7 อุปนิสัยของผู้มีประสิทธิภาพสูง (7 Habits of Highly Effective People) สำหรับนักเทรด

Image
7 อุปนิสัยของผู้มีประสิทธิภาพสูง (7 Habits of Highly Effective People) จากหนังสือของ Stephen R. Covey ซึ่งเป็นแนวคิดที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงการเทรดได้เป็นอย่างดีครับ 1. เป็นฝ่ายรุก (Be Proactive) 🔹 แนวคิด: จงมุ่งเน้นไปที่ สิ่งที่คุณควบคุมได้ (Circle of Influence) แทนที่จะกังวลกับสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุม 🔹 สำหรับนักเทรด: - ตลาดจะเคลื่อนที่อย่างที่มันเป็น เราควบคุมตลาดไม่ได้ แต่เราควบคุมวิธีตอบสนองของเราได้ - แทนที่จะโทษตลาด โบรกเกอร์ หรือข่าว จงพัฒนาทักษะของตัวเอง บริหารความเสี่ยงให้ดี และมีแผนรับมือกับทุกสถานการณ์ - ฝึกฝนวินัยและควบคุมอารมณ์ของตัวเอง อย่าปล่อยให้ความโลภหรือความกลัวครอบงำ . 2. เริ่มต้นโดยมีเป้าหมายในใจ (Begin with the End in Mind) 🔹 แนวคิด: ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน วาดภาพความสำเร็จของตัวเอง 🔹 สำหรับนักเทรด: - ถามตัวเองว่า "ฉันอยากเป็นเทรดเดอร์แบบไหน?" - กำหนดเป้าหมายที่เป็นรูปธรรม เช่น "ฉันต้องการกำไร 10% ต่อเดือนโดยมี Drawdown ต่ำกว่า 5%" - เขียนแผนการเทรด ให้ชัดเจน และยึดมั่นในแผนของคุณ . 3. ทำสิ่งที่สำคัญก่อน (First Things First...

ชวนดูกราฟหุ้น 52 Week High ไทย ครึ่งปี SET ลบร้อยจุด เม่านักพนันวอดวาย เจียนตาย หุ้น 52 Week high สบายดีมั้ย

 

52 Week High Breakout Trading Strategy
(อ่านได้จากหนังสือ "หุ้นขาขึ้นรอบใหญ่" , "หุ้นวิ่งสวิงเทรด", "ศาสตร์และศิลปะการปั้นพอร์ต")
๑) ไม่ได้เชียร์ ชวนทำการบ้านหาหุ้นเท่านั้น
๒) อะไรก็เกิดขึ้นได้ในตลาดหุ้น  False breakout ได้เสมอ มองในมุมความน่าจะเป็นเสมอ
๓) ไม่มีอะไรที่ตรงตามทฤษฏี 100% ขาดทุนได้เสมอ
๔) แม่นยำ 50-50 ก็เพียงพอแล้ว
๕) Exit + Position sizing + Trading Management สำคัญกว่า Entry
๖) ต้องรอด+รักษาเงินต้น คือเป้าหมายแรกของการเทรด
๗) Holy Grail = Positive Expectancy = (avg gain * win %) - (avg loss * loss %)
ไม่สำคัญว่าจะถูกกี่ครั้งผิดกี่ครั้ง แต่สำคัญที่ว่าเมื่อคิดถูกคุณได้มากแค่ไหน
และเมื่อคิดผิด คุณเสียน้อยแค่ไหนต่างหาก
หุ้นที่คุณคิดถูก(กำไร)ต้องมีเงินเดิมพันเยอะ ๆ หุ้นคิดผิดมีเงินในนั้นน้อยที่สุด
การบริหารเงินทุน คือ กุญแจสำคัญ!!
** เคล็ดลับคือ ซื้อไม้แรกน้อย ถ้ามันไม่ขึ้น ก็ไม่ต้องซื้อเพิ่ม รอตัดขาดทุน ไม่กำไรไม่ซื้อเพิ่ม
ถ้ามันวิ่งขึ้น จึงซื้อเพิ่มตามความเหมาะสม ให้มีเงินลงทุนสูงกว่าไม้แรกหลายสิบเท่า
๘) กฎทองคำของการเทรดคือ “Cut your loss short and let’s your profit run”



อะไรที่ทำให้เม่าโหยหวน ร้องระงม ขาดทุนยับ ในตอนที่ SET ลงหนัก ๆ
๑) ซื้อแล้วถือ หวังรวยง่าย ๆ ไม่ต้องทำอะไร จากตลาดหุ้น
๒) ซื้อแบบเล่นหวย หวังให้โชคช่วย ลงทุนด้วยความหวัง(อารมณ์)
๓) ไม่มีแผนการออก ไม่กล้าออก เพราะไม่คิดว่าจะขาดทุนหนัก
๔) เล่นหุ้นแบบงานอดิเรก คิดแบบนักพนัน ได้ก็ดี ไม่ได้ก็โวย
๕) ไม่มีแผน ไม่มีระบบ รอฟ้าฝน(พึ่งพาโชคชะตาอย่างเดียว)
๖) ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ SET แต่อยู่ที่วิธีการ กระบวนการของคุณเองที่ผิด ถ้าไม่แก้ ก็จะโดนอีก


(แนะนำหนังสือ "หุ้นขาขึ้นรอบใหญ่" , "หุ้นวิ่งสวิงเทรด", "ศาสตร์และศิลปะการปั้นพอร์ต" และ "เทรดแบบทำธุรกิจ")

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

ดูยังไงว่าเป็น Cup with Handle pattern?

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

คุณต้องลงสนามเทรดจริง ถึงจะเข้าใจการเทรดอย่างแท้จริงได้

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่

Oliver Kell: วงจรของการเคลื่อนไหวของราคา (Cycle of Price Action)

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