7 อุปนิสัยของผู้มีประสิทธิภาพสูง (7 Habits of Highly Effective People) สำหรับนักเทรด

Image
7 อุปนิสัยของผู้มีประสิทธิภาพสูง (7 Habits of Highly Effective People) จากหนังสือของ Stephen R. Covey ซึ่งเป็นแนวคิดที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงการเทรดได้เป็นอย่างดีครับ 1. เป็นฝ่ายรุก (Be Proactive) 🔹 แนวคิด: จงมุ่งเน้นไปที่ สิ่งที่คุณควบคุมได้ (Circle of Influence) แทนที่จะกังวลกับสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุม 🔹 สำหรับนักเทรด: - ตลาดจะเคลื่อนที่อย่างที่มันเป็น เราควบคุมตลาดไม่ได้ แต่เราควบคุมวิธีตอบสนองของเราได้ - แทนที่จะโทษตลาด โบรกเกอร์ หรือข่าว จงพัฒนาทักษะของตัวเอง บริหารความเสี่ยงให้ดี และมีแผนรับมือกับทุกสถานการณ์ - ฝึกฝนวินัยและควบคุมอารมณ์ของตัวเอง อย่าปล่อยให้ความโลภหรือความกลัวครอบงำ . 2. เริ่มต้นโดยมีเป้าหมายในใจ (Begin with the End in Mind) 🔹 แนวคิด: ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน วาดภาพความสำเร็จของตัวเอง 🔹 สำหรับนักเทรด: - ถามตัวเองว่า "ฉันอยากเป็นเทรดเดอร์แบบไหน?" - กำหนดเป้าหมายที่เป็นรูปธรรม เช่น "ฉันต้องการกำไร 10% ต่อเดือนโดยมี Drawdown ต่ำกว่า 5%" - เขียนแผนการเทรด ให้ชัดเจน และยึดมั่นในแผนของคุณ . 3. ทำสิ่งที่สำคัญก่อน (First Things First...

คุณมีแผนการเทรดจริงหรือเปล่า? (Trading plan?)

คุณมีแผนธุรกิจจริงหรือเปล่า?

หรือแค่ซื้อๆ ขาย ๆ ไปเรื่อย ๆ

แบบนี้เป็นแค่ การเทรดแบบงานอดิเรก นะครับ

คนที่เขาประสบความสำเร็จ จริงจังกวาาเราเยอะ


แต่ไม่เป็นไรครับ

รู้ตัวในตอนนี้ก็ยังไม่สาย

คุณโชคดีแล้วที่มาเจอผม

แลพผมโชคดีมาก ที่ได้เขียนหนังสือ

มันได้นำพาให้ผมมีความจริงจังกับการเทรดที่เป็นมืออาชีพมากขึ้น


ครับ ผมขอยอมรับแบบลูกผู้ชายเลยว่า ผมเริ่มต้นด้วยการเทรดแบบงานอดิเรกจริง ๆ 

ผมเทรดแบบเอ้อระเหยลอยชายมาก่อน

จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมผลการเทรดของผมเองถึงได้เละเทะ เทรดมาเกือบ 10 ปีแล้วก็ยังจมปลักอยู่ในวังวนขาดทุนซ้ำซาก


ถึงกระนั้น ..

ไม่ใข่ผมคนเดียวแน่ ที่เป็นแบบนี้

นักเทรดอีก 80% ที่เหลือ ก็น่าจะคิดแบะทำแบบนี้กัน

เมื่อเราคิดและเทรดแบบงานอดิเรก ผลงานที่ได้จึงเป็นการเอาเงินเก็บที่อุตส่าห์ลงแรง สละเวลา อย่างยากลำบาก มาเผาเล่นในตลาดหุ้นแบบคนโง่ยังไงล่ะ


ท่านเคยอ่านข่าว ประเภทที่ว่า "เด็กทารก นั่งเล่นไม้ขีดไฟในบ้าน แล้วทำให้ไฟไหม้บ้านทั้งหลัง" บ้างมั้ยครับ อารมณ์ของนักเทรดที่เข้ามาซื้อขายหุ้นแบบงานอดิเรกก็ไม่ต่างกันเลยครับ

