การเทรดที่ประสบความสำเร็จ นั้น แค่ “ดีกว่าค่าเฉลี่ย” ก็ยังไม่พอ

Image
Alexander Elder กล่าวว่า การเป็นเพียงแค่ “ดีกว่าค่าเฉลี่ย” ยังไม่เพียงพอ คุณต้องโดดเด่นกว่าใครๆ เพื่อที่จะชนะในเกมที่มีผลรวมติดลบ (Being simply “better than average” is not good enough. You have to be head and shoulders above the crowd to win a minus-sum game.) eBook : คิดและสวิงเทรดเป็นระบบแบบพี่แดน (Dan Zanger) มีจำหน่ายที่แอพ Meb ที่เดียว https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjM0NDM3MTt9 ในคำพูดนี้ Alexander Elder กำลังเน้นย้ำว่า ในโลกของการเทรด การเป็นเพียงแค่คนที่ "เก่งกว่าค่าเฉลี่ย" อาจไม่เพียงพอที่จะประสบความสำเร็จได้ เพราะการเทรดไม่ใช่เกมที่ทุกคนสามารถชนะพร้อมกันได้ มันคือเกมที่เรียกว่า เกมที่มีผลรวมติดลบ (minus-sum game) ซึ่งหมายความว่า ทรัพยากรที่หมุนเวียนอยู่ในตลาด เช่น กำไรและขาดทุน ถูกกระจายไปในกลุ่มผู้เล่น แต่เมื่อรวมต้นทุนการเทรด เช่น ค่าธรรมเนียม นายหน้า และค่าเสียโอกาสแล้ว จะทำให้โดยรวมตลาดมีผลขาดทุนสุทธิ "เกมที่มีผลรวมติดลบ" หมายถึงอะไร? การเทรดในตลาดไม่ได้มี...

Edge หรือความได้เปรียบในการเทรด ที่มือใหม่สามารถสร้างได้ทันที

สนับสนุนโดย eBook : Edge : ความได้เปรียบทางการเทรดสำหรับมือใหม่" 


https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&book_id=265423

Edge หรือความได้เปรียบในการเทรดเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักเทรดทุกระดับ 

แต่สำหรับนักเทรดมือใหม่ มีบางกลยุทธ์ที่สามารถนำมาใช้ได้ทันทีเพื่อสร้างความได้เปรียบในตลาดการเงิน 

คุณจำเป็นต้องสร้างมันขึ้นมา ถ้าอยากอยู่รอดในระยะยาว

นี่คือบางแนวทางที่นักเทรดมือใหม่สามารถเริ่มต้นได้ทันที:


### 1. ศึกษาและทำความเข้าใจพื้นฐานของการเทรดและตลาด

- **เรียนรู้พื้นฐานของการเทรด**: ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์พื้นฐาน เรียนรู้วิธีการอ่านกราฟ ราคาและรูปแบบต่าง ๆ เช่น การวิเคราะห์แนวโน้ม การใช้เส้น Moving Average, RSI, MACD เป็นต้น

- **ศึกษาเกี่ยวกับตลาดที่คุณสนใจ**: แต่ละตลาดมีลักษณะเฉพาะตัว เรียนรู้เกี่ยวกับสินทรัพย์ที่คุณสนใจ เช่น หุ้น, ฟอเร็กซ์, สินค้าโภคภัณฑ์ หรือคริปโตเคอร์เรนซี


### 2. พัฒนาแผนการเทรด

- **สร้างแผนการเทรดที่ชัดเจน**: กำหนดกลยุทธ์ในการเข้าและออกจากตลาด รวมถึงการบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ

- **ตั้งเป้าหมายที่เป็นจริง**: ตั้งเป้าหมายการทำกำไรที่เป็นไปได้และการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม


### 3. การจัดการความเสี่ยง

- **ใช้การจัดการความเสี่ยงอย่างเคร่งครัด**: ไม่เสี่ยงเกินกว่า 1-2% ของเงินทุนในการเทรดแต่ละครั้ง

ใช้การหยุดขาดทุน (Stop Loss) และการทำกำไร (Take Profit) ให้สัมพันธ์กันในรูปแบบการทำธุรกิจ

- **ไม่เทรดด้วยอารมณ์**: หลีกเลี่ยงการตัดสินใจเทรดตามอารมณ์ ควรเทรดตามแผนที่วางไว้


### 4. การฝึกฝนและการใช้เครื่องมือ

- **ใช้บัญชีเดโม**: เริ่มต้นด้วยการใช้บัญชีทดลองเพื่อฝึกฝนและทดสอบกลยุทธ์โดยไม่เสี่ยงเงินจริง

- **การใช้เครื่องมือการเทรด**: ใช้เครื่องมือและแพลตฟอร์มการเทรดที่มีฟีเจอร์ที่ช่วยให้การวิเคราะห์และการตัดสินใจเทรดง่ายขึ้น เช่น การแจ้งเตือนราคา การวิเคราะห์เชิงเทคนิคอัตโนมัติ


### 5. การวิเคราะห์และการปรับปรุง

- **วิเคราะห์ผลการเทรดของตนเอง**: ทบทวนและวิเคราะห์ผลการเทรดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อหาจุดที่สามารถปรับปรุงได้

- **ปรับปรุงแผนการเทรดตามผลการวิเคราะห์**: ปรับปรุงกลยุทธ์และแผนการเทรดตามข้อมูลและผลการวิเคราะห์ที่ได้มา


การสร้าง "edge" ในการเทรดไม่ได้หมายความว่าจะต้องมีความรู้หรือประสบการณ์สูงสุด แต่เป็นการสร้างกลยุทธ์และวิธีการที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง และปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยง

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

Marios Stamatoudis สวิงเทรดปั้นพอร์ตโต 291.2% ในปีเดียว เขาทำได้อย่างไร?

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

Oliver Kell: วงจรของการเคลื่อนไหวของราคา (Cycle of Price Action)