๗ ความผิดพลาด ที่เล่นหุ้นนักเดย์เทรด เจอประจำ
๑) ไม่มีการเตรียมตัวก่อนเทรด
การเทรดเพราะมีแผนถือว่าเป็นการทำธุรกิจ
แต่ถ้าไร้แผน ถือว่าเป็นการเทรดแบบการพนัน
คนที่เพราะแบบพนัน เพราะหวังว่าโชคจะเข้าข้าง ใช้ดวง บอกเลยว่าดวงจะไม่อยู่กับคุณในระยะยาวแน่
การเตรียมตัว คือ
- ทุ่มเทศึกษา เกี่ยวกับตัวเอง
- ทำยังไงให้รู้แจ้งในการเทรด
- การหาตัวช่วยให้เทรดได้เงิน
- ทำความเข้าใจการเคลื่อนไหวของตลาด
- จุดเข้าซื้อแบบที่ท่านชอบและทำเงินได้ดี
- วิธีที่ท่านตอบสนองต่อการเทรดที่ผิดพลาด
- ช่วงเวลาที่ท่านมีความสุขสุดๆ
- ช่วงเวลาที่จิตตกสุดๆ
- ความเสี่ยงของการเทรด
- การแบ่งเงินเข้าซื้อที่เสี่ยงต่ำ
ฯลฯ
๒) ขาดเครื่องมือที่ดีพอสำหรับตัวเอง
การเทรดเป็นศิลปะ และมันก็เหมือนงานทำมือ หัตถกรรม
คุณต้องมีเครื่องมือที่เหมาะสมกับงานและมือท่าน
เครื่องมือที่ว่านี้มีอะไรบ้าง
- โบรกเกอร์ที่ให้คำแนะนำที่ดี
- โนตบุ๊ค/คอมพิวเตอร์ ที่ช่วยให้ดูกราฟทันต่อเหตุการณ์
- อินเตอร์เน็ต
- สถานที่เหมาะสม มีสมาธิ
- อินดิเคเตอร์ที่เหมาะสม ใช้ดี หรือ price pattern ที่ทำเงินได้บ่อย
- การทำการบ้าน วางแผนการเทรดก็เป็นเครืองมือเช่นกัน
๓) คาดหวังไม่สมจริง
ตลาดหุ้น กับ บ่อนการพนัน มีความคล้ายกันมาก
บางคนถึงกับบอกว่า ตลาดหุ้นคือบ่อนการพนันที่ถูกกฎหมาย กันเลยทีเดียว
ถึงกระนั้น ถ้าท่านมีประสบการณ์มากพอ อยู่กับตลาดหุ้นมานานพอ เทรดแบบจริงจังมากพอ
จะรู้เลยว่า ตลาดหุ้นให้สิทธิประโยชน์เหนือกว่าบ่อนการพนันมาก
- ถ้าหากท่านมีการทำการบ้านที่มากพอ จนแยกแยะ และเลืกเล่นหุ้นที่มีความเสี่ยงต่ำได้ ซึ่งประเด็นนี้บ่อนไม่สามารถให้ท่านได้นานพอเท่าตลาดหุ้น
- ในตลาดคุณสามารถเอา money management มาใช้ได้ โดยเฉพาะการเลือกลงเงินเยอะหรือน้อยเมื่อพบว่าตาที่จะลงนั้นท่านมีโอกาสได้เงินหรือเสียเงิน
นอกจากนี้การบริหารเงินรวมถึงการรู้จัก stop loss เมื่อรู้ตัวว่าผิดทางด้วย
เป้าหมายหลักของ MM คือการรักษาเงินต้น หรือเกมรับ ซึ่งเป็นสิ่งที่นักพนันไม่เคยคิดเพราะเขาคิดแต่จะรุกท่าเดียว
นักพนันมักจะคิดอยากรวยแบบแจ๊คพอต แทงแล้วกำไรทันทีรวยเละ
ทำให้พวกเขาไม่สนใจคิดถึงเกมรับ ว่าถ้าพลาดจะทำยังไง จึงไม่มีการวางแผนรองรับ
