1 ปีแห่ง ความล้มเหลวของนักเทรดโปรแกรมเมอร์ ผู้ Day trading for living
- Get link
- X
- Other Apps
1 ปีแห่ง ความล้มเหลวของนักเทรดโปรแกรมเมอร์
ผู้ Day trading for living
- กำไร 20% ใน 6 เดือน ถูกเผาทำลายจากการขาดทุนเพียงแค่เดือนเดียว
- จากนั้นลบอีก 30% จากการเทรดเพียงแค่ 10 ครั้ง
- วงจรได้กำไรพันเหรียญ คืนกลับไปพันเหรียญ
- พอร์ตเกือบเกลี้ยงไป 2 ครั้ง
- ถูก margin calls นับสิบครั้ง
- ใช้ machine learning , เทรดมาทุกตลาด, ทุก time frame ทุกเครื่องมือ
แต่ก็ยังล้มเหลว ดีที่ยังเอาตัวรอด อยู่รอดได้
แม้จะยังไม่สำเร็จ แต่ก็ได้ความรู้มามากมาย
ประวัติก่อนมาเทรด
- ทำงานสาย Software Engineering มา 4 ปี รู้สึกหมด Passion
- เคยอยากทำ Algorithmic Trading จึงลาออกไปเป็น day trader แบบ เต็มเวลา
- ใช้ Machine Learning ไปจับจังหวะซื้อขาย
- แต่พบว่า ตลาด ซับซ้อนเกินการคำนวณของคอมพิวเตอร์ ทั้งๆ ที่ paper trade ให้ผลลัพธ์สุดยอดมาก แม่นยำมากแท้ ๆ
- พอได้ผลที่ผิดคาด เกิด bias เถียงตลาด ปรับสูตร
- หลายครั้ง หลังจากเข้าเทรดแล้วรู้สึกปลอดภัย แต่จากนั้นไม่นานก็โดน mister market ตบหน้า ทุกที
- การขาดทุนครั้งเดียว มักจะกวาดล้างกำไรที่เคยสะสมมาหลายสิบครั้งก่อนหน้า ไปหมดเกลี้ยง
- เพราะเขามักใช้ margin ร่วมด้วยเสมอ จึงมักจะโดน margin call อยู่บ่อยครั้ง
- อยากบอกมือใหม่ทุกคนว่า "ไม่มีหรอกเงินง่ายในตลาดเก็งกำไรนี้หรอก"
- ทุกอย่างล้วนมีความเสี่ยงสอดไส้อยู่ทั้งนั้น
- สิ่งที่วัดความเก่ง อยู่ที่การเข้าใจ(มี)แต้มต่อ และการบริหารความเสี่ยง (มองผลการเทรดผ่านความน่าจะเป็นเกี่ยวกับการขาดทุน)
- เขาใช้หลักการ "เล่นรอบ" คือ ขายเมื่อราคาวิ่งแรงจน over price แล้วไปรอ ซื้อกลับตอนมันย่อ (ด้วยหลักคิดตามทฤษฎี Black-Scholes-Merton, Binomial Trees and Monte Carlo)
- คล้ายกับ ซื้อเมื่อคนอื่นกลัว ขายเมื่อเขากล้า แต่ปัญหาที่เขาเจอก็คือ But sometimes the fear is real. (ก็จะโดนดอกใหญ่ในช่วงนี้เอง)
ความผิดพลาด
- overtrade
- ไม่มี position sizing ใช้ margin
- ไม่มีหลักการของตนเอง ทำตามคำแนะนำของ ครอบครัว เพื่อน ซึ่งมักจะชี้นำให้สงสัยในระบบ/ตัวเอง และ ไอเดีย(ของตน) ทั้งๆ ที่ไม่เคยทำสำเร็จ
- เทรดสินทรัพย์ที่ไม่มีสภาพคล่อง พื้นฐานเน่า
- ไล่ราคา
ความรู้
- จิตวิทยา สำคัญเหนืออื่นใด บ่อยครั้งตลาดแกว่งแรง ทำให้คุณแทบขาดใจเพราะลงเดิมพันสูงเกินไป แถมไม่มีแผนบริหารความเสี่ยงอีกต่างหาก
จุดเปลี่ยน
- เริ่มชิน ความกลัวลดลง
- เพราะได้เอาการบริหารความเสี่ยงไปเป็นส่วนหนึ่งของแผนการเทรดอย่างจริงจัง
- เทรดด้วยเงินก้อนเล็กลงมาก
- แทนที่จะบุกแบบมุทะลุ ก็ให้เวลาศึกษาพื้นฐานเกี่ยวกับบริษัทก่อน
- ยับยั้งการ FOMO ได้ดี
- เลือกเทรดสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่อง มีโวลุ่ม และพื้นฐานดี เท่านั้น
- มีความอดทน ไม่รีบร้อน cash is king
- ฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะเชี่ยวชาญ
- เรียนรู้อย่างไม่มีวันอิ่ม (ความรู้ดี ฟรีๆ มีอยู่ในโลกออนไลน์ทั้งหมดแล้ว)
- พัฒนาแผนการเทรดให้ดีขึ้น จนเป็นสูตรสำเร็จ
- วิธีการอยู่รอดที่ดีที่สุดคือ เทรดเหมือนหุ่นยนต์
Expectancy
- ช่วงแรก เทรดเยอะ แต่ Expectancy ติดลบ
- จึงค่อย ๆ ปรับจนกลายเป็นบวก ด้วยการเทรดเงินน้อย แต่บ่อย I just proved to myself that trading small and often is key to success.
บันทึกการเทรด
- สำคัญที่สุด แต่ไม่ค่อยมีใครทำ
- ถ้าอยากมีพัฒนาการ ต้องบันทึกการเทรด
- คุณจะได้เรียนรู้อะไรมากมายจากบันทึกการเทรด
- แน่นอนว่ามันจะช่วยให้คุณมีวินัยมากขึ้นด้วย
- จุดเปลี่ยนของเขา ก็มาจากข้อมูลบันทึกการเทรด
ยึด positive expectancy แล้วปรับส่วนประกอบรายล้อมให้สอดคล้อง
(แนะนำเพิ่มเติม ของฟรี)
หากต้องการศึกษาวิธีเล่นหุ้น แนะนำให้ไปอ่านบทความฟรี คลิปฟรีที่นี่ก่อนก็ได้
คลิกลิ้งนี้ครับ https://www.zyo71.com/p/index.html เป็นสารบัญเว็บนี้ครับ
และ eBook มีขายที่เว็บ https://www.mebmarket.com/index.php?action=search_book&type=author_name&search=เซียว%20จับอิดนึ้ง&exact_keyword=1&page_no=1
แยกส่วนกันนะครับ ขายคนละเจ้า
- Get link
- X
- Other Apps