การเทรดที่ประสบความสำเร็จ นั้น แค่ “ดีกว่าค่าเฉลี่ย” ก็ยังไม่พอ

Image
Alexander Elder กล่าวว่า การเป็นเพียงแค่ “ดีกว่าค่าเฉลี่ย” ยังไม่เพียงพอ คุณต้องโดดเด่นกว่าใครๆ เพื่อที่จะชนะในเกมที่มีผลรวมติดลบ (Being simply “better than average” is not good enough. You have to be head and shoulders above the crowd to win a minus-sum game.) eBook : คิดและสวิงเทรดเป็นระบบแบบพี่แดน (Dan Zanger) มีจำหน่ายที่แอพ Meb ที่เดียว https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTk5MjQzNSI7czo3OiJib29rX2lkIjtpOjM0NDM3MTt9 ในคำพูดนี้ Alexander Elder กำลังเน้นย้ำว่า ในโลกของการเทรด การเป็นเพียงแค่คนที่ "เก่งกว่าค่าเฉลี่ย" อาจไม่เพียงพอที่จะประสบความสำเร็จได้ เพราะการเทรดไม่ใช่เกมที่ทุกคนสามารถชนะพร้อมกันได้ มันคือเกมที่เรียกว่า เกมที่มีผลรวมติดลบ (minus-sum game) ซึ่งหมายความว่า ทรัพยากรที่หมุนเวียนอยู่ในตลาด เช่น กำไรและขาดทุน ถูกกระจายไปในกลุ่มผู้เล่น แต่เมื่อรวมต้นทุนการเทรด เช่น ค่าธรรมเนียม นายหน้า และค่าเสียโอกาสแล้ว จะทำให้โดยรวมตลาดมีผลขาดทุนสุทธิ "เกมที่มีผลรวมติดลบ" หมายถึงอะไร? การเทรดในตลาดไม่ได้มี...

แชร์เคสการขายล็อกกำไรหุ้น BEC

เมื่อวาน หุ้นตัวนี้วิ่งแรงมากครับ ผมมีโอกาสกระโดดเกาะรถซิ่งคันนี้ในเวลาสั้นๆ
จึงอยากเอาเคสมาแชร์ให้อ่านกัน

เริ่มต้นที่ผมสนใจตัวนี้ก็เพราะกราฟสวยครับ
ผมเคยเอาไปลงไว้ในบาความหุ้นจ่อเบรค

คือทรงของมัน สร้างฐานได้สวยมาก




และแล้ว เมื่อวาน จู่ๆ หุ้น MCOT ก็ดีดแรงครับ


ผมเห็นการเคลื่อนที่ของมันตั้งแต่ 9 บาท แต่ไม่แน่ใจ เพราะไม่มีฐานราคาที่น่าเชื่อถือให้เห็น
จึงได้แต่ปล่อยให้มันวิ่งไปไป
และมันก็ซิ่งโหดจริงๆ จาก 9 วิ่งไปทะลุ 11 บาทเลยทีเดียว
ผมคิดเลย ถ้าเราเข้าตั้งแต่ 9 บาท คงกำไรเหนาะๆ ไปแล้วอย่างน้อย 10%
แต่เมื่อคิดดูอีกที เมื่อมันไม่เข้าสูตรของเรา ก็จำต้องปล่อยมันไป
เราไม่รีบรวย แต่ขอให้เจอจังหวะที่เราถนัดก็พอ

พอเห็น MCOT วิ่งแรงมาก เหมือนว่ามีเงินก้อนใหญ่เข้ามาเก็งกำไร
ผมจึงลองเปิดกราฟหุ้นทีวีดู
ตั้งแต่ BEC, GRAMMY, AMARIN, TVT ก็เห็นว่านังไม่วิ่ง
ดูทรงแล้ว BEC สร้างฐานราคาที่เราถนัดมากที่สุด
ก็เลยเฝ้า ตอนนั้นราคาก็จ่อที่ 6.60 รออยู่แล้ว

แล้วเมื่อถึงเวลา มันก็ดีดจริงๆครับ
นี่เป็นกราฟ 5 นาที


ผมไม่ได้เข้าที่ 6.60 หรอกนะ เพราะราคามันก้ำกึ่ง
จึงรอให้ข้ามาผ่านได้แน่ จึงเข้าที่ 6.70 และ 6.65
จากนั้นมันก็วิ่งแรงเลยครับ
อย่างฟิน คิดในใจว่า ขอบวกแค่ 10% กรูขายล็อกกำไร
ไม่ขอลิ่งหรอก เพราะมันเป็นการวิ่งแบบลาภลอย

ขณะเดียวกันก็ดูการเคลื่อนไหวของหุ้น MCOT แยู่ตลอดนะ
พบว่า เริ่มยืนไม่อยู่ โดนขายให้หลุด 11 บาท ทะลุ 10 บาทไปเฉย
แบบนี้มั่นใจ เลยว่า "ปั่น" แน่ๆ

จากนั้นราคาหุ้น BEC ก็ร่วงแบบยอดเจดีย์ อย่างนี้ครับ


ตอนที่ราคาร่วง ผมลุ้นให้ยืน 7 บาท ให้ได้
ถ้าเอาอยู่ จะขอทนถือต่อ
แต่เมื่อมันหลุด 7 บาทได้ง่ายๆ ก็ต้องขอลา
เริ่มตัดขายที่ 6.95, 6.90, 6.85 จนหมดที่ ATC

สรุป กำไรไม่เยอะครับ เมื่อเทียบกับยอดทีมันวิ่งไปถึง 7.30 ตอนนั้นฟินเฟ่อร์
แต่เมื่อราคามันร่วงแรง สิ่งที่ต้องทำก็คือ รักษากำไรแบบลาภลอยนี้ไว้ให้ได้ครับ


วันนี้ตอนที่ผมเขียนต้นฉบับ มันลงต่อครับ
ก็ไม่รู้ว่าจะไปยังไงต่อ 

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

Marios Stamatoudis สวิงเทรดปั้นพอร์ตโต 291.2% ในปีเดียว เขาทำได้อย่างไร?

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

Oliver Kell: วงจรของการเคลื่อนไหวของราคา (Cycle of Price Action)

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน