Posts

Showing posts from August, 2020

นักเทรดคิดว่างานของพวกเขาคือการทำเงิน แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่!

Image
นักเทรดคิดว่างานของพวกเขาคือการทำเงิน แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่! แปลและขยายความจาก  https://x.com/markminervini/status/1850913591630680378 นักเทรดหลายคนมีความเชื่อผิด ๆ ว่า “งาน” หรือสิ่งที่พวกเขาต้องทำคือการทำกำไรให้ได้มากที่สุด ในความจริงแล้ว เป้าหมายของการเทรดคือการทำเงิน แต่งานจริง ๆ ของนักเทรดนั้นคือการปฏิบัติตามและดำเนินกลยุทธ์ที่ได้วางแผนไว้อย่างมีวินัยโดยไม่หลุดออกจากกรอบที่ตั้งไว้ ถ้าคุณสามารถยึดมั่นในกฎการเทรดของตัวเองอย่างต่อเนื่อง ผลลัพธ์ตามมาคือกำไรและความสำเร็จจะเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ เป้าหมาย vs งานจริงของนักเทรด - เป้าหมาย  คือการทำเงินและสร้างผลตอบแทน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนอยากได้ แต่สิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่คุณสามารถควบคุมได้โดยตรง - งานจริง  ของนักเทรดคือการใช้กลยุทธ์ที่มีโอกาสชนะให้ได้อย่างสม่ำเสมอและมีวินัย ยึดมั่นในแผนการเทรดที่ตั้งไว้ การทำตามกฎของตัวเองอย่างเคร่งครัดจะช่วยให้คุณจัดการกับความเสี่ยงและลดโอกาสขาดทุนได้ ทำไมวินัยจึงสำคัญในงานของนักเทรด การมีวินัยเป็นสิ่งที่ช่วยให้การเทรดมีความมั่นคงและปลอดภัยมากขึ้น การไม่มีวินัยในการเทรดจะทำให้นักเทรดเกิดการตัดสินใจที่ผิดพลาด

ดิฉันซื้อหุ้นพื้นฐานดี ไม่ต้องตัดขาดทุนได้มั้ย แล้วติดดอยอยู่ทำไงดี?

Image
  คำตอบ - ไม่ต้อง stop ก็ได้ครับ เป็นสิทธิ์ของคุณ เงินของคุณ คุณมีอำนาจสูงสุดในการบริหารจัดการเงินของคุณ 100% - Stop loss แล้วเด้งใส่หน้า เลยไม่อยาก stop loss ต่อไปก็ไม่ต้องไปตัดขาดทุนให้เจ็บใจครับ - ติดดอยหุ้น 20%++ ทำไง? ก็ไม่ต้องทำอะไรมัน เดี๋ยวก็กลับมาไง คุณอวดเองนี่ว่าเลือกซื้อแต่หุ้นพื้นฐานดี จะไปแคร์ทำไมกับการติดลบแค่นั้น ใจเย็น ๆ ครับ นักเทรดมีทั้งเห็นด้วย และไม่เห็นด้วยกับการ stop loss กลุ่มหนึ่งคิดว่าไม่ อีกกลุ่มมองว่าควร ก็แล้วแต่ประสบการณ์ใคร ประสบการณ์มันนะ ระหว่างทรมานกับการติดดอย คาดหวังให้มันกลับมา กับการกลืนเลือดแล้วเริ่มใหม่ อยู่ที่ประสบการณ์และความเชื่อของเขา อย่าเชื่อผม เพราะมันมาจากประสบการณ์ของผมเอง ทำไมผมถึงต้องมี stop loss - ผมเคยขาดทุนหนักมาก่อน เคยเจอการเสียหายขนาดหนักมาก่อน จึงคิดว่ามันจำเป็น - ผมเลือกหุ้นไม่เก่งเหมือนคนอื่น ไม่มั่นใจในพื้นฐานและการสวิง - ผมอยากเอาเงินไปเปลี่ยนจากหุ้นผู้แพ้ ไปเข้าหุ้นผู้ชนะตัวใหม่ - ผมต้องการสอนตัวเอง ให้เจ็บแล้วจำ จะได้ไม่ทำซ้ำอีก การขาดทุนตือจุดอ่อน คือความผิดพลาดของผม ที่ผมต้องเรียนรู้และแก้ไขไม่ให้ทำผิดซ้ำเดิมอีก (แนะนำเพ

