การบริหารความเสี่ยง: ไม่ใช่แค่การตั้ง Stop Loss แบบเดาสุ่ม

Image
การบริหารความเสี่ยง: ไม่ใช่แค่การตั้ง Stop Loss แบบเดาสุ่ม แปลจาก https://x.com/NickSchmidt_/status/1870997680513544635?t=v5ED4IJCHVAJTwaAGY3IqQ&s=19 หลายคนเข้าใจผิดว่า การตั้ง Stop Loss เป็นเพียงการกำหนดเปอร์เซ็นต์ขาดทุนแบบสุ่มเพื่อป้องกันความเสียหาย แต่ความจริงแล้ว การตั้ง Stop Loss ที่ถูกต้องต้องมีเหตุผลที่สอดคล้องกับโครงสร้างและแผนการเทรดของคุณ eBook "Risk Management: การบริหารจัดการความเสี่ยงเบื้องต้นสำหรับนักเทรด" มีจำหน่ายที่แอพ Meb เท่านั้น  https://www.mebmarket.com/?action=book_details&book_id=332340 สิ่งที่นักเทรดมือใหม่ควรรู้เกี่ยวกับ Stop Loss 1. Stop Loss ควรมีเหตุผล ไม่ใช่แค่เปอร์เซ็นต ตัวอย่าง: คุณอาจใช้กฎ 7% เป็นขีดจำกัดการขาดทุน แต่ไม่ใช่ว่าแค่ซื้อหุ้นแล้วตั้ง Stop Loss ไว้ที่ 7% โดยไม่มีการพิจารณาโครงสร้างของหุ้น นั่นไม่ใช่การบริหารความเสี่ยงที่ดี 2. Stop Loss ต้องเข้ากับลักษณะของการเทรด หุ้นที่ยังแข็งแรง: บางครั้งหุ้นอาจปรับฐาน 10% แต่ยังคงแนวโน้มที่แข็งแรงและโครงสร้างไม่เสียหาย ถ้า Stop Loss ของคุณตั้งไว้ต่ำเกินไป เช่น 7% โดยไม่สอดคล้องกับธรรมชาติ...

สรุปหนังสือ How to Spot the Next Starbucks, Whole Foods, Walmart or McDonalds BEFORE Its Shares Explode




ถ้าท่านดูคลิปไม่เข้าใจ สับสนในการสื่อสารของผมนะ อ่านสรุปที่นี่ได้





เบาะแสของหุ้น Starbucks ตัวต่อไป
๑) สินค้านั้นจะเปลี่ยนนิสัยของคนได้อย่างถาวร
๒) พวกเขาเป็นนักเลียนแบบ (copycat)
๓) พวกเขาพัฒนามันจนโด่งดัง และมีคนทำตามมากมาย
๔) ผู้บริหารมีความหลงใหล และวิสัยทัศน์
๕) มีการบริหารจัดการ และการลงมือทำระดับเทพ

Copycat มีข้อดียังไง?
๑) ระดมทุนได้ง่าย เพราะมีต้นแบบเดิมให้เห็นอยู่แล้ว
๒) ได้ประโยชน์จากประสบการณ์ของผู้บุกเบิก
๓) เริ่มต้นได้แบบไม่ต้องลองผิดลองถูกเยอะ ดิ้นรนมาก



เคสของ Starbucks
เริ่มต้นจากอิตาลี Howard Schultz พบว่าร้านกาแฟสไตล์อิตาลีมีเสน่ห์มาก จึงเอาไอเดียมารวมกันกับ สไตล์ของ McDonal's จนได้ Starbucks รูปแบบใหม่ที่กลายเป็นสุดยอดแฟรนไชส์ของยุคนี้

เมื่อสตาร์บัคส์โด่งดัง ขายของแพง แต่คนติดเพียบ
แน่นอนว่าต้องมีพวกเลียนแบบเพียบ ซึ่งมีทั่วโลก
แต่คุณค่าของสตาร์บัคส์ไม่ได้ลดลงเลย กลับทำให้มันมีพรีเมียมมากขึ้นไปอีก
นี่คือคาแรคเตอร์ของหุ้น super stocks อย่างแท้จริง

ในเล่มเขาได้ระบุจุดเข้าซื้อหุ้นตัวนี้เอาไว้เป็นกราฟ
ตรงที่เป็นดาวสีดำ คือจังหวะซื้อที่ยอดเยี่ยม
เพราะช่วงนั้นราคาหุ้นฟื้นตัวจากขาลงได้ พร้อมกันกับมูลค่าที่แท้จริงก็ยืนยันการเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคง


