คุณต้องเรียนรู้วิธีการเป็นผู้จัดการความเสี่ยงที่ยอดเยี่ยม

Image
พี่มาร์ค มิเนอร์วินี กล่าวว่า “หากคุณต้องการสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างสม่ำเสมอ คุณต้องเรียนรู้วิธีการเป็นผู้จัดการความเสี่ยงที่ยอดเยี่ยม” การเป็นนักเทรดที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีอย่างสม่ำเสมอไม่ได้หมายถึงการชนะทุกครั้งที่คุณเข้าเทรด แต่หมายถึงการมีวิธีการจัดการความเสี่ยงอย่างชาญฉลาดเพื่อให้คุณสามารถปกป้องทุนของคุณและเพิ่มโอกาสในการเติบโตของพอร์ตการลงทุนในระยะยาว  นี่คือการขยายความแนวคิดที่ว่า "การเป็นผู้จัดการความเสี่ยงที่ยอดเยี่ยม" สำคัญอย่างไร: eBook "Risk Management: การบริหารจัดการความเสี่ยงเบื้องต้นสำหรับนักเทรด" มีจำหน่ายที่แอพ Meb เท่านั้น  https://t.co/YaO0CIQq8J 1. ความเสี่ยงเป็นส่วนหนึ่งของการเทรด ในตลาดการเงิน ไม่มีใครสามารถควบคุมผลลัพธ์ของแต่ละการเทรดได้ การเคลื่อนไหวของตลาดขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอก เช่น ข่าวเศรษฐกิจ หรือพฤติกรรมของผู้เล่นในตลาด ซึ่งมักเป็นสิ่งที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ความสำเร็จจึงไม่ได้มาจากการ "เดาถูก" แต่เป็นการรู้วิธีจัดการความเสี่ยงเมื่อคุณ "เดาผิด" ตัวอย่าง:   สมมติว่าคุณมีเงินทุน 100,000 บาท หากคุณใช้เงินทั้งหมดในการเ

สรุปหนังสือ ล้มไปข้างหน้า - Failing Forward



หนังสือ ล้มไปข้างหน้า  หรือ Failing Forward เป็นงานของ John C. Maxwell ที่ผมชอบมากครับ
สารภาพว่าผมฟังจาก audiobook มาก่อน แล้วค่อยไปหาสรุปจากฝรั่งมาแปลให้อ่านกัน
เดี๋ยวจะมีลิ้งค์อ้างอิงข้างล่างนะ

เล่มนี้ผู้เขียนเริ่มต้นชี้ประเด็นที่น่าประหลาดใจให้เรารู้ว่า ผู้ประสบความสำเร็จเกือบทุกคนที่พวกเรารู้จัก ล้วนแต่เคยประสบกับความล้มเหลวอย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต

เพราะความล้มเหลวไม่ได้อยู่ฝั่งตรงข้ามกับความสำเร็จ แต่มันเป็นส่วนผสมที่ขาดไม่ได้ หรือพูดได้อีกอย่างว่า คนที่ประสบความสำเร็จสูงสุดได้ก็เพราะพวกเขาล้มเหลวมากกว่าและล้มได้ดีกว่าคนทั่วไป

"คนชั้นเซียนล้มเหลวมากครั้งกว่ามือสมัครเล่นเคยล้มหลายเท่านัก"

ในอเมริกา มีข้อมูลที่ว่า ผู้ประกอบการจะต้องล้มเหลว 3.8 ครั้ง ก่อนที่จะประสบความสำเร็จ

และความล้มเหลวในบางครั้งมันอาจจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของพวกเขาด้วยซ้ำไป

แม้แต่อัจฉริยะ ยังไม่สามารถเลี่ยงความผิดพลาดได้เลย แต่รู้มั้ยว่าความผิดพลาดที่เขาเจอกลายเป็นโอกาสใหม่ที่สวยงาม

เจมส์ จอยส์ กล่าวไว้ว่า "อัจฉริยะไม่เคยทำอะไรผิดพลาด" เพราะว่า "เขาจะแปรความผิดพลาดให้เป็นโอกาสในการค้นพบสิ่งใหม่"