5 Concept หลักของการเทรด ที่มือใหม่ต้องทำความเข้าใจให้ได้

Image
 5 Concept หลักของการเทรดที่มือใหม่ต้องทำความเข้าใจให้ได้ 5 core trading concepts you must understand: 1) Hit-rate is not important to make money อัตราความแม่นยำ ไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุด "ไม่สำคัญว่าคุณชนะกี่ครั้ง แพ้กี่ครั้ง แต่มันสำคัญตรงที่พอคุณชนะ คุณได้เงินมากแค่ไหน พอคุณแพ้ คุณเสียน้อยแค่ไหน" จอร์จ โซรอส "ผลการเทรดของผมดีขึ้น เมื่อผมเปลี่ยนจุดโฟกัส จากการนับจำนวนครั้งที่ชนะ มาเป็นการโฟกัสที่จำนวนเงินที่ได้เมื่อจะ จำนวนเงินที่เสีย เมื่อคิดผิด" มาร์ค มิเนอร์วินี 2) Position sizing has a big impact on trading success การแบ่งเงินเข้าเทรด (money management) ต่างหากที่ส่งผลกระทบใหญ่ที่สุดในการเทรด "เงินเดิมพันยิ่งมาก ยิ่งเกิดความหวั่นไหว" ทำให้ใช้อารมณ์ในการเทรด รุนแรงมากกว่าปกติ ตัดสินใจไวเกินไป กล้า กลัวมากเกินเหตุ 3) Simple & robust systems are more successful ระบบเทรดที่ง่าย+ทรงประสิทธิภาพ = สำเร็จ KISS = Keep It Simple & Stupid ซื้อหุ้นเติบโตแล้วถือ ซื้อหุ้นขาขึ้นแล้วถือ 4) 80% of trading is psychology.  80% ของการเทรดทั้งหมด มาจากจิตใจ เราไม่ส

หัวใจ 10 ข้อ ของ risk management

Image
 หัวใจ 10 ข้อ ของ risk management ๑. อย่าได้ถัวเฉลี่ยขาดทุน อย่าเอาเงินดีไปสนับสนุนหุ้นขาดทุน มันคือความเสี่ยง อย่าไปสนับสนุนความเสี่ยง ให้ปล่อยให้ระบบกำจัดมันไปเอง  หากซื้อไปแล้วราคาร่วง ก็ให้รอดูการเด้ง หากมันยังคงอ่อนแอก็ให้ stop loss จัดการมันไป ๒. เทรดตามแนวโน้ม แนวโน้มเหมือนกระแสน้ำ หากเราไหลไปตามน้ำ ก็จะออกแรงน้อยกว่า แถมความเสี่ยงก็น้อยกว่า ๓. มีการตั้ง stop loss ทุกครั้ง Stop loss เป็นกระบวนการกำจัดหุ้นที่มีความเสี่ยงออกไป ไม่ให้มันทำลายพอร์ตให้ล่มจม  จำกัดความสูญเสียให้อยู่ในขอบเขตที่เอาคืนได้ง่าย และพิสูจน์ว่าเราคิดผิด ราคาอ่อนแอ ๔. อย่าไล่ราคาหลังจาก breakout ไปไกลจากฐาน เมื่อราคาวิ่งขึ้นอย่างร้อนแรง ห่างจากระดับแนวต้านมากๆ ความเสี่ยงจะเพิ่มมากขึ้นตาม ดังนั้นอย่าได้ไล่ตาม เพราะยิ่งซื้อตามก็ยิ่งเสี่ยง ๕. อย่าซื้อหุ้นเกินลิมิต จำนวนเงินที่เข้าซื้อยิ่งมากยิ่งทำให้เกิดความหวั่นไหว ทำให้เกิดความกลัว ตัดสินใจด้วยอารมณ์ และที่สำคัญคือ ยิ่งซื้อด้วนเงินเยอะ ๆ หากขาดทุนขึ้นมา ยอดความเสียหาย(ความเสี่ยง) ก็จะมากตาม มักจะทำให้เราเกิดความเสียดาย ไม่อยากตัดขาดทุน เปลี่ยนมาเป็นความหวังนั่ง

