การเล่นหุ้นขาดทุนหนัก ไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นแค่จุดเริ่มต้น คุณแค่สอบไม่ผ่านเท่านั้น คุณแก้ตัวได้เสมอ

Image
การเทรดหุ้น: ก้าวข้ามธรรมชาติของความกลัว สู่วิถี Zero to Hero   "Zero to Hero ภารกิจเปลี่ยนนักเทรดขาดทุนซ้ำซากให้ได้กำไรสม่ำเสมอ" มีจำหน่ายที่ Mebmarket วันที่ 3 กันยายน 2567 ครับ  https://www.mebmarket.com/?action=book_details&book_id=317619 การขาดทุนหนักจากการเล่นหุ้นอาจทำให้คุณรู้สึกว่าตัวเองล้มเหลว แต่แท้จริงแล้ว นั่นเป็นเพียง "หลักไมล์แรก" ของเส้นทางการเทรดเท่านั้นเอง มันบ่งบอกว่าคุณอาจยังสอบไม่ผ่านหรือทำผลงานไม่ถึงมาตรฐานที่ต้องการ แต่ที่สำคัญคือ การไม่ยอมแพ้และพร้อมที่จะปรับปรุงและพัฒนาตัวเอง คุณแค่สอบไม่ผ่าน ทำผลงานไม่ถึงมาตรฐานเท่านั้นเอง ในเส้นทางการเทรด มาตรฐานที่สำคัญคือการสร้างระบบที่มี ความคาดหวังเชิงบวก (Positive Expectancy) ซึ่งหมายความว่ากลยุทธ์การเทรดของคุณต้องมีโอกาสสร้างกำไรได้ในระยะยาว การขาดทุนอาจเกิดจากการที่คุณยังไม่ได้สร้างมาตรฐานนี้ขึ้นมา หรืออาจยังไม่ได้ปรับปรุงกลยุทธ์การเทรดให้เหมาะสมกับสถานการณ์ อีบุ๊ก "Zero to Hero" ชี้ทางสว่างให้คุณ หากคุณกำลังมองหาทางแก้ไขและปรับปรุงผลงานของคุณ อีบุ๊ก **"Zero to Hero: ภารกิจเปลี่ยนน

เป้าหมายคือ ไม่ต้องซื้อราคาต่ำสุด แต่ต้องขายราคาแพงกว่าราคาซื้อให้มาก ในระยะเวลาสั้นที่สุด


เป้าหมายคือ ไม่ต้องซื้อราคาต่ำสุด แต่ต้องขายราคาแพงกว่าราคาซื้อให้มาก ในระยะเวลาสั้นที่สุด นี่แหละคือวิธีการสร้างกำไรขั้นเทพ

ประโยค "เป้าหมายคือ ไม่ต้องซื้อราคาต่ำสุด แต่ต้องขายราคาแพงกว่าราคาซื้อให้มาก ในระยะเวลาสั้นที่สุด นี่แหละคือวิธีการสร้างกำไรขั้นเทพ" มีความหมายที่สามารถขยายความและเปรียบเทียบให้เข้าใจได้ดังนี้:



### ทำไมพี่มาร์คจึงบอกแบบนี้?

1. **ไม่ต้องซื้อราคาต่ำสุด**: 

   - การลงทุนไม่จำเป็นต้องรอให้ราคาหุ้นลดลงไปถึงจุดต่ำสุด เพราะการพยายามทำนายราคาต่ำสุดนั้นยากและมีความเสี่ยงสูง

   - สิ่งสำคัญคือการซื้อในช่วงที่ราคาน่าสนใจและมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น


2. **ขายราคาแพงกว่าราคาซื้อให้มาก**:

   - เป้าหมายหลักของการลงทุนคือการขายหุ้นหรือสินทรัพย์ในราคาที่สูงกว่าราคาที่ซื้อมา ซึ่งจะสร้างกำไรจากส่วนต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขาย

   - การเลือกช่วงเวลาขายที่เหมาะสมจึงมีความสำคัญ


3. **ในระยะเวลาสั้นที่สุด**:

   - การทำกำไรในระยะเวลาสั้นจะช่วยเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน เพราะสามารถนำเงินที่ได้ไปลงทุนในโอกาสใหม่ ๆ ได้รวดเร็วขึ้น

   - การเทรดในระยะสั้นอาจทำให้ต้องมีความระมัดระวังและมีการตัดสินใจที่รวดเร็ว


### เปรียบเทียบให้ชัดเจน

**การซื้อราคาต่ำสุดและขายราคาสูงสุด (วิธีที่อาจไม่สมเหตุสมผล)**:

- นักลงทุนพยายามทำนายจุดต่ำสุดของราคาเพื่อซื้อและจุดสูงสุดของราคาเพื่อขาย

- วิธีนี้มีความเสี่ยงสูง เพราะการทำนายจุดต่ำสุดและสูงสุดเป็นเรื่องยากมาก อาจพลาดโอกาสซื้อที่ดีหรือขายในจุดที่ราคาลดลงแล้ว


**การซื้อในราคาที่น่าสนใจและขายในราคาที่สูงขึ้น (วิธีที่เป็นไปได้มากกว่า)**:

- นักลงทุนมองหาโอกาสในการซื้อในช่วงที่ราคาน่าสนใจ ไม่จำเป็นต้องเป็นราคาต่ำสุด แต่เป็นราคาที่มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น

- จากนั้นรอให้ราคาสูงขึ้นและขายเพื่อทำกำไร โดยไม่จำเป็นต้องรอจนราคาสูงสุด

- เน้นการทำกำไรในระยะเวลาที่สั้นที่สุดเพื่อเพิ่มผลตอบแทนและลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด


### ประโยชน์ของวิธีนี้

1. **ลดความเสี่ยง**:

   - ไม่ต้องรอราคาต่ำสุด ช่วยลดความเสี่ยงในการพลาดโอกาสซื้อหุ้นในช่วงที่ราคาน่าสนใจ

   - การขายในราคาที่สูงกว่าราคาซื้อช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด


2. **เพิ่มผลตอบแทน**:

   - การทำกำไรในระยะเวลาสั้นช่วยให้สามารถนำเงินที่ได้ไปลงทุนในโอกาสใหม่ ๆ ได้รวดเร็วขึ้น

   - ช่วยให้ผลตอบแทนรวมจากการลงทุนสูงขึ้น


3. **ปรับตัวง่ายกว่า**:

   - ไม่ต้องกังวลกับการทำนายจุดต่ำสุดและสูงสุดของราคา เพียงแค่มองหาโอกาสที่มีแนวโน้มดีในการซื้อและขาย

   - ทำให้การตัดสินใจลงทุนง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น


การนำวิธีนี้ไปใช้จะช่วยให้นักลงทุนมือใหม่สามารถทำกำไรจากการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงจากการพยายามทำนายจุดต่ำสุดและสูงสุดของตลาดครับ





7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

จิตวิทยา การวิเคราะห์และใช้งาน แท่งเทียน Doji

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่