ดังนั้นความล้มเหลว ไม่ใช่ความผิดพลาดของคุณหรอก มันเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จ แค่คุณยอมรับผิดชอบต่อมัน


หัวใจของการล้มไปข้างหน้า
๑) การล้มเหลวคือประตูสู่การค้นพบใหม่
๒) ต้องเรียนรู้จากความล้มเหลว
๓) ยอมรับว่าคุณล้มเหลว

๑) การล้มเหลวคือประตูสู่การค้นพบใหม่
สิ่งที่คุณควรทำ คือเปลี่ยนนิยามของความล้มเหลวเสียใหม่
ทำไม?
เพราะถ้าคุณอยากความสำเร็จมากๆ ความล้มเหลวระหว่างทางต้องเกิดขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ เหมือนเด็กทารก กว่าจะเดินได้มั่นคง ต้องล้มมานับไม่ถ้วน

ผู้ประกอบการกว่าจะประสบความสำเร็จ ต้องล้มเหลวโดยเฉลี่ย 3.8 ครั้ง แล้วคุณเป็นยอดมนุษย์หรือไงไม่ทราบ ถึงจะทำอะไรไม่พลาดเลย


๒) ต้องเรียนรู้จากความล้มเหลว
บทเรียนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของมนุษย์เราก็คือ ไม่เคยคิดจะเรียนรู้จากความผิดพลาดเลย ไม่ว่าจะเป็นของคนอื่นและตนเอง

๓) ยอมรับว่าคุณล้มเหลว
"ไม่ใช่ปัญหาเลยที่เคยลอง แล้วล้มเหลว ก็แค่ลองใหม่ ล้มเหลวใหม่ แล้วล้มเหลวให้ดีกว่าเดิม"

คุณล้มเหลวไปแล้ว ใช่คุณล้มเหลวไปจริงๆ ต่อไปคุณจะเป็นที่ยอดเยี่ยมได้ ถ้าหากกล้าล้มเหลวในสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าแล้วเรียนรู้จากมัน ทำให้คนรอบข้างสงสัยว่าทำไมคุณยังยิ้มได้แม้ล้มเหลว


๗ เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับความล้มเหลว
๑) เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงความล้มเหลวได้ ไม่ช้าก็เร็วต้องเจอกันทุกคน
๒) ความล้มเหลวไม่ใช่เหตุการณ์ แต่เป็นกระบวนการ
การเลี่ยงกระบวนการที่นำไปสู่เหตุการณ์ คุณก็จะไม่มีทางไปสู่ความสำเร็จได้
ความสำเร็จไม่ใช่่จุดหมายปลายทาง แต่เป็นการเดินทางที่คุณต้องทำทุกวัน
แน่นอนว่า ทั้งความสำเร็จและความล้มเหลว ก็ล้วนเป็นกระบวนการ
๓) ความล้มเหลวไม่ใช่กรรม คุณเลือกที่จะมองมันได้ทั้งแง่ดีและแง่ลบ คุณเลือกได้
๔) ความล้มเหลวไม่ใช่ศัตรู กว่าจะประสบความสำเร็จคุณต้องผ่านความยากลำบาก ดังนั้นความล้มเหลวคือปุ๋ยชั้นดีของการประสบความสำเร็จ
๕) เราไม่สามารถย้อนกลับไปเปลี่ยนแปลงความล้มเหลวได้
๖) ความล้มเหลวไม่ใช่ความอัปยศ มันไม่ใช่ตราบาป คุณต้องให้ทุกความล้มเหลวเป็นบันไดไปสู่ความสำเร็จ
๗) ความล้มเหลวไม่ใช่จุดจบ มันเป็นเพียงค่าเทอม ค่าปรับ เป็นราคาที่เราต้องจ่ายเพื่อให้บรรลุถึงความสำเร็จ และถ้าหากเราเรียนรู้ที่จะยอมรับนิยามใหม่ของความล้มเหลวได้ ก็สามารถก้าวไปข้างหน้าได้ง่ายขึ้น เพราะความล้มเหลวเป็นราคาที่เราต้องจ่ายเพื่อไปสู่ความสำเร็จ

