ทีมที่เอาแต่บุกอย่างเดียวโดยไม่มีการป้องกัน มีโอกาสที่จะชนะน้อยมาก
อันที่จริงแล้ว บ่อยครั้งที่การป้องกันอย่างแข็งแกร่ง
สามารถที่จะขับเคลื่อนให้ทีมประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ได้เลย
วิลเลี่ยม โอนีล
ในตลาดหุ้น คุณไม่มีทางที่จะชนะในเกมการลงทุน
นอกเสียจากว่าคุณจะมีการป้องกันที่แข็งแกร่ง
เพื่อปกป้องตัวคุณจากการขาดทุนครั้งใหญ่
วิลเลี่ยม โอนีล
ไม่ว่าคุณจะฉลาดแค่ไหน
มีไอคิวที่สูงเท่าไหร่ มีการศึกษาสูงเพียงใด
มีข้อมูลที่ดีแค่ไหน หรือมีการวิเคราะห์ที่น่าเชื่อถือขนาดไหนก็ตาม
คุณก็ไม่มีทางที่จะเป็นฝ่ายถูกทุกครั้ง และตลอดเวลา
อันที่จริงแล้ว
คุณน่าจะเป็นฝ่ายถูกน้อยกว่าครึ่งของทั้งหมดด้วยซ้ำ
วิลเลี่ยม โอนีล
กฏข้อแรกของนักลงทุนรายย่อยที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ก็คือ
ตัดการขาดทุนให้เร็วเสมอ
จำกัดการสูญเสียในทุกๆครั้ง
การจะทำแบบนี้ได้ต้องอาศัยวินัยและความกล้าหาญอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
วิลเลี่ยม โอนีล
การขาดทุนให้น้อยและทำกำไรให้มากคือจอกศักดิ์สิทธิ์แห่งการลงทุน
มาร์ค แมนเดล
ผมชอบที่จะทำตามอัตราส่วน 3 ต่อ 1
ระหว่างการขายเพื่อทำกำไรและการขายตัดขาดทุน
คือถ้าคุณทำกำไรที่ 20% ถึง 25% ก็ให้ตัดขาดทุนที่ 7 % หรือ 8 %
วิลเลี่ยม โอนีล
ความลับทั้งหมดของชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ในตลาดหุ้น
ไม่ใช่การเป็นฝ่ายที่ถูกทุกครั้ง
แต่เป็นการขาดทุนให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในทุกครั้งที่คุณผิด
วิลเลี่ยม โอนีล
มันเป็นหน้าที่ของคุณ
ที่จะต้องไปในทิศทางเดียวกันกับตลาด
และอย่าพยายามทำให้ตลาดไม่อยู่ในทิศทางเดียวกับคุณ
วิลเลี่ยม โอนีล
คุณจะสามารถบอกได้อย่างไรว่าคุณอาจจะผิดไปแล้ว
มันเป็นเรื่องง่ายๆก็คือตอนที่ราคาหุ้นมันตกลงไปต่ำกว่าราคาที่คุณซื้อมัน
วิลเลี่ยม โอนีล
ผู้คนคิดกันไปว่าการที่จะประสบความสำเร็จได้นั้น
คุณจะต้องมีโชคและก็จะต้องเป็นฝ่ายที่ถูกเกือบจะในทุกครั้ง
มันไม่ได้เป็นแบบนั้นหรอก
คนที่ประสบความสำเร็จก็ทำความผิดพลาดมากมาย
และความสำเร็จของพวกเขามาจากการทำงานหนัก ไม่ใช่จากโชคดี
พวกเขาก็แค่พยายามหนักกว่าและบ่อยครั้งกว่าคนโดยเฉลี่ยทั่วไป
มันไม่มีความสำเร็จที่เกิดขึ้นชั่วข้ามคืน
ความสำเร็จนั้นต้องใช้เวลา
วิลเลี่ยม โอนีล
ในการที่จะมีหุ้น 1 หรือ 2 ตัวที่จะทำเงินจำนวนมากให้กับคุณ
คุณจำเป็นจะต้องมองหาและซื้อหุ้นมา 10 ตัว
วิลเลี่ยม โอนีล
เพื่อที่จะปกป้องเงินที่คุณหามาอย่างยากลำบาก
ผมคิดว่าตัวเลขการขาดทุน 7% หรือ 8% ควรจะเป็นจุดจำกัดที่มากที่สุด
ค่าเฉลี่ยของการขาดทุนทั้งหมดคุณควรจะน้อยกว่านั้น
บางทีอาจจะเป็น 5% หรือ 6%
ถ้าคุณทำตามวินัยอย่างเคร่งครัดและตัดสินใจอย่างรวดเร็ว
วิลเลี่ยม โอนีล
มันไม่มีหุ้นตัวใดที่ปลอดภัยและแน่นอน
ทุกตัวสามารถที่จะตกลงไปได้ในทุกเวลา
และคุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่ามันจะตกลงไปได้มากขนาดไหน
วิลเลี่ยม โอนีล
การขาดทุน 50% ทุกครั้งจะเริ่มต้นมาจากการขาดทุน 10% หรือ 20% ก่อน
วิลเลี่ยม โอนีล
จำเอาไว้ว่าถ้าคุณปล่อยให้หุ้นตกลงไป 50%
คุณจะต้องทำกำไรให้ได้ 100% กับหุ้นตัวถัดไป
เพียงเพื่อที่จะกลับมาเท่าทุน
และมันบ่อยแค่ไหนกันที่คุณซื้อหุ้นแล้วมันขึ้นไป 1 เท่าตัว?
