เส้นทางการเทรดและวิธีเทรดปั้นพอร์ต 100% ++ ของ Leoš Mikulka

Image
Leoš Mikulka กับการบริหารความเสี่ยงอย่างเป็นรูปธรรมและการจดบันทึกการเทรด   การแสวงหาการวัดผลเป็นตัวเลข: วิธีบริหารอารมณ์ขณะเทรด แปลจาก https://tradingresourcehub.substack.com/p/leos-mikulka-practical-risk-management-journaling อินโทรเวิร์ท เทรดเดอร์: สร้างเงินล้านด้วยธุรกิจตัวคนเดียว https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjM1NjkwMjt9 PART 1: เส้นทางการเทรดของฉัน    ตลอดอาชีพการเทรดของฉัน ฉันได้ผ่านช่วงเวลาหวือหวาขึ้นลงมากมาย (ช่วง ‘รุ่งเรืองและล่มสลาย’ – Boom and Bust)   ฉันเกือบล้างพอร์ตครั้งแรกในปีที่สามของการเทรด   หลังจากทำกำไรได้ 40–50% ในปีที่สอง ฉันก็ตกหลุมพรางยอดฮิตของนักเทรดมือใหม่ที่ได้แรงหนุนจากตลาดที่ดี แม้ว่าจะตัดสินใจผิดพลาดก็ตาม:   ฉายภาพกำไรเหล่านั้นไปสู่จินตนาการว่าอีกไม่กี่ปีจะกลายเป็นมหาเศรษฐี   โดยไม่มีความเข้าใจที่แท้จริงเกี่ยวกับ การบริหารความเสี่ยง (Risk Management) หรือ การกำหนดขนาดสถานะ (Position Sizing) ฉันจึงไม่พ...

หากคุณต้องการลาออกจากงานประจำเพื่อเทรดเต็มเวลา นี่คือคำแนะนำจากคุณปู่ Peter Brandt : Full time trader วัยเก๋า

หากคุณต้องการลาออกจากงานประจำเพื่อเทรดเต็มเวลา

นี่คือคำแนะนำจากคุณปู่ Peter Brandt : Full time trader วัยเก๋า
1) เงินทุนทั้งก้อนควรมาจากกำไรที่คุณเทรดได้เท่านั้น (เพราะมันเป็น
ตัวการันตีว่าคุณมีพื้นฐานการทำเงินที่สม่ำเสมอมาแล้ว)
2) อย่าได้คาดหวังกำไรต่อปีเกินกว่า 50%
3) อย่าได้เสี่ยงเกินกว่า 2% ของพอร์ต ต่อการเทรดแต่ละครั้ง
4) คุณต้องมีเงินสดสำรองใช้ชีวิตได้โดยไม่ต้องพึ่งพากำไรจากการเทรด
นาน 18 เดือน (คุณจะได้ไม่กดดันตัวเองให้ต้องเทรดโดยไม่จำเป็น)
5) คาดหมายไว้ก่อนเลยว่า ปีแรก คุณจะเป็นผู้แพ้ ทำเงินไม่ได้เลย

Wanting to ditch day job to trade full time? My advice
1. Entire account capitalization should be from trading profits
2. Don't expect >50% annual RORs
3. Don' risk >2% of capital per trade
4. Have 18 months of living expenses saved separately
5. Expect Yr #1 to be a loser.
@Peter Brandt - Unknown Market Wizards

(การเทรดไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาทางการเงินของคุณ แต่มันจะขยายให้คุณเสียเงินมากขึ้นต่างหาก)
ความหมายที่ปู่ไม่ได้บอกตรง ๆ ผมอยากเสริมให้เข้าใจมากขึ้น
1) คุณต้องอยู่รอดให้ได้ก่อน รอดได้ถึงมีโอกาสรวย
2) Psychology จิตใจคุณต้องไม่ถูกกดดันจากความคาดหวังผลลัพธ์
3) คุณจะเทรดได้ดีขึ้น เมื่อทำตามกระบวนการ ด้วยใจเป็นกลาง
4) คุณต้องไม่ปล่อยให้ "เงิน" เป็นนายควบคุมการเทรดของคุณ
เพราะถ้าคุณเทรดเพราะต้องการเงิน Psychology คุณจะไม่เป็นกลาง
5) นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม Psychology จึงสำคัญมากที่สุด รองลงมา
คือ การบริหารเงินทุน สุดท้ายเป็นกลยุทธ์การเทรด
6) ถ้า psychology คุณรีบเร่ง ต้องชนะเท่านั้น แพ้ไม่ได้ คุณก็จะใช้กลยุทธ์ไปรับใช้อารมณ์แย่ นั้น เมื่อคุณหลงเทรดตามอารมณ์ เอาแต่ใจ แก้แค้น ก็ส่งผลให้พอร์ตพัง แล้วคุณก็จะต้องกลับไปของานคนอื่นทำ/เป็นลูกจ้างประจำที่คุณเกลียดอีกครั้งจนได้


7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

เส้นทางการเทรดและวิธีเทรดปั้นพอร์ต 100% ++ ของ Leoš Mikulka

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

Oliver Kell: วงจรของการเคลื่อนไหวของราคา (Cycle of Price Action)

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

VCP หรือ Volatility Contraction Pattern

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่