การเทรดที่ประสบความสำเร็จ นั้น แค่ “ดีกว่าค่าเฉลี่ย” ก็ยังไม่พอ

Image
Alexander Elder กล่าวว่า การเป็นเพียงแค่ “ดีกว่าค่าเฉลี่ย” ยังไม่เพียงพอ คุณต้องโดดเด่นกว่าใครๆ เพื่อที่จะชนะในเกมที่มีผลรวมติดลบ (Being simply “better than average” is not good enough. You have to be head and shoulders above the crowd to win a minus-sum game.) eBook : คิดและสวิงเทรดเป็นระบบแบบพี่แดน (Dan Zanger) มีจำหน่ายที่แอพ Meb ที่เดียว https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjM0NDM3MTt9 ในคำพูดนี้ Alexander Elder กำลังเน้นย้ำว่า ในโลกของการเทรด การเป็นเพียงแค่คนที่ "เก่งกว่าค่าเฉลี่ย" อาจไม่เพียงพอที่จะประสบความสำเร็จได้ เพราะการเทรดไม่ใช่เกมที่ทุกคนสามารถชนะพร้อมกันได้ มันคือเกมที่เรียกว่า เกมที่มีผลรวมติดลบ (minus-sum game) ซึ่งหมายความว่า ทรัพยากรที่หมุนเวียนอยู่ในตลาด เช่น กำไรและขาดทุน ถูกกระจายไปในกลุ่มผู้เล่น แต่เมื่อรวมต้นทุนการเทรด เช่น ค่าธรรมเนียม นายหน้า และค่าเสียโอกาสแล้ว จะทำให้โดยรวมตลาดมีผลขาดทุนสุทธิ "เกมที่มีผลรวมติดลบ" หมายถึงอะไร? การเทรดในตลาดไม่ได้มี...

หากคุณต้องการลาออกจากงานประจำเพื่อเทรดเต็มเวลา นี่คือคำแนะนำจากคุณปู่ Peter Brandt : Full time trader วัยเก๋า

หากคุณต้องการลาออกจากงานประจำเพื่อเทรดเต็มเวลา

นี่คือคำแนะนำจากคุณปู่ Peter Brandt : Full time trader วัยเก๋า
1) เงินทุนทั้งก้อนควรมาจากกำไรที่คุณเทรดได้เท่านั้น (เพราะมันเป็น
ตัวการันตีว่าคุณมีพื้นฐานการทำเงินที่สม่ำเสมอมาแล้ว)
2) อย่าได้คาดหวังกำไรต่อปีเกินกว่า 50%
3) อย่าได้เสี่ยงเกินกว่า 2% ของพอร์ต ต่อการเทรดแต่ละครั้ง
4) คุณต้องมีเงินสดสำรองใช้ชีวิตได้โดยไม่ต้องพึ่งพากำไรจากการเทรด
นาน 18 เดือน (คุณจะได้ไม่กดดันตัวเองให้ต้องเทรดโดยไม่จำเป็น)
5) คาดหมายไว้ก่อนเลยว่า ปีแรก คุณจะเป็นผู้แพ้ ทำเงินไม่ได้เลย

Wanting to ditch day job to trade full time? My advice
1. Entire account capitalization should be from trading profits
2. Don't expect >50% annual RORs
3. Don' risk >2% of capital per trade
4. Have 18 months of living expenses saved separately
5. Expect Yr #1 to be a loser.
@Peter Brandt - Unknown Market Wizards

(การเทรดไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาทางการเงินของคุณ แต่มันจะขยายให้คุณเสียเงินมากขึ้นต่างหาก)
ความหมายที่ปู่ไม่ได้บอกตรง ๆ ผมอยากเสริมให้เข้าใจมากขึ้น
1) คุณต้องอยู่รอดให้ได้ก่อน รอดได้ถึงมีโอกาสรวย
2) Psychology จิตใจคุณต้องไม่ถูกกดดันจากความคาดหวังผลลัพธ์
3) คุณจะเทรดได้ดีขึ้น เมื่อทำตามกระบวนการ ด้วยใจเป็นกลาง
4) คุณต้องไม่ปล่อยให้ "เงิน" เป็นนายควบคุมการเทรดของคุณ
เพราะถ้าคุณเทรดเพราะต้องการเงิน Psychology คุณจะไม่เป็นกลาง
5) นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม Psychology จึงสำคัญมากที่สุด รองลงมา
คือ การบริหารเงินทุน สุดท้ายเป็นกลยุทธ์การเทรด
6) ถ้า psychology คุณรีบเร่ง ต้องชนะเท่านั้น แพ้ไม่ได้ คุณก็จะใช้กลยุทธ์ไปรับใช้อารมณ์แย่ นั้น เมื่อคุณหลงเทรดตามอารมณ์ เอาแต่ใจ แก้แค้น ก็ส่งผลให้พอร์ตพัง แล้วคุณก็จะต้องกลับไปของานคนอื่นทำ/เป็นลูกจ้างประจำที่คุณเกลียดอีกครั้งจนได้


7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

Marios Stamatoudis สวิงเทรดปั้นพอร์ตโต 291.2% ในปีเดียว เขาทำได้อย่างไร?

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

Oliver Kell: วงจรของการเคลื่อนไหวของราคา (Cycle of Price Action)