(เสริม คนทั่วไปคิดไปเองว่าความล้มเหลวคือกำแพง ข้ามไม่ได้ เป็นทางตัน แต่คนที่ประสบความสำเร็จมองว่าความล้มเหลวเป็นเหมือนบันไดที่ต้องข้ามให้ได้เพื่อยกระดับตัวเองให้สูงขึ้นได้อีก)





นี่คือ ๓ แนวทางที่ผู้คนตอบสนองต่อความกลัวล้มเหลว
๑)  ไม่ลงมือทำอะไรสักอย่าง - เพราะกลัวทำแล้วพลาด
๒) ผัดวันประกันพรุ่ง - ทำให้เสียเวลา และไม่เกิดผลผลิต
๓) ไร้จุดมุ่งหมาย -เลี่ยงความเจ็บปวดที่เกิดจากความผิดพลาด - ไม่ลงมือทำอะไรสักอย่าง

เราไม่สามารถเลี่ยงความกลัวได้ จงกล้าเผชิญหน้าเพื่อเอาชนะมัน
คุณต้องลงมือทำแม้จะรู้สึกกลัว คุณต้องรู้ว่าสิ่งที่ทำอาจผิดพลาด แต่ยิ่งลงมือเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งชนะความกลัวได้ไวเท่านั้น
ประสบการณ์ทำให้เกิดความสามารถในการต่อสู้ ทุกๆกระบวนการเริ่มต้นจากการลงมือทำ ถ้าคุณอยากเอาชนะความล้มเหลว ก็ต้องลงมือทำให้ไวเพื่อลดความกลัว


เปลี่ยนการตอบสนองต่อความล้มเหลวของคุณโดยยอมรับผิดชอบ
ปฏิกิริยาของผู้คนต่อความล้มเหลว
๑) โกรธ - แสดงความไม่พอใจผู้อื่น
๒) ปกปิดข้อผิดพลาด
๓) เร่งรีบ - พยายามทิ้งปัญหาไว้ข้างหลังด้วยการทำงานหนักขึ้นและเร็วขึ้น แต่ยังย่ำอยู่กับที่เหมือนเดิม
๔) หาความสนับสนุน โกหกก่อนแล้วหาคนสนับสนุนเพื่อปกปิด เพื่อให้ความผิดนั้นยอมรับได้
๕) ยอมแพ้

ทุกความล้มเหลวเป็นโอกาสที่แก้ไขให้ถูกต้องและเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง  ซึ่งคุณจำเป็นต้องแสดงความรับผิดชอบอย่างเต็มที่และยอมรับข้อผิดพลาด มันต้องใช้ความกล้ามากกว่าปกติ - เราต้องการผู้นำเริ่มลงมือและรับผิดชอบต่อการกระทำของเรา


อย่าปล่อยให้ความล้มเหลวของคนอื่นเข้ามาสร้างความหวั่นไหวในใจคุณ
ไม่ว่าอะไรก็ตามเกิดขึ้นกับคุณก็ตาม ความล้มเหลวเป็นเรื่องของการรับรู้ภายใน เราไม่สามารถควบคุมสิ่งที่อยู่นอกเหนืออำนาจเราได้เรา แต่เราสามารถควบคุมวิธีที่เรามองมันได้

เริ่มต้นด้วยการปลูกฝังทัศนคติที่ถูกต้อง กฎของพฤติกรรมมนุษย์บอกไว้ว่า - ไม่ช้าก็เร็วเราก็จะได้เป็นอย่างที่เราคาดหวังไว้ - ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแง่ดีหรือแง่ร้ายก็ตาม - สิ่งที่คุณจะได้รับในที่สุดนั้นจะสะท้อนถึงทัศนคติลึกๆในใจของคุณ

มาร์ติน เซลิกแมน สังเกตว่าคนที่ล้มเหลวแล้วกลับมายิ่งใหญ่ได้ ล้วนเป็นคนมองโลกในแง่ดี ไม่ว่าคุณจะต้องเจอสิ่งที่เลวร้ายแค่ไหน แต่คุณสามารถฝึกฝนการมองโลกในแง่ดีด้วยการเรียนรู้มัน