เราเห็นคนอื่นไม่กี่คน ทำเงินได้จากการเทรด หลงคิดว่ามันง่าย จึงเลียนแบบโดยไม่รู้จักขอบเขตของความเสี่ยง แรกๆ คุณก็สนุกตื่นเต้น ในการเลียนแบบ แต่พอความเสียหายเริ่มลุกลาม ใหญ่โต มันก็เสียหายมากเกินกว่าที่คุณจะแก้ไข หรือดับมันลงได้แล้ว


อย่างไรก็ตาม...

โชคดีที่ การเทรด ไม่ได้ทำลายทั้งหลัง (แม้ว่าจำนวนเงินที่ท่านเสียไปอาจสามารถซื้อบ้านได้หลายหลังก็ตามที) เงินทองเป็นของนอกกายครับ เสียไปก็หาเอาใหม่ได้ ถ้าเราเก่งพอ

ที่ผมกล้าพูดแบบนี้ก็เพราะว่า Market Wizards และเซียนหุ้นหลายคน ก็เคยผ่านความล่มจม เพราะปฏิบัติต่อการเทรดแบบงานอดิเรกมาแล้วครับ

ทำไม?

คำตอบก็คือ การที่พวกเขาใช้เวลานับสิบปี หรือ หมดตัวหลายครั้ง กว่าจะปั้นพอร์ตให้สำเร็จได้ ช่วงเวลาแห่งการล้มลุกคลุกคลานนั้นแหละ ล้วนมีจุดเริ่มต้นจากการปฏิบัติต่อการเทรดแบบงานอดิเรกนี่แหละ ผมบอกเลย


เพราะฉะนั้น การปฏิบัติต่อการเทรด แบบงานอดิเรก จึงไม่ใช่เรื่องผิดบาป อะไรมากมายหรอก เพราะใครๆ ก็เป็นกัน มันเป็นความเชื่อผิดไป ที่พาเราเข้ามาเทรด มันมีข้อดีอยู่พอสมควรเลย

เสียแล้วเสียไปครับ คิดเสียว่า เราจ่ายค่าเทอม เพื่อให้รู้ว่า อะไรไม่ควรทำ และสิ่งไหนที่ควรปฏิบัติมากกว่ากัน คุณไม่ขาดทุนหรอก ถ้าคุณรู้ว่าได้อะไรจากการจ่ายไป 

การที่ผมพยายามบอกคุณว่า เซียนหุ้น ก็เคยปฏิบัติต่อการเทรดแบบงานอดิเรกมาก่อน มันน่าจะช่วยให้ท่านมีกำลังใจขึ้นมาบ้างไม่มากก็น้อยนะ

อย่างน้อย คุณก็ได้แรงฮึดมาว่า เรายังไม่โดนตัดออกจากเส้นทางหรอก เพียงแค่หลงไปในทางที่ผิดเท่านั้นเอง กลับตัวตอนนี้ยังทัน มีเวลาอีกถมเถ


ยอมรับว่าเรายังเป็นมือสมัครเล่นอยู่

จากนั้นก็ได้เวลาปรับตัวเอง ให้คิดและปฏิบัติแบบมืออาชีพได้เสียที ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปครับ

คิดและปฏิบัติต่อการเทรดแบบทำธุรกิจ คือจุดเปลี่ยนที่สำคัญของเราครับ



แนะนำบทความรวมคลิป = คอร์สหุ้นออนไลน์ 

ชมฟรีครับ ที่ช่องยูทูปของ zyo


***********

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

ดูยังไงว่าเป็น Cup with Handle pattern?

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

คุณต้องลงสนามเทรดจริง ถึงจะเข้าใจการเทรดอย่างแท้จริงได้

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

Oliver Kell: วงจรของการเคลื่อนไหวของราคา (Cycle of Price Action)