เคสของ McDonal's
แน่นอนว่า Ray Croc ไม่ได้เป็นคนบุกเบิก คิดค้นรูปแบบร้านนี้
แต่เขาไปเจอเพราะงานขาย แล้วประทับใจในกระบวนการทำเบอร์เกอร์ที่รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ
ชอบมาก จึงขอเป็นแฟรนไชส์ และจากนั้นพบว่ามันเวิร์คมาก คนติด จึงไปเสนอกับผู้ก่อตั้งว่าอยากขยายให้เป็นวงกว้างทั่วประเทศ แต่เจ้าของแรกเริ่มไม่เห็นด้วย มีความอนุรักษ์นิยมเกินไป
Ray Croc จึงทำเองเสียเลย ยิ่งทำยิ่งได้ดี คนติด และโด่งดัง จนเป็นนิสัยของคนอเมริกันไปเลย



ตรงนี้แหละที่เรียกว่า วิสัยทัศน์ ที่เป็นต้นแบบให้กับ Howard Schultz
และแน่นอนว่า จากนั้น ก็มีการก๊อปปี้แบบมโหฬาร ทั่วโลก
แถมบางเจ้าทำได้ดีกว่าด้วย คือ Jollibee สัญชาติฟิลิปปินส์



Whole Foods
มีจุดเด่นในเรื่องของ passion และ vision ที่นาย John Mackey มีอย่างท่วมท้น
ข้อดีของการมี passion และ vision คือ ทุกครั้งที่ผู้บริหารให้ข้อมูลไปยังลูกจ้าง จะได้การตอบรับที่ดี และสร้างแรงกระตุ้นให้รักงาน อยากทำงานให้ดีที่สุด (แบบที่ starbusks มี)
เมื่อผู้ปฏิบัติงานตั้งใจทำงาน ก็จะให้บริการที่ดี ผู้เข้ามาใช้บริการก็ประทับใจ อยากเข้ามาใช้บ่อย ๆ

ความเป็น Whole Foods จึงมีสตอรี่ในตอนเริ่มต้นดังนี้
๑) พนักงาน ตั้งใจทำความสะอาดแบบไม่คิดเงิน เพราะเขาเปลี่ยนจาก employee เป็น partner นั่นเอง
๒) ซัพพลายเออร์ ยืดเครดิตให้ เพราะซีอีโอขายวิชั่นได้สุดยอดมาก และทำได้จริง
๓) ผู้ร่วมหุ้นก็ยินดีเติมเงินให้ตลอดเวลาที่ต้องการ



Berger King กับ Brazilian Way
ในปี 2010 มีนักธุรกิจชาวบราซิล ๓ คน ได้ซื้อกิจการของ Berger King มาบริหาร
แล้วจัดการเปลี่ยนระบบการบริหารไปเป็นแบบใหม่ ที่ยยอดเยี่ยมและรวดเร็ว กำไรต่อร้านสโตร์เพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายลดลงตาม ทำให้มูลค่าของ Berger King เติบโตขึ้นจาก 4 ล้าน ไปเป็น 2 หมื่นล้าน ในเวลาแค่ 5 ปีเท่านั้น

โมเดลที่ชาวบราซิล ทำไว้คืออะไร?
เขาใช้หลักการ PSD
P = Poor
S = Smart
D = Deep Desire to Get Rich
จ้างคนที่กระหายความสำเร็จ มาจากครอบครัวที่ยากจน แต่อยากรวย มาทำงานให้


Finding the Nest Starbucks "by Walking Around"
๑) ดู operational methodology
๒) ดู company's vision and the customer experience
๓) ดูระบบ
๔) ดู management's honesty, integrity, and ability

How to profit from the Next Starbucks or the last one
๑) Start your own
๒) Become a franchisee
๓) Investment straegies from Buffet
๔) ....to Thiel (ผู้เขียน)