บอกลาอดีตที่ขื่นขม - คุณให้อดีตเป็นตัวกำหนดอนาคตของคุณอยู่หรือไม่?
ความสามารถในการทิ้งสิ่งต่าง ๆ ไว้ข้างหลังและเดินหน้าต่อไป เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับความสำเร็จ ความผิดพลาดต้องไม่ใช่สาเหตุในการหยุดคุณให้ไม่กล้าทำอะไรอีก ไม่ว่าอดีตของคุณจะมืดแค่ไหนก็ไม่จำเป็นต้องกำหนดอนาคตของคุณได้
เราจำเป็นต้องพบกับความล้มเหลวเพื่อให้ก้าวหน้า

สัญญาณของการเป็นทาสอดีต:
1. เปรียบเทียบปัจจุบันกับอดีต
2. หาเหตุผลเข้าข้างตนเอง - ข้อแก้ตัวไม่เคยนำไปสู่ความสำเร็จ
3. แยกตัว - ถอนตัว
4. เสียใจ - มันดูดพลังของคุณ
5. ความขมขื่น - หลีกเลี่ยงที่จะไม่บาดเจ็บแบบเก่า

ความเจ็บปวดในอดีตสามารถทำให้ปัจจุบันของคุณขมขื่นหรือดีกว่าเดิม ขึ้นอยู่กับทัศนคติของคุณ

เริ่มต้นด้วยการยอมรับความเจ็บปวดนั้น
แล้วให้อภัยผู้อื่นหรือตัวคุณเอง(ถ้าต้องการ)


เปลี่ยนตัวเองก่อนแล้วโลกของคุณเปลี่ยนตาม
หากคุณยังคงเผชิญกับอุปสรรค - ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้เป็นตัวปัญหา

ทำไมคนเราถึงลังเลที่จะเปลี่ยนแปลง?
เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าจุดแข็งของตนเองคืออะไร

เพื่อให้เข้าถึงศักยภาพของคุณ ต้องรู้ว่าคุณเป็นใครกันแน่
๑) มองตัวเองอย่างเป็นกลาง - ต้องเห็นทั้งดีและไม่ดี
๒) ยอมรับข้อบกพร่องของคุณอย่างถูกต้อง - ยอมรับในสิ่งที่คุณสามารถทำได้หรือไม่ควรทำ
๓) ใช้งานจุดแข็งของคุณ - เพื่อทำสิ่งที่คุณทำได้ดี
๔) เสริมสร้างจุดแข็งของคุณด้วยความรัก

การไม่ยอมทำตามสิ่งที่คุณต้องการนั้นเป็นปัญหาของแรงจูงใจ
การไม่ประสบความสำเร็จเกิดจากขาดความหมั่นเพียร


หากคุณต้องการเอาชนะความล้มเหลว คุณต้องเอาชนะตัวเอง จากนั้นจึงเริ่มต้นคิดถึงคนอื่น
- วิธีเพิ่มมูลค่าให้กับผู้อื่น:
1. ทำการบ้านเกี่ยวกับคนที่คุณจะไปพบ ก่อนเจอกัน
2. หาให้ได้ว่าเขาต้องการอะไร - อะไรที่เขาให้ความสำคัญ - พวกเขาใช้เวลาและเงินอย่างไร อะไรคือสิ่งที่พวกเขาเห็นคุณค่า
3. ตอบสนองความต้องการของผู้อื่นด้วยสิ่งที่ดีที่สุด เสนอให้ด้วยความเอื้ออาทร โดยไม่คำนึงว่าณจะได้ผลตอบแทนหรือไม่ การให้คือการใช้ชีวิตระดับสูงสุด


ค้นหาประโยชน์ในทุกประสบการณ์ที่ไม่ดี
วิธีเดียวที่คุณสามารถก้าวไปข้างหน้าได้ดีคือล้มเหลวตั้งแต่เนิ่นๆ
ล้มเหลวให้บ่อยและล้มเหลวให้ดีขึ้น

ทุกความฝันของผู้คน ล้วนมาจากการให้ความสนใจและกระบวนการ
กระบวนการของความสำเร็จ เกิดจากความล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำอีก
หากอยากประสบความสำเร็จก็ต้องยอมรับให้ได้ว่าระหว่างทางคุณต้องเจอความทุกข์ยาก