และนั่นก็เป็นต้นตอให้พวกเขาเสียเงินแบบง่าย ๆ ทั้งที่สามารถหนีได้ก่อนที่ความเสียหายจะใหญ่โต
ความคาดหวังที่ไม่สมจริงอีกอย่างคือ คิดว่าตัวเองเก่งเกินจริง
อ่านหนังสือที่เซียนเขียนไม่กี่หน้าก็คิดว่ามันง่าย เอาไปใช้ทันที ทุ่มเงินแบบขายบ้านขายรถมาซื้อ แต่ลืมดูความเสี่ยง เพราะไม่เคยรู้ว่ามี คิดว่าการเทรดครั้งนี้เขาต้องชนะ เพราะหนังสือบอกมา ซึ่งความจริงแล้วการเคลื่อนไหวของราคานั้นมันเป็นปัจเจก ไม่สามารถบังคับมันได้ ถ้าคิดแต่จะชนะท่าเดียว ไม่มีแผนเผื่อใจ ก็จะแพ้ให้เสียหายหนัก ๆ ได้
๔) ขาดการติดตามผล และการเรียนรู้
มือใหม่ที่เข้ามาเทรด มักจะคาดหวังว่าตัวเองจะมีกำไร และไม่แพ้เลย
เพราะเขาอ่านหนังสือมา และฟังเซียนโอ้อวดความสำเร็จ ที่ไม่ยอมบอกความยากลำบากระหว่างการเทรด
เมื่อคาดหวังความตัวเองต้องกำไร จึงไม่สนใจต่อความผิดพลาด
เมื่อพลาดก็กลายเป็นโทษ โบ้ยความผิดให้เซียน ให้โบรกเกอร์ ให้คนเชียร์หุ้น
เมื่อไม่ได้โทษตัวเองก็เลยไม่มีการติดตามผล
ความสำเร็จไม่เคยมีประโยชน์
แต่ความล้มเหลวกลับสอนได้มากกว่า
การอ่านตำราจากคนประสบความสำเร็จที่อวดโอ้ความสำเร็จ รวยสิบเด้ง ร้อยล้านพันล้าน โดยไม่ได้บอกความผิดพลาดเลย ถือเป็นความเสียเวลาอย่างยิ่ง
เราควรเรียนรู้จากความผิดพลาดด้วย เพราะจะได้รู้จุดบกพร่อง หลุมพรางให้นักเทรดขาดทุน
ที่สำคัญคือต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเอง
เพราะการเทรดที่ประสบความสำเร็จนั้นมันต้องเกิดจากการออกแบบระบบที่เหมาะกับตัวเอง
ซึ่งมันเกิดจากการแก้ไขสันดานเสีย ความผิดพลาดของตัวเองให้เป็นคนที่ดีขึ้นเท่านั้น
การจะรู้ว่าตัวเองผิดพลาดอะไร ก็ต้องติดตามผการเทรดของตัวเองเท่านั้น
บันทึกการเทรดจึงจำเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อรู้ว่าตัวเองพลาดตรงไหน การหาความรู้จึงตามมา
เรียนรู้เพื่อให้ตัวเอง รู้มากขึ้น เพื่อปกปิดจุดอ่อน ให้เป็นคนที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น
การพยายามเลียนแบบคนอื่น เพื่อเป็นเซียนหุ้น x หมายเลข 2จึงเป็นเรื่องที่เสียเวลาอย่างมาก
นอกจากเลียนแบบ ก็ต้องพัฒนาหาระบบที่เหมาะกับตัวเองด้วย
๕) ถัวเฉลี่ยขาดทุน
คามผิดพลาดที่สาหัสที่สุดสำหรับนักเทรดมือใหม่คือการถัวเฉลี่ยขาดทุน
