Jesse Livermore's Methods
การเลือกหุ้น, หนทางสู่ความสำเร็จ, การตีความข่าว, ตลาด
จาก Jesse Livermore's Methods of Trading in Stocks
http://www.supertradersystem.com/library/JESSE-LIVERMORE-METHODS.pdf
.
เป็นบทสัมภาษณ์ที่ให้กับ Richard D. Wyckoff หลังจากที่ล้มละลายครั้งแรกแล้วกลับมาทำเงินได้อีกครั้งและสามารถใช้หนี้ได้หมดในเวลาไม่นาน (ถ้าใครยังไม่ได้ได้อ่านประวัติของเขาก็ให้ไปดูสรุปได้ที่ fb.com/zyoit/posts/738785559582036:0 ) ซึ่งตอนนั้นผู้คนฮือฮามาก
ผมจะคัดเอาเฉพาะเนื้อหาบางส่วนที่สนใจและพอแปลได้เข้าใจนะ
#เลี่ยงหุ้นราคาถูกๆ
ความผิดพลาดมหันต์ที่สุดของนักลงทุนมือใหม่ก็คือการซื้อหุ้นที่ถูกซื้อขายในราคาถูกๆ เพราะความจริงก็คือราคาไม่ได้บอกมูลค่าที่แท้จริงเสมอไป ควรดูอย่างอื่นด้วย เช่นการจ่ายปันผล ความสามารถในการทำกำไร ฯลฯ
#หาธุรกิจที่แข็งแกร่ง
- ในการเลือกหุ้น, นักลงทุนควรดูว่าอุตสาหกรรมไหนอยู่ในตำแหน่งที่แข็งแรง ธุรกิจไหนที่อ่อนแอกว่า อ่อนแอที่สุด ฯลฯ
- หลีกเลี่ยงอุตสาหกรรมที่อ่อนแอ - นักลงทุนส่วนใหญ่ไม่เคยแยกว่าหุ้นตัวไหนแข็งแรงตัวไหนอ่อนแอ แถมแยกไม่เป็นด้วย ทำให้พลาดโอกาสงามๆไปบ่อยครั้ง จึงควรเลี่ยงอุตสาหกรรมที่อ่อนแอและหุ้นที่ราคาต่ำมากๆ เพราะมันบ่งบอกว่ามีพื้นฐานที่ไม่มั่นคง
- ให้เกาะกระแสอุตสาหกรรมที่แข็งแรงไว้ พวกที่มีอนาคตสดใสและเติบโตได้อีก
#หุ้นมีฤดูกาลและแฟชั่นของมัน - นักลงทุนควรเข้าใจว่าหุ้นหรือธุรกิจนั้นล้วนมีฤดูกาลและแฟชั่นของมัน เช่น ฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนจะเป็นช่วงที่ดีที่สุดสำหรับหุ้นรถยนต์และยาง ซึ่งราคาจะวิ่งดีในช่วงนั้นแล้วจากนั้นก็จะร่วงเพราะจบช่วงเวลาที่ดีไปแล้ว
#หนทางสู่ความสำเร็จ
- การประสบความสำเร็จในตลาดหุ้นมีวิธีการเดียวเท่านั้น - คือ การหาข้อมูลอย่างหนักก่อนลงทุน โดยเฉพาะทางด้านพื้นฐานของกิจการ ประวัติ และสถานการณ์ของเศรษฐกิจในขณะนั้น
.
