การเทรดที่ประสบความสำเร็จ นั้น แค่ “ดีกว่าค่าเฉลี่ย” ก็ยังไม่พอ

Image
Alexander Elder กล่าวว่า การเป็นเพียงแค่ “ดีกว่าค่าเฉลี่ย” ยังไม่เพียงพอ คุณต้องโดดเด่นกว่าใครๆ เพื่อที่จะชนะในเกมที่มีผลรวมติดลบ (Being simply “better than average” is not good enough. You have to be head and shoulders above the crowd to win a minus-sum game.) eBook : คิดและสวิงเทรดเป็นระบบแบบพี่แดน (Dan Zanger) มีจำหน่ายที่แอพ Meb ที่เดียว https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjM0NDM3MTt9 ในคำพูดนี้ Alexander Elder กำลังเน้นย้ำว่า ในโลกของการเทรด การเป็นเพียงแค่คนที่ "เก่งกว่าค่าเฉลี่ย" อาจไม่เพียงพอที่จะประสบความสำเร็จได้ เพราะการเทรดไม่ใช่เกมที่ทุกคนสามารถชนะพร้อมกันได้ มันคือเกมที่เรียกว่า เกมที่มีผลรวมติดลบ (minus-sum game) ซึ่งหมายความว่า ทรัพยากรที่หมุนเวียนอยู่ในตลาด เช่น กำไรและขาดทุน ถูกกระจายไปในกลุ่มผู้เล่น แต่เมื่อรวมต้นทุนการเทรด เช่น ค่าธรรมเนียม นายหน้า และค่าเสียโอกาสแล้ว จะทำให้โดยรวมตลาดมีผลขาดทุนสุทธิ "เกมที่มีผลรวมติดลบ" หมายถึงอะไร? การเทรดในตลาดไม่ได้มี...

คุมเสียงในหัวได้ ชีวิตง่ายทุกเรื่อง

คุมเสียงในหัวได้ ชีวิตง่ายทุกเรื่อง

๑. ความคิด ปลุกเสียงพล่าม (ความคิด+ความรู้สึกในแง่ลบที่วกวนไปมาไม่รู้จบ)
ทำให้มนุษย์ตกอยู่ใน(กลายเป็น)คำสาป
๒. เสียงพล่าม เป็นอันตรายต่อประสิทธิภาพในการทำงาน, การตัดสินใจ ความสัมพันธ์ ความสุข และ สุขภาพ
๓. เสียงพล่าม จะกระตุกให้เรานึกถึงสิ่งที่เคยทำผิดพลาดในที่ทำงาน/กับคนรัก จนความรู้สึกแย่ ๆ ท่วมท้นไปหมด
มันคือนักวิจารณ์ปากร้าย ในหัวเรา
๔. ทุกคนต่างมีเสียงในใจ ไม่รูปแบบใดก็รูปแบบหนึ่ง คุยกับตัวเอง และฟังสิ่งที่ตัวเราเองพูด
การคุยกับตัวเองในใจ ถือเป็น คุณสมบัติพื้นฐานของความคิดจิตใจ
๕. อัตราการพูดในใจ เร็วถึง 4,000 คำต่อนาที
๖. เมื่อเราต้องการความช่วยเหลือจากมัน เช่น
- เจอกับเหตุการณ์ที่มีการเดิมพันสูง
- เผชิญกับความรู้สึกที่จัดการยาก ซึ่งเรียกร้องความสมดุลในจิตใจอย่างที่สุด
เสียงในใจ ไม่ช่วย กลับก่อกวนประสาท ให้ทุกอย่างพัง
๗. บางครั้ง เสียงพล่ามในใจ มาในรูปแบบ
- การรำพึงรำพันเรื่อยเปื่อย
- คิด หรือ พูด ซ้ำไปซ้ำมาถึงเหตุการณ์ในอดีต
- กังวลถึงเหตุการณ์ในอนาคต
- ก่อความรู้สึกลบขึ้นมาเฉย ๆ จับแพะชนแกะ
- หมกมุ่นอยู่กับความรู้สึก หนึ่งใด ที่ไม่น่าอภิรมย์เลย
เมื่อใดก็ตามที่เสียงในใจ ออกมาก่อกวน ไม่เพียงทำให้เรารู้สึกทรมาน มันยังส่งผงกระทบไปยังการคิด/ตัดสินใจของเราให้กลายเป็นอัมพาต analysis ส่งผลให้เราตัดสินใจกระทำในสิ่งที่ทำลายตนเอง
๘. (ข้อดี)เสียงในใจเกิดขึ้นมาเพื่อ วิวัฒนาการ ให้เรามีแต้มต่อเพื่อความอยู่รอดมากขึ้น ให้เราตระหนักรู้ถึงการมีตัวตน(ให้โลกนี้/ทุกคนหมุนรอบตัวเรา)
๙. (ข้อเสีย) เสียงในใจ เป็นเหมือนปีศาจ นักวิจารณ์ที่ไร้ความปราณี กระแสความคิดชั่วร้ายที่สามารถลบล้างทักษะที่สั่งสมฝึกฝนอย่างหนักหลายปีได้อย่างง่าย
ความอับอาย -> อาหารของปิศาจเสียงในใจ
ทำลายชีวิต/อาชีพดาวรุ่งคนหนึ่งให้ตายทั้งเป็นได้เลย
- ความคิดวกวน จดจ่อแต่ในสิ่งที่จะทำให้ทุกข์ใจ ยิ่งห้ามเสียงพล่ามในใจ ยิ่งก่อกวนยิ่งดังและถี่
- ทำให้นักแสดงตื่นเวที
- panic attact
- ทำลายการเจรจา ดีลธุรกิจ ให้ล่ม
- ให้เด็กนักเรียนทำข้อสอบได้แย่ลง
- ผลักให้เราเซจากโฟกัส/หลุดสมดุล/หมดสมาธิ
- ซ้ำเติมปัญหา
- โซเชียลมีเดีย กระตุ้นให้การปลดปล่อยเสียงในใจ ได้ง่าย/ทันที ความรุนแรงมากขึ้น ก่อความขัดแย้ง สร้างศัตรู (ระบายความในใจ/รู้สึกง่ายและมากเกิน - ไล่คน)
- ก่อให้เกิดความเครียดเรื้อรัง เป็นโรคทางจิตเวช
๑๐. เสียงในใจ เป็น สินทรัพย์ล้ำค่า หรือ ภาระชีวิต ก็ได้
ใช้เป็น=สินทรัพย์ล้ำค่า พลังเสริมที่แข็งแกร่ง สู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

Marios Stamatoudis สวิงเทรดปั้นพอร์ตโต 291.2% ในปีเดียว เขาทำได้อย่างไร?

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

Oliver Kell: วงจรของการเคลื่อนไหวของราคา (Cycle of Price Action)