มันเป็นการส่งเสริม เพิ่มเชื้อเพลิงให้การขาดทุนลุกลามใหญ่โตขึ้น
การถัวเฉลี่ยขาดทุน มักจะเริ่มต้นมาจากการไม่ยอมตัดขาดทุนก่อน
จากนั้นปล่อยปละละเลยให้ราคาร่วงแรง จนขาดทุนหนัก ราคาหุ้นลงไปลึกมาก จนคิดว่าราคาถูกมากแล้ว จึงซื้อเพิ่มเพราะคิดว่าราคานั้นถูกมากเหมือนได้เปล่า ซึ่งมันไม่เป็นความจริงเลย
เพราะถ้าหากราคาหุ้นมันเป็นขาลงไปแล้ว โมเมนตัวยังคงอยู่ เนื่องจากมีคนขายหุ้นหนีตายเป็นจำนวนมาก คนติดหุ้นก็มีมหาศาล กว่าที่ราคาจะฟื้นไปถึงทุนของท่าน ต้องใช้เวลานานมาก ทำให้เงินจมอยู่ในหุ้นตัวนั้นนานเกินไป และถ้าซื้อถัวเฉลี่ยหุ้นที่ร่วงเพราะผลประกอบการเลวร้าย เพราะแข่งขันไม่ได้ ผู้บริหารโง่แต่อวดฉลาดหลอกกินเงินเม่าเป็นอาชีพ หรือ มีความขัดแบย้งภายใน อาจถึงติด SP ทำให้เงินท่านหายหมดเกลี้ยงเลยก็เห็นทุกปี
๖) ไม่ยอมตัดขาดทุน
ดังนั้นเบื้องต้นของการป้องกันไม่ให้ความเสียหายลุกลามก็คือ "การตัดขาดทุน"
ไม่มีใครชอบการขาดทุน เพราะความเป็นมนุษย์ที่เกลียดการสูญเสีย
มันเจ็บปวดเสมอที่ต้องเจอการขาดทุน
แต่เราไม่รู้เลยว่าการขาดทุนเป็นส่วนหนึ่งของการเทรดที่เราเลี่ยงไม่ได้
เมื่อเราเกลียดการขาดทุน จึงไม่อยากตัดขาดทุน แล้วก็ตอบสนองมันด้วยการมองข้าม
เมื่อมองข้ามก็ไม่อยากติดตาม ปล่อยปละละเลยจนถึงการเลวร้าย จึงเริ่มหาเหตุผลมาแก้ตัวด้วยการหลอกตัวเองว่าราคาลงมาเยอะแล้ว ราคานี้ถูกเหมือนได้เปล่า ยิ่งซื้อเงินยิ่งจม เพราะราที่เป็นขาลงไปแล้วมันไม่ไปไหน ทำให้อึดอัดและไม่มีเงินไปเล่นตัวที่ดี ๆ วิ่งแรง ๆ ได้
๗) อยากเอาคืนทันที
๖) ไม่ยอมตัดขาดทุน
ดังนั้นเบื้องต้นของการป้องกันไม่ให้ความเสียหายลุกลามก็คือ "การตัดขาดทุน"
จากตอนแรกที่เสียหายแค่ 1,000 บาท ถ้าปล่อยทิ้งไว้ ไม่ยอมขาย เรพาะกลัวคัทแล้วเด้ง ความเสียหายก็มีโอกาสเพิ่มเป็น 2,000 5,000 10,000 100,000 ได้ถ้าเป็นหุ้นเน่า
กลัวคัทแล้วเด้ง
ส่วนใหญ่มีข้อแก้ตัวแบบนี้
ซึ่งจากประสบการณ์ของผมเองนะ ตัวที่คัทแล้วเด้งมีไม่เกิน 20% ของทั้งหมดครับ ส่วนใหญ่มักจะลงเละเทะ ความเสียหายจาก 5% ไม่ยอมขายเพราะขอรอดูก่อน จากนั้นมักจะลงไป 20% หรือ 30% ซึ่งมันลึกเกินไปแล้ว แทนที่จะกล้าตัดขาย ก็เกิดเปลี่ยนใจเป็นซื้อถัวเฉลี่ยขาดทุนไปแทนซะงั้น
