การบริหารความเสี่ยง: ไม่ใช่แค่การตั้ง Stop Loss แบบเดาสุ่ม

Image
การบริหารความเสี่ยง: ไม่ใช่แค่การตั้ง Stop Loss แบบเดาสุ่ม แปลจาก https://x.com/NickSchmidt_/status/1870997680513544635?t=v5ED4IJCHVAJTwaAGY3IqQ&s=19 หลายคนเข้าใจผิดว่า การตั้ง Stop Loss เป็นเพียงการกำหนดเปอร์เซ็นต์ขาดทุนแบบสุ่มเพื่อป้องกันความเสียหาย แต่ความจริงแล้ว การตั้ง Stop Loss ที่ถูกต้องต้องมีเหตุผลที่สอดคล้องกับโครงสร้างและแผนการเทรดของคุณ eBook "Risk Management: การบริหารจัดการความเสี่ยงเบื้องต้นสำหรับนักเทรด" มีจำหน่ายที่แอพ Meb เท่านั้น  https://www.mebmarket.com/?action=book_details&book_id=332340 สิ่งที่นักเทรดมือใหม่ควรรู้เกี่ยวกับ Stop Loss 1. Stop Loss ควรมีเหตุผล ไม่ใช่แค่เปอร์เซ็นต ตัวอย่าง: คุณอาจใช้กฎ 7% เป็นขีดจำกัดการขาดทุน แต่ไม่ใช่ว่าแค่ซื้อหุ้นแล้วตั้ง Stop Loss ไว้ที่ 7% โดยไม่มีการพิจารณาโครงสร้างของหุ้น นั่นไม่ใช่การบริหารความเสี่ยงที่ดี 2. Stop Loss ต้องเข้ากับลักษณะของการเทรด หุ้นที่ยังแข็งแรง: บางครั้งหุ้นอาจปรับฐาน 10% แต่ยังคงแนวโน้มที่แข็งแรงและโครงสร้างไม่เสียหาย ถ้า Stop Loss ของคุณตั้งไว้ต่ำเกินไป เช่น 7% โดยไม่สอดคล้องกับธรรมชาติ...

เซียนนักเทรดได้ได้เทรดเก่งแต่เกิด กฎการเทรดที่ผมช่วยยกมาตรฐานการเทรดที่สูงขึ้น


๑) ผมไม่ได้เทรดกำไรทันทีตั้งแต่วันแรกและปีแรก

๒) ผมก็ทำความผิดพลาดแบบเดียวกับที่มือใหม่ทำกัน เช่น

- ไล่ซื้อหุ้นที่วิ่งไกลจากจุดซื้อที่ดีมากเกินไป

- ไม่รีบตัดขาดทุนหุ้นผู้แพ้ในตอนที่ยังเสียหายน้อย ๆ

- ไม่มีการขายเก็บกำไรจากหุ้นผู้ชนะเมื่อได้กำไรก้อนงามและไม่มีการปกป้องเงินทุนในหุ้นผู้ชนะตัวนั้นด้วย

- ขยันเทรดในสภาวะตลาดที่เสียเปรียบ

- ไม่บุกหนักในยามที่ตลาดได้เงินง่าย

- หลงรักหุ้นจนไม่กล้าขายออกแม้มันจะขาดทุนยับก็ตาม

- ซื้อถัวเฉลี่ยขาดทุน

.

๓) หลังจากที่ผมประสบความสำเร็จ ปั้นพอร์ตมหาศาลจากตลาดหุ้น ก็มักจะมีคำถามว่า “ทำยังไงถึงก้าวผ่านช่วงเวลาที่ขาดทุนซ้ำซากในช่วง ๖ ปีแรกมาได้? โดยไม่หมดใจเลิกไปก่อนเหมือนคนอื่น”

ผมตอบเขาไปว่า “ผมเรียนรู้จากผลการเทรดของผม มองว่ามันเป็นบทเรียนที่ทรงคุณค่า โดยผมก็ยอมรับว่าเกมนี้มันยากแน่และควรจะยากด้วย 

แทนที่จะหมดใจหมดไฟเลิกล้มไปเมื่อหมดตัว ผมกลับใช้มันเป็นแรงใจให้ผมต้องพากเพียร เรียนรู้จากความผิดพลาดและยกระดับมาตรฐานตนเองให้สูงขึ้น”

.

๔) นี่คือกฎการเทรดที่ผมใช้ แล้วช่วยให้ผมมีมาตรฐานการเทรดที่สูงขึ้น

- ผมจะถือเงินสดรอคอยหน้าเทรดที่ผมได้เปรียบ โดยไม่ตั้งคำถาม เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น

- ผมจะเทรดโดยมี stop loss เสมอ และต้องเสียให้น้อยเท่านั้น

- ผมจะไม่ขยันเทรดในช่วงตลาดแย่

- ผมจะล็อกกำไรจากหุ้นผู้ชนะและจะไม่ปล่อยกำไรให้กลายเป็นขาดทุนเด็ดขาด

- ผมจะไม่มีทางถัวเฉลี่ยขาดทุนเด็ดขาด

.

๕) ไม่มีใครเกิดมาแล้วเทรดเก่งได้กำไรสม่ำเสมอทันที

ต้องใช้เวลากันทั้งนั้น

ถ้าคุณให้เวลามากพอ คุณก็มีโอกาสเทรดได้กำไรสม่ำเสมอแน่นอน

ไม่ว่าตอนเริ่มต้น-คุณจะเป็นครู คนขับรถ วิศวกร หมอ ทนายความ ช่างซ่อม หรือแม้แต่ยังตกงานอยู่ - คุณก็ต้องนับหนึ่งในระดับอนุบาลเหมือนกัน - คุณก็ต้องเจอช่วงเวลาที่ขาดทุนซ้ำซากเหมือนกัน

.

ดังนั้น สิ่งสำคัญที่ชี้วัดใครจะประสบความสำเร็จ จึงไม่ใช่แค่ความรู้ แต่มันเป็น "ขวัญกำลังใจ" เป็น "ความศรัทธาในตนเอง"

"คุณคือสิ่งที่คุณเชื่อ"

เชื่อผม ว่าทุกคนมีศักยภาพที่จะสำเร็จได้

ขอแค่คุณเชื่อมั่นในตนเอง คุณก็มีดีพอที่จะสำเร็จได้แน่นอน

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

แชร์วิธีการหารายได้จากการช่วยขาย ebook ที่ mebmarket.com

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