วิลเลี่ยม โอนีล
ลืมอีโก้ของคุณ
กล้ำกลืนความภาคภูมิใจของคุณลงไป
หยุดพยายามที่จะโต้เถียงกับตลาด
อย่าใช้อารมณ์ไปยึดติดกับพวกตัวใดที่กำลังทำให้คุณเสียเงินอยู่
วิลเลี่ยม โอนีล
ผมขายหุ้นในตอนที่มันยังวิ่งขึ้นไป
และนั่นเป็นเหตุผลเดียวที่ผมสามารถรักษาความมั่งคั่งของผมเอาไว้ได้
หลายครั้งที่ผมอาจจะทำกำไรได้มากขึ้นถ้ายังถือหุ้นเอาไว้ต่อ
แต่ผมก็จะต้องติดอยู่กับหุ้นขาลงในตอนที่ราคาหุ้นมันร่วงลงมาด้วย
เบอร์นาร์ด บารุค
เมื่อราคาได้ขึ้นมาถึงบริเวณที่เท่ากับราคาเป้าหมาย
หรือมีราคาที่สูงเกินมูลค่าแล้ว
ควรที่จะลดปริมาณการถือหุ้นลงมาเรื่อยๆในขณะที่หุ้นกำลังวิ่งขึ้นไป
เจอรัลด์ เอ็ม โล๊บ
เพื่อการประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในตลาดหุ้น
ควรจะต้องมีกฎและแผนการของกำไรและการขาดทุนที่ชัดเจน
วิลเลี่ยม โอนีล
คุณสามารถที่จะเรียนรู้การลงทุนอย่างชาญฉลาดได้
ถ้าคุณเต็มใจที่จะศึกษาจากความผิดพลาดทั้งหมดของคุณ
เรียนรู้จักพวกมันและเขียนกฎใหม่ที่แก้ไขขึ้นมาด้วยตัวเอง
วิลเลี่ยม โอนีล
คุณไม่สามารถที่จะกลายเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ในตลาดหุ้นได้
จนกว่าคุณจะเรียนรู้ที่จะเป็นผู้ขายที่เก่ง
เช่นเดียวกับผู้ซื้อที่เก่ง
วิลเลี่ยม โอนีล
ความผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุด 98% ของนักลงทุนทั้งหมดทำก็คือ
ไม่เคยที่จะใช้เวลาไปเพื่อการพยายามเรียนรู้ว่า
พวกเขาทำความผิดพลาดไปที่ตรงจุดใดในการซื้อและการขายหุ้นของพวกเขา
และอะไรคือสิ่งที่พวกเขาต้องหยุดทำ
หรือต้องเริ่มทำเพื่อที่จะประสบความสำเร็จให้มากขึ้นกว่าเดิม
วิลเลี่ยม โอนีล
ความแตกต่างระหว่างคนที่ประสบความสำเร็จ
และคนที่ไม่ประสบความสำเร็จในแวดวงใดๆก็คือ
คนที่ประสบความสำเร็จจะทำในสิ่งที่คนอื่นไม่อยากจะทำ
วิลเลี่ยม โอนีล
หนังสือมีขายตามร้านซีเอ็ด นายอินทร์ และออนไลน์นะครับ
แนะนำให้หามาอ่านโดยพลัน
โบราณเขาบอกว่า "คนที่อ่านสามก๊ก ๓ จบ คบไม่ได้"
แต่ผมบอกเลยว่า ถ้าหากท่านอ่าน "คัดหุ้นชั้นยอด ด้วยระบบชั้นเยี่ยม" เกิน ๓ จบ
ท่านมีศักยภาพมากพอที่จะเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จได้
ฟันธง !!!
ปล.เรื่องของการทำความเข้าใจความเสี่ยง และการปรับทัศนคติเกี่ยวกับความเสี่ยง
ผมเขียนแบบจัดเต็มในหนังสือ "ความรู้หุ้น มูลค่า 1 ล้านบาท" แล้วนะครับ
หามาอ่านได้