ซึ่งการซื้อถัวเฉลี่ยขาดทุน คือการเอาเงินไปจมในหุ้นทีไม่ก่อให้เกิดรายได้ครับ มันไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลย แค่เราหลอกตัวเองว่ายังไม่ขาดทุนจริง ๆ เท่านั้นเอง
ไม่มีใครชอบการขาดทุน เพราะความเป็นมนุษย์ที่เกลียดการสูญเสีย
มันเจ็บปวดเสมอที่ต้องเจอการขาดทุน
แต่เราไม่รู้เลยว่าการขาดทุนเป็นส่วนหนึ่งของการเทรดที่เราเลี่ยงไม่ได้
เมื่อเราเกลียดการขาดทุน จึงไม่อยากตัดขาดทุน แล้วก็ตอบสนองมันด้วยการมองข้าม
เมื่อมองข้ามก็ไม่อยากติดตาม ปล่อยปละละเลยจนถึงการเลวร้าย จึงเริ่มหาเหตุผลมาแก้ตัวด้วยการหลอกตัวเองว่าราคาลงมาเยอะแล้ว ราคานี้ถูกเหมือนได้เปล่า ยิ่งซื้อเงินยิ่งจม เพราะราที่เป็นขาลงไปแล้วมันไม่ไปไหน ทำให้อึดอัดและไม่มีเงินไปเล่นตัวที่ดี ๆ วิ่งแรง ๆ ได้
วิธีการแก้ไข ปรับทัศนคติให้กล้าตัดขาดทุนคือ
ต้องมีลิมิตการสูญเสียที่มากที่สุดที่ท่านไม่สามารถทนได้
จากนั้นก็ตัดขาดทุนจนเป็นนิสัยครับ
ยิ่งตัดขาดทุนแล้วดี ได้เินไปเข้าตัวใหม่ที่วิ่งเร็ว ๆ แรง ๆ ได้เงินคืนในเวลาอันรวดเร็ว (ซึ่งไม่ใช่การเทรดแบบแก้แค้น - จะพูดถึงในตอนถัดไป) ท่านจะเห็นประโยชน์ของการตัดขาดทุนไวทันที ว่ามันโอเคมาก ไม่ใช่เรื่องเจ็บปวดเลย แต่เป็นวิธีการบริหารเงินที่ฉลาดมากกว่า
ถ้าไม่กล้าตัดขาดทุนหมดในครั้งเดียว เพราะเสียดายเงิน ก็ให้ท่านลองแบ่งขายออกไปทีละนิดครับ ครั้งแรกยากเสมอ แต่ครั้งต่อไปเป็นเรื่องง่ายแล้วเพราะท่านรู้สึกแล้วว่ามันไม่อันตรายอะไรเลย
แถมอีกมุมมองหนึ่งนะ
ถ้าท่านสามารถรันกำไรตัวที่บวกให้ท่านได้เยอะๆ หลายเท่าของเปอร์เซ็นต์ตัวที่ตัดขาดทุน ท่านจะรู้สึกเลยว่า การตัดขาดทุนตัวละไม่กี่เปอร์เซ็นต์เป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยมาก
สมมุติท่านได้กำไรแต่ละตัว 30%
แต่ตัดขาดทุนตัวหนึ่ง 5%
ท่านจะเห็นความต่างของตัวเงินเลยว่ามันคนละเรื่อง ความสุขมันใหญ่กว่าความเจ็บปวดเล็กน้อยนัก ความกล้าตัดขาดทุนตั้งแต่เสียหายน้อยจึงเป็นเรื่องสมเหตุสมผล เพราะท่านอยากเอาเงินไปลงกับตัวที่ทำเงินก้อนใหญ่ให้ท่านได้ ซึ่งมันจะเป็นสักตัวที่จะวิ่งในอนาคตข้างหน้า หากท่านไม่ติดหุ้นก็สามารถได้กำไรหุ้นตั้งแต่ต้นเทรนด์เลย
๗) อยากเอาคืนทันที
เป็นความหายนะที่เกิดจากอารมณ์
