มีโอกาสได้ดูคลิป ชื่อ June 6 2016 Swing Trading with Gil Morales ก็เห็นว่ามีเนื้อหาน่าเอามาแชร์มาก
Gil Morales เป็นผู้เขียนหนังสือหลายเล่ม ที่ดัๆและท่านน่าจะได้อ่านเวอร์ชั่นภาษาไทยในอีกไม่นานก็คือชื่อ "Trade Like an O'Neil Disciple: How We Made Over 18,000% in the Stock Market" ที่เขียนร่วมกับ Dr.Chris Kacher อีกเล่มก็คือ In The Trading Cockpit with the O'Neil Disciples: Strategies that Made Us 18,000% in the Stock Market และนอกจากนี้ก็ได้เขียนร่วมกันกับอาจารย์อย่าง วิลเลี่ยม โอนีล ชื่อ How to Make Money Selling Stocks Short อีกด้วย
ผมเองก็เคยแปลงานของแกแบบมั่วๆ หลายเรื่องด้วยกันนะ อาทิ
-
Voodoo - ทรงหุ้นซิ่ง ราคาย่อ วอลุ่มหาย
-
สรุปกฎ Pocket Pivot Buy Point 10 ข้อ
สรุปก็คือ ผมเป็นแฟนคลับของแกนั่นเองครับ ง่ายๆเลย
ที่ชอบเพราะเราต่างมีอาจารย์ร่วมกันก็คือ ปู่โอนีล, ทวดลิเวอร์มอร์ และทวด Wyckoff นั่นเอง
(คือผมเอามาอ้างแบบเกาะกระแสน่ะ เขาไม่รู้เห็นอะไรด้วยหรอก)
พอได้เห็นคลิปของแกเข้า แถมพูดถึงเรื่อง swing trade ด้วย จึงอดสนใจไม่ได้ครับ
คลิปนี้นะ ที่ผมอ้างถึง
VIDEO
แกบอกว่าใช้หลักการดังนี้
๑) เส้นค่าเฉลี่ย 10, 20, 50, และ 200 วัน
๒) สวิงเทรดในความหมายของแกคือ เน้นเอากำไร 10-30% ในระยะเวลาอันสั้น
เนื่องจากสภาพตลาดของอเมริกาในตอนนั้นมันเป็นช่วงปรับฐานครับ เกิดการสวิงแรงมาก (ซึ่งเหมือนบ้านเราในช่วงนี้เลย) แกก็เลยเน้นเล่นแบบกินกำไรคำเล็กๆแทน
๓) โดยหลักการที่ใช้หลากหลายมาก ทั้งซื้อแบบ breakout และ buy on dip
VIDEO
รักอยากสวิงเทรดต้องมีนิสัยยังไง?
- ชอบเทรดบ่อย เทรดถี่
- มีการบริการความเสี่ยงที่แคบ (จุดตัดขาดทุนแคบ) คือถ้าใช้หลัก กำไร 3 ขาดทุน 1 ก็จะได้ว่าคุณควรมี stop loss แค่ 3% เท่านั้น
- คิดถึงเรื่องเวลาหรือ time value ด้วย นั่นคือ กำไรเยอะในเวลาสั้น สัดส่วนยิ่งน้อยยิ่งดี เช่น กำไร 10% ในเวลา 3 วัน จะดีกว่า กำไร 20% ในเวลา 15 วัน อารมณ์เงินทบต้นไวไว้ก่อน อะไรประมาณนี้
เมื่อมีเป้าหมายว่าเงินต้องทบต้นไวให้มากที่สุด
วิธีการต้องหลากหลาย และต้องแม่นยำ
คือถ้าพลาดก็เสียให้น้อย ถ้าได้ต้องเอาให้ถึงเป้าอย่างน้อย 10%
Buy on dip คือวิธีที่ดีที่สุดในการสวิงเทรดแบบนี้
ใครชอบสไตล์นี้ต้องมาปูเสื่อรอกันเลยครับ
นอกจากนี้ การสวิงเทรด ควร....