6 การตอบสนองที่แตกต่างระหว่างนักเทรดมือสมัครเล่น กับ มือโปร

Image
 6 การตอบสนองที่แตกต่างระหว่างนักเทรดมือสมัครเล่น กับ มือโปร สรุปจาก tradeciety.com 6 Things That Separate The Pro From The Amateur Trader That You Can Change Right Now ๑. การโฟกัส มือสมัครเล่น ในขณะเทรด มือสมัครเล่นจะดูเฟสบุ๊ค ดูยูทูป แชท ฯลฯ พวกเขาหลุดโฟกัสได้อย่างง่ายๆ และทำหลายอย่างในเวลาเดียวกัน จึงมักจะทำให้พวกเขาพลาดจังหวะซื้อที่ดีไปอย่างง่ายๆ มือโปร จะโฟกัส 100% ต้องชาร์ทอย่างเดียว ไม่ทำอะไรอื่น เขาจะมีเว็บไซต์ประจำไว้ติดตามข่าวสารด้วย ๒. การใช้เวลาเฝ้าหน้าจอ มือสมัครเล่น จะขยันเปลี่ยน time frame ไปมาเพื่อไล่ล่าหาจังหวะซื้อให้ได้ เพราะไม่ได้มีการทำการบ้านไว้ก่อน ไม่มี watchlist ไม่รู้ว่าตัวเองต้องการจะทำอะไร มือโปร จะมีแผนการเทรดเอาไว้ก่อนแล้ว ว่าจะต้องเฝ้ารอดูหุ้นตัวไหน รู้ว่าตัวเองต้องทำอะไรอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน time frame ไปมาเพื่อหาโอกาส เขาแค่รอจังหวะที่ใช่เท่านั้น ๓. Overconfidence หลังจากได้กำไรก้อนใหญ่ กำไรติดต่อกันหลายครั้งติด มือสมัครเล่น เชื่อว่าตัวเองโคตรเก่ง ชัยชนะเกิดจาก super skill ของเขาทั้งนั้น จึงเข้าเทรดครั้งใหม่ด้วยจำนวนเงินที่ใหญ่กว่าเดิม เสี่ยงม

ลงทุนสลากอออมสิน VS ลงทุนหุ้น แบบไหนดีกว่ากัน?

Image
 สลากอออมสิน กระจายความเสี่ยง แบบหว่านแห เลือกเป้าหมายไม่ได้ โอกาสถูกรางวัล เหมือนหวย คือ... นี่เป็นข้อเสีย ข้อดี คือ ไม่ต้องคิดอะไรเยอะ มีเงินก็ใส่ๆลงไป หากมีเงินเยอะ ๆ หลัก 10-100 ล้าน น่าจะมีโอกาสถูกมากกว่า เพราะมีหน่วยลงทุนกระจายกว้าง เล่นหุ้น / เทรดสินทรัพย์ / สินค้าโภคภัณฑ์ / โลหะมีค่า /ดัชนี ข้อเสีย คือ ขาดทุน หาก เข้าผิดจังหวะ สภาพตลาดไม่ดี ต้องมีความรู้ในการเลือก และจับจังหวะลงทุน ข้อดี คือ สามารถเลือกเป้าหมายได้ โดยเฉพาะ เลือกหุ้นเติบโต ยิ่งเป็นตลาดหุ้นต่างประเทศ โอกาสถูกตัวยิ่งมีมากกว่า ถูกตัวก็ให้ let’s profit run ไป เลือกสินทรัพย์ที่ตลาดมีความต้องการซื้อสูง ก็มีโอกาสกำไรก้อนใหญ่เติบโตเร็วได้ (เช่น cryptocurrency / ทองคำ) (แนะนำเพิ่มเติม ของฟรี) หากต้องการศึกษาวิธีเล่นหุ้น แนะนำให้ไปอ่านบทความฟรี คลิปฟรีที่นี่ก่อนก็ได้ คลิกลิ้งนี้ครับ  https://www.zyo71.com/p/index.html  เป็นสารบัญเว็บนี้ครับ และ eBook มีขายที่เว็บ  https://www.mebmarket.com/index.php?action=search_book&type=author_name&search=เซียว%20จับอิดนึ้ง&exact_keyword=1&page_no=1 แยกส่วนกันนะครับ ขาย