เป็นวิธีคิดของนักพนันครับ
พวกเขาคิดว่าการเทรดต้องอาศัยโชค
ซึ่งโชคนั้นไม่มีนัยสำคัญต่อความอยู่รอดมในระยะยาว
ตลาดหุ้นไม่รู้จักคุณหรอกครับ
มันไม่รู้จักนักเทรดทุกคนในตลาด
มันไม่สนใจว่าเมื่อวาน หรือตาที่แล้วท่านขาดทุนหุ้นตัวไหน หรือขาดทุนมากี่ตั้วแล้ว ไม่สนใจ
เช่นกันกับที่ว่ามันไม่สนใจว่าท่านกำไรตัวไหนเมื่อวันวาน หรือกำไรมากี่ตัวติดแล้ว ทุกการเทรดมันคือการนับหนึ่งใหม่ ไม่เกี่ยวข้องกับครั้งที่แล้ว
เมื่อมันตัดขาดจากกัน จึงไม่มีเรื่องของความสงสาร หรือการส่งเสริม
ถ้าคุณพลาดตลาดลงโทษทันที
ถ้าคิดถูก ก็กำไรทันที
นี่คือความยุติธรรมของตลาดครับ
ท่านต้องยอมรับมันให้ได้
ดังนั้น เทรดตามแผน ทำการบ้านก่อนเทรดเสมอ
คิดถึงความผิดพลาดไว้ก่อน
ซึ่งแม้เราทำการบ้านมาก่อนก็ยังเกิดความผิดพลาดเลยครับ
นับประสาอะไรกับการหาหุ้นเล่นหน้างานเพื่อเอาคืน
ตอนที่คุณหาหุ้นเพื่อเอาคืนนั้น คุณเต็มไปด้วยความร้อนรน
เมื่อร้อนรนก็ไม่รอบคอบ คิดแต่เอาแต่ได้
คนที่คิดแบบนี้ มีแต่พังครับ
เพราะคู่ต่อสู้ของคุณไม่ใช่เม่า แต่เป็นเจ้ามือที่ปล่อยเหยื่อมาล่อคนที่หุ้นหันพลันแล่นเช่นท่าน
จึงไม่ต้องแปลกใจที่โอกาสชนะ ได้เงินคืนของท่านจะมีเปอร์เซ็นต์น้อยมาก แต่เปอร์เซ็นต์ขาดทุนเพิ่มให้เจ็บใจหนักกว่าเดิมมีสูงลิ่ว
เพราะท่านประมาทไง ท่านเอาแต่ใจไง ท่านเทรดแบบเสี่ยงโชคไง
ตลาดหุ้นไม่ใช่โรงทาน แต่มันเป้นสงครามครับ
อย่าได้พลาดให้คนอื่นเห็น เพราะเขาจะซัดท่านให้แพ้หมดรูปได้
ทุกคนในตลาดหุ้นเป็นมืออาชีพครับ
อย่าทำตัวเป็นมือสมัครเล่นให้เขาเห็นเด็ดขาด
ความหุ้นหนพลันแล่น อาจทำให้ท่านรู้สึกดีชั่วคราว
แต่ความเสียหายที่เกิดขากนั้นมันจะทำให้ท่านเสียใจในระยะยาวแน่นอน
จำไว้เลยว่า ตลาดคอยมอบโอกาสให้ท่านอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
เหมือนรถเมล์ ที่คันนี้ผ่านไป ท่านไม่ทัน ก็อย่าไปวิ่งไล่
เดี๋ยวคนใหม่ก็มา ขอแค่รอให้เป็นครับ
(แนะนำเพิ่มเติม ของฟรี)
หากต้องการศึกษาวิธีเล่นหุ้น แนะนำให้ไปอ่านบทความฟรี คลิปฟรีที่นี่ก่อนก็ได้
คลิกลิ้งนี้ครับ
https://www.zyo71.com/p/index.html เป็นสารบัญเว็บนี้ครับ
มีทั้งเทคนิคการเล่นหุ้นด้วยกราฟ จิตวิทยาการเทรด และการบริหารความเสี่ยง ครบวงจรครับ