- ให้ความสำคัญกับพื้นฐานน้อยกว่าเทคนิคอล คือดูกราฟเป็นหลัก ไม่ต้องเน้น super stocks ก็ได้ แต่ก็ไม่ควรเล่นหุ้นราคาต่ำประเภทต่ำบาทเพราะ gap แต่ละช่องห่างเกินลิมิต stop loss
- หุ้นเน่าไม่เล่นนะ เอาแบบที่ยังพอมีพื้นฐานอยู่ มียอดขายโตระดับกลางๆ ไม่โดดเด่น
- เลือกหุ้นที่มีผลกระทบกับราคาน้ำมัน เพราะมันโคตรแกว่ง เล่นสวิงเทรดสนุก คือถ้าน้ำมันลงมากๆ กลุ่มไหนจะได้ประโยชน์ ก็เล่นตามกระแสเงินไป (พวกค่าเงินบาทแข็ง/อ่อนก็ได้เช่นกัน)
- อีกอย่างคือ สมัยนี้ ราคาวิ่งก่อนพื้นฐานกันอยู่แล้ว
VIDEO
- เทคนิคอลที่ควรให้ความสนใจคืออะไรบ้าง?
ก็ตามความถนัดของเขาเลยครับ
๑) breakout แบบมาตรฐาน
๒) Pocket pivot และ Buyable Gap up
๓) Voodoo
๔) Undercut & Rally/Springboard
"เอาแต่ซื้อแบบ breakout ท่าเดียว ก็เป็นเหมือนสัตว์เชื่องช้าในฝูง"
โดนมากครับ เหมือนกับด่าผมตรงๆเลย มิน่าเล่าช่วงนี้เป็นเหยื่อตลอด
(สารภาพว่าคำนี้เองแหละที่ทำให้ผมตั้งใจแปลและเขียนบทความนี้ขึ้นมา)
เมื่อรู้ปัญหาต้องหาทางแก้สิ
นี่เป็นทรงที่เหมาะกับการ Breakout ตามมาตรฐาน
คือแกบอกว่า ถ้าคุณเข้าใจนิสัยของราคากับวอลุ่มนะ คุณไม่ต้องเทรดแบบ breakout ท่าเดียวก็ได้
มันยังมีอีกหลายท่าที่เสี่ยงต่ำกว่า นั่นคือ buy on dip ที่เส้นค่าเฉลี่ย
กราฟเดียวกัน ถ้ารู้จัก voodoo และซื้อที่เส้นค่าเฉลี่ย คุณก็จะเห็นโอกาสงามๆมากกว่า
จะว่าไปแล้ว ทรงนี้ก็คือ Invert head and shoulders แล้วเกิด pivot breakout ขึ้นไป
นี่ก็ pivot แบบ ข้ามการบีบตัวแคบๆ
หลักการเทรดด้วย pocket pivot คือซื้อแล้วถือไปขายเมื่อราคาหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันครับ
เอาแค่นี้พอ ถ้าได้ตัวดีๆ ก็กำไร 10% อย่างน้อยๆ ก็พอได้อยู่
Bottom-Fishing Pocket Pivots เป็นการซื้อตอนที่ราคาเปิด gap ลงแล้วดีดขึ้นไปปิดในโซนเดิม
สูตรนี้จะใช้กับหุ้นที่ตกใจจากข่าว หรือดัชนีร่วงแรง จึงเปิด gap ลง แล้วมีการดีดกลับขึ้น
Buyable Gap-Ups
หลักการพื้นฐานของมันคือ ซื้อแล้วให้ระดับ stop loss อยู่ที่ปลายไส้ล่าง ทำให้เสี่ยงต่ำ
Voodoo (VDU) หรือ Volume Dry-up
เขาบอกว่า ข้อดีของการซื้อตอน voodoo ก็คือ stop loss แคบ เพราะราคาลงไปไกล้เส้นค่าเฉลี่ย ก็ให้เส้นนั้นเป็นระดับตัดขาดทุนไป หากรับไม่อยู่ก็หนี
Undercut & Rally หรือเขย่า ให้คัทแล้วเด้ง
