้พลาดโอกาสในการทำกำไร
.
4. การวิเคราะห์ทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐาน:
- ความสำเร็จในการซื้อขายมักมาจากการวิเคราะห์หุ้นแต่ละตัวอย่างละเอียดโดยพิจารณาทั้งตัวบ่งชี้ทางเทคนิค (เช่น รูปแบบราคาและปริมาณ) และปัจจัยพื้นฐาน (เช่น รายได้และศักยภาพในการเติบโต)
.
.
วิธีประยุกต์ใช้
1. การเลือกหุ้น:
- เน้นที่การค้นหาหุ้นที่แข็งแกร่งที่มีศักยภาพในการเติบโตที่ดี มองหาหุ้นที่มีรายได้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง รายได้เติบโต และเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม
.
2. การวิเคราะห์ทางเทคนิค:
- ใช้แผนภูมิเพื่อระบุหุ้นที่อยู่ในแนวโน้มขาขึ้นที่แข็งแกร่งหรือมีรูปแบบการทะลุที่ชัดเจน Minervini มักเน้นย้ำถึงความสำคัญของการซื้อหุ้นที่ทะลุฐานที่กำหนดไว้ชัดเจน
.
3. การจัดการความเสี่ยง:
- ใช้กลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงที่เข้มงวด ซึ่งรวมถึงการกำหนดคำสั่งตัดขาดทุนเพื่อจำกัดการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น และการจัดการขนาดตำแหน่งเพื่อหลีกเลี่ยงการเปิดรับความเสี่ยงจากหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง
.
4. ความแข็งแกร่งที่สัมพันธ์กัน:
- มองหาหุ้นที่มีผลงานดีกว่าตลาด แม้ว่าตลาดจะตกต่ำ แต่หุ้นบางตัวอาจยังคงเพิ่มขึ้น หุ้นเหล่านี้มักได้รับการสนับสนุนจากสถาบันที่แข็งแกร่งและสามารถให้โอกาสในการซื้อขายที่ดีได้
.
5. หลีกเลี่ยงเสียงรบกวนจากตลาด:
- หลีกเลี่ยงข่าวสารประจำวันและคำวิจารณ์ตลาดที่อาจทำให้เกิดปฏิกิริยาทางอารมณ์ แทนที่จะทำเช่นนั้น ให้พึ่งพาการวิเคราะห์และแผนการซื้อขายของคุณ
.
.
ขั้นตอนที่ปฏิบัติได้
1. จัดทำ Watchlist:
- สร้างรายชื่อหุ้นที่มีศักยภาพตามเกณฑ์ของคุณ อัปเดตรายการนี้อย่างต่อเนื่องโดยเพิ่มหุ้นที่มีผลงานดีและลบหุ้นที่มีผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน
.
2. กำหนดเกณฑ์สำหรับการเข้าและออก:
- กำหนดเกณฑ์เฉพาะสำหรับการเข้าและออกจากการซื้อขาย ซึ่งอาจอิงตามรูปแบบทางเทคนิค รายงานผลประกอบการ หรือตัวชี้วัดสำคัญอื่นๆ
.
3. การเรียนรู้ต่อเนื่อง:
- ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับแนวโน้มตลาด กลยุทธ์การซื้อขาย และเครื่องมือใหม่ๆ ที่สามารถช่วยในการเลือกและวิเคราะห์หุ้น
.
การเปลี่ยนโฟกัสจากทิศทางของตลาดโดยรวมไปที่ผลงานของหุ้นแต่ละตัวและนำกลยุทธ์การซื้อขายที่มีวินัยมาใช้ จะทำให้เทรดเดอร์มีโอกาสทำกำไรและประสบความสำเร็จในตลาดได้มากขึ้น
- Get link
- X
- Other Apps