คำแนะนำ 13 ข้อสำหรับการเทรดแบบโมเมนตัม

Image
มีคนฝากคำถามไปที่เพจ Zyobooks : facebook.com/zyobooks ว่า "มีคำแนะนำมั้ยครับ สำหรับ อยากศึกษาการเทรดสาย โมเมนตัม" จีงได้กลายเป็นแรงบันดาลใจทำบทความ และคลิปนี้ขึ้นมาครับ ขี้เกียจอ่าน ชมคลิปได้ที่นี่ เบื้องต้นถ้าอยากได้คำแนะนำ "ที่ดีที่สุด" ให้ไปอ่านหนังสือ ๓ เล่มนี้ อ่านซ้ำ ให้มากที่สุด ยิ่งคุณมีประสบการณ์มากเท่าไหร่ คุณยิ่งได้แง่มุม ได้เคล็ดลับที่ลึกล้ำมากขึ้นเรื่อย ๆ ถ้ายังกระหาย อยากได้เพิ่ม ก็ให้ลองเอามุมมองของผมไปคิดต่อดูได้ ดังนี้ คำแนะนำสำหรับการเทรดแบบ momentum ก็เป็นเหมือนกับกฎในการ swing trade ทั่วไปนั่นแหละครับแต่ถ้าอยากให้เน้นย้ำจริงๆก็คือว่า ๑. ให้บริหารเงินทุนให้ดี ๒. ทำความรู้จักจุดอ่อนของตัวเองให้ได้มากที่สุด ๓. ให้เวลาในการปรับปรุงพัฒนาตัวเองนานกว่าปกติหน่อยเพราะว่าคุณก็ต้องเจอการขาดทุนเข้ามาเล่นงานอยู่บ่อยครั้ง อย่าได้ตกใจหรือร้อนใจเมื่อยามที่เงินในพอร์ตของคุณลดลงเพราะว่าตลาดผันผวน ๔. ทำความเข้าใจ character ของตลาดที่คุณกำลังเก็งกำไรอยู่ว่ามันมีนิสัยอย่างไรจุดซื้อที่ดีของมันอยู่ตรงไหน ๕. มองเกมการเทรดการปั้นพอร์ตเป็นเกมระยะยาวเอาไว้อย่าได้เร่งรีบรว

แชร์เทคนิค สแกนหุ้น ด้วย RSI เอาไปใช้ประโยชน์ แบบ ZYO

Image
1. ดู RSI เพื่อ คัดหุ้น ที่มีโมเมนตัม 2. จากนั้น ใช้ทักษะในการจำ price pattern เพื่อคัดหุ้นที่มี pattern ตรงสูตรที่เราจำได้ 3. หรือ จะใช้เส้นค่าเฉลี่ย + แท่งเทียน เพื่อหาจังหวะซื้อที่ดีได้ 4. ให้ใช้ RSI 70 เป็นสัญญาณเตือน ว่า อันตราย ไม่ควรเข้า เพราะมันมีโอกาสกลับตัวสูงมาก (ติดดอย) (แนะนำเพิ่มเติม ของฟรี) หากต้องการศึกษาวิธีเล่นหุ้น แนะนำให้ไปอ่านบทความฟรี คลิปฟรีที่นี่ก่อนก็ได้ คลิกลิ้งนี้ครับ  https://www.zyo71.com/p/index.html  เป็นสารบัญเว็บนี้ครับ และ eBook มีขายที่เว็บ  https://www.mebmarket.com/index.php?action=search_book&type=author_name&search=เซียว%20จับอิดนึ้ง&exact_keyword=1&page_no=1 แยกส่วนกันนะครับ ขายคนละเจ้า

ยิ่งแบ่งปัน แชร์ความรู้ ยิ่งเข้าใจมากขึ้น

Image
หลายประโยชน์ของการแชร์ความรู้บน Facebook อันนี้ผมพบด้วยตัวเองเลยนะ จะขอแบ่งให้อ่านกันเล่นๆ และจุดประสงค์ของการแชร์คือ ต้องให้ตัวเองรู้ก่อนครับ จากนั้นไปบอกคนอื่นต่อ ๑.ก่อนจะแชร์ ควรอ่านและสรุปเป็นคำพูดของตัวเองก่อน - ที่ให้ทำอย่างนี้เพราะเราเป็นคนลืมง่าย ยิ่งข้อมูลที่เรารับในแต่ละวันมีมากมายมหาศาล วิธีการที่ดีที่สุดให้สมองมันจำได้คือบังคับให้มันพูดออกมา(คือการเค้นประโยคจากความคิดออกมาเขียนนั่นเอง) เห็นหลายๆคนชอบแชร์ด้วยคำว่า "แปะ" อันนี้ผมว่าไม่ได้ประโยชน์สักเท่าไรนะ เพราะสักพักเดี๋ยวก็ลืม (ถ้าเราสนใจในเรื่องนั้นจริงๆ)แนะนำให้ยอมเสียเวลาเขียนสรุปให้ตัวเองเข้าใจก่อนข้ามมันไปโพสต์อื่น ๒. ยิ่งอ่าน+เขียน แล้วแชร์ ยิ่งได้ความรู้มากขึ้น - ต้องขอบคุณความขี้สงสัยของสมอง คือถ้าเราได้สรุปเนื้อหาให้ได้เป็นประโยคของตัวเองแล้ว สมองมันมักจะมีคำถามเล็กๆเกิดขึ้นกับสิ่งที่เราได้อ่านหรือทำความเข้าใจมัน ไอ้ความสงสัยนี่แหละที่จะเป็นตัวผลักดันให้เราอยากค้นหาต่อๆไปว่าสิ่งนั้นมันคืออะไรกันแน่ ที่มามันเป็นอย่างไร - - ทำให้ความรู้เราแน่นขึ้น ๓. พบกับกฎแรงดึงดูด - อันนี้มหัศจรรย์มากๆ ผมพบว่