หรือ Wyckoff's Spring หรือ Livermore's Shakeout-Plus-3 ก็แล้วแต่จะเรียก
นี่คือทรงพื้นฐานของท่านี้ครับ
๑) เขย่าให้หลุดแนวรับด้วยวอลุ่มออกสูง
๒) ต่อมาก็เด้งกลับไปอยู่ในกรอบ
๓) แล้วก็ย่อลงไปหยุดที่เส้นค่าเฉลี่ย (ยกโลว์) วอลุ่มแห้ง (ซื้อตอนนี้)
ก็มีเท่านี้แหละครับ ท่าไม้ตายของแก
แต่ผมอยากเสริมอีกเล็กน้อย
คือ เขาไม่ได้เอาเคสที่ล้มเหลวมาให้ดู ว่าถ้าพลาดมาจะต้องทำยังไง
ซึ่งท่านต้องเอาไปคิดต่อเองว่าทำยังไงให้ไม่ไปรับมีดหุ้นที่ย่อวอลุ่มหายนะ
แต่เดี๋ยวผมจะขอไปลองทดสอบดู ถ้าได้ความยังไง จะเอามาบอกต่อกันอีกทีก็แล้วกัน
(เสริมเรื่อง
Shakeout Plus 3)
Jesse Livermore ค้นพบ pattern นี้ Shakeout + 3 ทำทรง double bottom เป็นจุดเข้าซื้อที่ได้ราคาดีกว่าค่าเฉลี่ย เพราะเทรดเดอร์ทุกคนก็หวังว่าจะได้เปรียบในทุกการซื้อ-ขาย
จากรูปตัวอย่าง กราฟทำ double bottom โดยจุดซื้อคือตอนที่ราคาขึ้นไปได้ 3 จุดเหนือโลว์แรกพร้อมกับวอลุ่มมากกว่าค่าเฉลี่ย(ยิ่งมากยิ่งดี)
ว่าตามหลักจิตวิทยาคือ สถาบันหรือคนคุมราคาต้องการเขย่าสลัดเม่าออก โดยการทดสอบดีมานด์(ความต้องการซื้อ)หุ้น จากนั้นก็จะเป็นช่วงสะสมหุ้นราคาถูกๆของสถาบันหรือคนคุมราคากลุ่มเดียวกัน
จำไว้ว่า นี่เป็นจุดเข้าซื้อที่ได้เปรียบ แล้วความเสี่ยงจะถูกปรับตาม โดยให้ซื้อด้วยเงินน้อยๆก่อน และเพิ่มเมื่อมีวอลุ่มมากขึ้นเพราะมีความต้องการซื้อจริงๆ
Wyckoff Spring
อ่านเสริมเรื่อง
Bottom Fishing : การซื้อหุ้นกลับตัวจากขาลง
นอกจากนี้ แกยังมีหนังสือแนะนำ ชื่อ A Complete Guide To Volume Price Analysis โดย Anna Coulling
หน้าตาแบบนี้ครับ
ซึ่งผมเคยเอาบางส่วนมาให้อ่านแล้วในบท
Distribution Zone + Selling Climax กลับตัว-จบรอบ!!
ก็ยังมีอีกบางส่วนที่แปลเก็บไว้นะ เดี๋ยวจังหวะดีๆจะเอามาให้อ่านต่อไป
ปิดท้ายด้วยโฆษณาหนังสือครับ
ถ้าใครดูคลิป อ่านที่ผมลงรายละเอียดไม่เข้าใจนะ
แนะนำหนังสือเล่มเขียวของผมครับ "หุ้นซิ่ง สวิงเทรด" มีแทบทุกอย่างที่พี่ Gil Morales บอกไว้ และที่สำคัญคือ มีเคสหุ้นไทยบานเบอะ มากที่สุดในประวัติศาสตร์หนังสือหุ้นบ้านเราเลยก็ว่าได้
ตอนนี้ก็ยังมีขายที่เพจ Zyo Books นะครับ
(แนะนำ)
หากต้องการศึกษาวิธีเล่นหุ้น แนะนำให้ไปอ่านบทความฟรี คลิปฟรีที่นี่ก่อนก็ได้
คลิกลิ้งนี้ครับ
https://www.zyo71.com/p/index.html เป็นสารบัญเว็บนี้ครับ