- สิ่งที่ทำให้ลิเวอร์มอร์ประสบความสำเร็จก็คือ "ความรู้+ความอดทน" น้อยคนนักที่ประสบความสำเร็จในตลาดได้โดยปราศจากความอดทน คนส่วนใหญ่อยากรวยเร็วๆ ผลคือไปไล่ซื้อหุ้นที่ยอดดอยกัน
ในระยะยาวแล้ว, ความอดทนจำเป็นเหนือกว่่าสิ่งอื่นใด ความรู้ก็จำเป็น หาข้อมูลให้มากก่อนซื้อหุ้น อย่าหวั่นไหวหากราคาไม่ไปไหน มันจะวิ่งเมื่อถึงเวลา,โดยเฉพาะในช่วงตลาดขาขึ้น อย่าลืมเลือกหุ้นแข็งแกร่งในอุตสาหกรรมที่แข็งแรง และให้ซื้อเมื่อคุณเห็นว่ามันกำลังจะวิ่งขึ้นเท่านั้น
#วิธีการหาข้อมูลจากข่าว
นอกจากการที่เขานอนไวและตื่นเช้า ลิเวอร์มอร์ใช้เวลาหนึ่งถึงสองชั่วโมงก่อนอาหารเช้าเพื่ออ่านหนังสือพิมพ์ โดยเน้นไปที่การเจาะหาความจริงจากข่าวนั้นๆ หาข้อมูลที่น่าจะมีผลต่อตลาด, ธนาคาร, การค้าต่างประเทศ, การเงิน, ผลิตผลการเกษตร, รายงานของบริษัท และสถิติการซื้อขาย
#วิธีการตีความข่าว
หลังจากที่อ่านข่าวตอนเช้า, เขาจะได้ข้อมูลทางพื้นฐาน แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขาตัดสินใจซื้อเลย แต่จะดูเทป(หรือในปัจจุบันก็คือติ๊กเกอร์รวมถึงกราฟ) ข่าวจากเทปจะบอกให้เขารู้ถึงความเคลื่อนไหวและพัฒนาการล่าสุดของมันที่ถูกสะท้อนจากทุกส่วนของโลก เพราะตลาดจะเป็นตัวสะท้อนความเห็นของผู้เล่นทุกคนซึ่งบางคนอาจมีพลังมากกว่าคนอื่น ซึ่งจะเป็นตัวขับเคลื่อนอารมณ์ตลาดให้คนอื่นๆตัดสินใจซื้อหรือขายตามได้ ลิเวอร์มอร์ชอบอ่านความนัยเพื่อค้นหาว่าทำไม "พวกเขา" ถึงได้พยายามทำสิ่งนั้น
การตีความข่าวของเขานั้น, ทำได้สองทาง
๑) เพื่อตัดสินว่าคนส่วนใหญ่/หรือรายใหญ่คิดจะขายเพื่อกดทั้งตลาดหรือเพื่อทุบหุ้นแค่บางตัว
จากนั้น ๒) เขาจะดูติ๊กเกอร์เพื่อหาหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากข่าวนั้น เพื่อดูว่ามันมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อหรือขายในหุ้นบางตัว
การตีความข่าวของเขาอาจจะมีมุมมองที่แตกต่างจากการแสดงออกของตลาด แต่เขาก็รู้ว่าการพัฒนาการนั้นมีความสำคัญเพียงพอ, มันจะส่งผลต่อเทปในอีกไม่ช้า
ตลาดต้องการ "#การทำความเข้าใจ"
ลิเวอร์มอร์บอกว่า "ทุกคนคิดว่าความสำเร็จของเขานั้นขึ้นอยู่กับโอกาสที่อาจจะมาจากข้างนอกตลาด ซึ่งเป็นทัศนคติที่ผิดตั้งแต่เริ่มคิดแล้ว ปัญหาใหญ่สุดของใครก็ตามที่ซื้อหุ้นก็คือเขามองว่าตลาดหุ้นเป็นบ่อนการพนัน ควรมีใครสักคนเข้าใจว่าการลงทุนหุ้นนั้นต้องการ “การศึกษาเพื่อทำความเข้าใจและเตรียมตัว” ซึ่งไม่ต่างจากการเรียนกฎหมายหรือแพทย์เลย คนมากมายบอกว่าที่ผมกำไรหุ้นเป็นเพราะความโชคดี ทั้งที่ความจริงแล้ว, ผมใช้เวลาตลอด15 ปีเพื่อเรียนรู้มันอย่างใกล้ชิด จะว่าผมอุทิศชีวิตให้กับมัน, อีกทั้งยังลงมือทำให้ดีที่สุดอีกด้วย