ทำไมราคา false break ถึงมีโอกาสลงหนัก

Image
เพิ่ม scenario ของ stop loss เข้าไป เราคาดหวังอะไรจากการ breakout คือไปต่อแรงๆ - ถ้าไปแรงจริง การย่อ ควรเด้งในโซนแนวต้าน(นี่คือสิ่งที่เราคาดหวังที่สุด) แต่ถ้าหลุดก็ให้ปล่อนออกครึ่งหนึ่งก่อน ที่เหลือไปว่ากันที่ limit loss ของคุณต่อ ว่ายอมกี่เปอร์เซ็นต์ ซึ่งผมคิดว่า 5-8% จะดีมาก เหตุผลง่ายๆก็คือ "มันผิดทางแล้วไง" มันทำตัวน่าผิดหวัง ต้องตัดใจ คุณต้องคิดให้แน่ ว่าอะไรสำคัญกว่า ระหว่างเงินต้นของคุณกับอีโก้ ถ้าเห็นว่าเงินต้นสำคัญ จำกัดการขาดทุนให้อยู่ในระดับที่เอาคืนง่าย แต่ถ้าอีโก้คุณยิ่งใหญ่กว่า คือกลัวโดนหลอก ก็ให้ใช้ limit loss หรือไม่ก็แนวรับสุดท้ายของ pattern ดังนี้ และแน่นอน เปอร์เซ็นต์การขาดทุนของคุณมากกว่า limit loss แน่นอน แต่เมื่อคุณกลัวโดนหลอก ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ทำไมราคา false break ถึงมีโอกาสลงหนัก มันเป็นเรื่องของความคาดหวัง - หวังว่าคนทำราคาจะช่วยรับที่ระดับแนวต้าน แต่เมื่อไม่มีการแสดงตัว คุณต้องคิดต่อว่าทำไม? ๑) ส่วนใหญ่มักคิดว่าเขาหลอก เป็นพวกที่เพิ่ง follow buy จึงต่อราคา พอต่อแล้วก็ติดใจ ต่อเพิ่ม มารู้ตัวเสียใจก็ตอนมันพรวดแรงๆ รู้งี้รีบตัดขาดทุ

สรุปหนังสือ Trade the Trader

Image
สรุปหนังสือ Trade the Trader: Know Your Competition and Find Your Edge for Profitable Trading by Quint Tatro เป็นหนังสือที่พี่ Gil Moreles บอกว่าเป็นหนึ่งใน 5 หนังสือจิตวิทยาการลงทุน ที่ชอบมากที่สุด ผมได้สรุปจากบล็อก whatheheckaboom นะ Trendline ถูกสร้างจาก demand supply นักเทรดจะหาจังหวะซื้อที่น่าเชื่อถือ จาก trendline Price pattern ได้รับอิทธิพล จากอารมณ์ หลังจากแนวโน้มได้ถูกสร้างขึ้นมาแล้ว นักเทรดจะตอบสนองมัยด้วยอารมณ์ วางแผนก่อนเทรดและเทรดตามแผน ๑. คุณเป็นมนุษย์ จึงมีอารมณ์ผุดขึ้นมา สามารถเปลี่ยนแปลงความคิด โดยเฉพาะเมื่อเห็นเงินของคุณเพิ่มขึ้นและลดลงต่อหน้าต่อตา ๒. พูดง่ายๆก็คือ คุณต้องวางแผนสิ่งที่คุณควรทำล่วงหน้า เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องรีบตัดสินใจไวเกินไป เมื่อคุณมีสูตรสำเร็จ(ที่ใช้ซ้ำได้) ให้เพิ่มวงเงิน(เทรดหนัก-ต่อครั้ง) ไม่ใช่จำนวนครั้งที่มาก(เทรดถี่) บันทึกการเทรดควรมีอะไรบ้าง? ๑. สัญลักษณ์หุ้น ๒. ลอง หรือ ชอร์ต ๓. ระดับตัดขาดทุน และเหตุผล ๔. เหตุผลที่เข้าเทรด ๕. ความเสี่ยงต่อการเทรดครั้งนั้น ๖. ความเสี่ยงโดยรวมทุกการเทรด ๗. ระดับที่ take p

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

Setup เงินล้านของ Kristjan Kullamägi

จิตวิทยา การวิเคราะห์และใช้งาน แท่งเทียน Doji

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่