Start your own สร้างธุรกิจขึ้นมาเอง
๑) ระบุและเข้าใจ niche market
๒) นิยาม vision กับ mission ที่สามารถกระตุ้นลูกค้าพนักงานนักลงทุนและผู้ถือหุ้นให้ทำงานกับเราได้ ยิ่งมีวิสัยทัศน์ที่ใหญ่ยิ่งก็ยิ่งดีมากถ้าคุณต้องการจะไปถึงดวงจันทร์ก็ต้องชี้ไปที่ดวงดาว
๓) สร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าประทับใจ
๔) พัฒนาระบบโดยโฟกัสไปที่ประสบการณ์ของลูกค้าเพื่อให้แน่ใจว่ามันเป็นประสบการณ์ที่ยั่งยืนต้องเกิดกับทุกๆสถานที่ในโลกนี้
๕) แม้แต่แค่โลเคชั่นเดียวคุณต้องทำให้ลูกค้าเขาไม่ใจอย่างยั่งยืนตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน
๖) สร้างมันให้เป็นวัฒนธรรมขององค์กร
๗) สร้างทัศนคติและความมุ่งมั่นว่าจะการันตีตัวเองต้องทำให้มันสำเร็จให้ได้
๘) ขยายกิจการให้ใหญ่โตพร้อมกับกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่มีหยุดหย่อน

Franchise Approach
๑) เลือกผู้ขายแฟรนไชส์ที่ยอดเยี่ยม
๒) เลือกโลเคชั่นที่เยี่ยมยอด
๓) มองเกมยาว
๔) ขยายออกนอกประเทศ
เคส Jollibee UGG boots

Investment strategies from Buffet to Peter Thiel(ผู้ก่อตั้ง PayPal และ Founder Fund)
๑) เลือกบริษัทที่เป็น cash machine
๒) ซื้อเมื่อราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง และ margin of safety 25%




Buy the next Starbucks at the IPO or before
วิธีซื้อหุ้นเศษสลึงและขายเมื่อมันเต็มบาท
Larry' s criteria for turning pennies into dollars
1 ซื้อในราคาที่เหมาะสมทางมูลค่า
2 บริษัทนั้นต้องมีคนฉลาดบริหารงาน
3 ผู้บริหารนั้นต้องมีความกระฉับกระเฉง บ้าพลัง
4 ผู้บริหารต้องมีความกระหายในความสำเร็จ
5 ถ้าเป็นคนหนุ่มสาว จะดีมาก
6 ผู้บริหารต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมนั้น
7 ตัวนักลงทุนเองก็ต้องรู้จักอุตสาหกรรมนั้นดีด้วย

Chipotel
เป็นเคสที่สนับสนุน เบาะแสของหุ้น Starbucks ตัวต่อไป
๑) สินค้านั้นจะเปลี่ยนนิสัยของคนได้อย่างถาวร
๒) พวกเขาเป็นนักเลียนแบบ (copycat)
๓) พวกเขาพัฒนามันจนโด่งดัง และมีคนทำตามมากมาย
๔) ผู้บริหารมีความหลงใหล และวิสัยทัศน์
๕) มีการบริหารจัดการ และการลงมือทำระดับเทพ

นี่คือจุดซื้อที่ดี



สรุปนะครับ
เล่มนี้ดีมากครับ อ่านง่าย ไม่ซับซ้อน ยิ่งท่านเป็นคนที่สนใจเรื่องของธุรกิจด้วยล่ะก็ อ่านไปก็เพลิดเพลินไป ได้ความรู้เสริมมาเพียบ ขนาดผมไม่ใช่วีไอ ก็ยังเคลิ้มไปตามด้วยเลย
แนะนำให้หาซื้อมาอ่านกัน

ปล. ตอนนี้มีแปลเป็นภาษาไทยแล้วนะครับ


(แนะนำเพิ่มเติม ความรู้การเทรดหุ้นของฟรี)
หากต้องการศึกษาวิธีเล่นหุ้น แนะนำให้ไปอ่านบทความฟรี คลิปฟรีที่นี่ก่อนก็ได้
เรียนเล่นหุ้น เรียนเทรด forex จิตวิทยาการเทรด มือใหม่เล่นหุ้น
คลิกลิ้งนี้ครับ https://www.zyo71.com/p/index.html เป็นสารบัญเว็บ zyo71.com นี้แหละครับ


ส่วนนี่เป็น ช่องยูทูป ของผมเอง ดูฟรีเช่นกันครับ
เข้าไปชม คลิกที่ลิ้งนี้ www.youtube.com/channel/UCTDoP5zRI4hRETT_2SSlPag/videos


และนี่เป็นหนังสือเล่มของผมเองครับ



www.facebook.com/zyobooks


และ eBook มีขายที่เว็บ https://www.mebmarket.com/index.php?action=search_book&type=author_name&search=เซียว%20จับอิดนึ้ง&exact_keyword=1&page_no=1
แยกส่วนกันนะครับ ขายคนละเจ้า
ebook หนังสือสอนเล่นหุ้น

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

แชร์วิธีการหารายได้จากการช่วยขาย ebook ที่ mebmarket.com

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