ประโยชน์ของความทุกข์ยากมีมากมาย:
1. ความทุกข์ยากสร้างความยืดหยุ่นแก่คุณ(ปรับตัวได้ง่าย ยอมรับอะไรได้ง่ายกว่าคนทั่วไป)
2. ความทุกข์ยากจะพัฒนาความเป็นผู้ใหญ่ - ความเป็นผู้ใหญ่ที่มีความยืดหยุ่นนั้นมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ คุณสมบัติเหล่านั้นมาจากการเผชิญหน้าความทุกข์ยาก ปัญหาที่เราเผชิญและเอาชนะคือหัวใจของการเตรียมรับมือกับปัญหาในอนาคต
3. ความทุกข์ยากผลักดันให้เกิดประสิทธิภาพการทำงานในอนาคต การล้มเหลวแต่ละครั้งทำให้คุณรับความเสี่ยงได้มากขึ้น
4. ความทุกข์ยากให้โอกาสที่ดีกว่า
5. ความทุกข์ยากทำให้เกิดนวัตกรรม
6. ความทุกข์ยากนำมาซึ่งผลประโยชน์ที่ไม่คาดคิด เช่นเอดิสันค้นพบแผ่นเสียง
7. แรงบันดาลใจจากความทุกข์ยาก มีประโยชน์ในเชิงบวกที่แฝงอยู่ในประสบการณ์เชิงลบเกือบทุกครั้ง - เพียงแค่คุณต้องมองหามัน


อ้าแขนรับความเสี่ยง
ความเสี่ยงเป็นจุดเริ่มให้มีการค้นพบสิ่งใหม่ คุณไม่สามารถทำอะไรได้สำเร็จถ้าลงมือทำและเสี่ยง

คุณจะตัดสินได้อย่างไรว่ากิจกรรมบางอย่างคุ้มต่อการเสี่ยง?
คุณต้องไม่ประเมินความเสี่ยงจากกลัวที่สร้างขึ้นหรือจากความน่าจะเป็นประสบความสำเร็จ แต่ต้องมาจากคุณค่าของเป้าหมาย

ถ้าคุณทำสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรก - ให้ลองทำอะไรที่ยากขึ้น ตัดสินใจว่าเป้าหมายมีค่าควรเสี่ยง - ทุกอย่างในชีวิตมีความเสี่ยง ไม่มีอะไรที่ปลอดภัยเลย
การหลีกเลี่ยงอันตราย ไม่ยอมทำนั้นกลับไม่ปลอดภัยยิ่งกว่า
ยิ่งเสี่ยง ก็ยิ่งมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้น

๖ กับดักที่ผู้คนส่วนใหญ่เจอ
๑)  กับดักความลำบากใจ
๒) กับดักหาเหตุผลเข้าข้างตนเอง - ชอบสงสัยในทุกสิ่งที่ทำลงไป และตัดสินใจว่ามันไม่สำคัญ
๓) กับดักความคาดหวังที่ไม่สมจริง - เพราะความสำเร็จนั้นต้องทำงานหนัก
๔) กับดักความยุติธรรม - ชีวิตนี้ไม่มีความยุติธรรมหรอก นี่เป็นข้อเท็จจริง
๕) กับดักจังหวะ(รอให้ถึงเวลาค่อยทำ) - ไม่มีเวลาสมบูรณ์แบบที่จะทำอะไร - อย่ารอให้ทุกอย่างพร้อม เพราะมันจะไม่เกิดขึ้น
๖) กับดักแรงบันดาลใจ - คุณไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ต้องทำให้สมบูรณ์แบบตั้งแต่เริ่มต้น

ถ้าคุณทำอะไรก็ประสบความสำเร็จ แสดงว่าคุณไม่ได้เสี่ยงอะไรเลย


จัดการกับความอ่อนแอที่ทำให้คุณปวกเปียก
เหตุผล ๑๐ ประการ ทำให้คนล้มเหลว
หลายคนมีจุดบอด แต่ที่ไม่สามารถแก้ไขได้เพราะไม่รู้ว่ามี
ให้ลองมองหาปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยในชีวิตของคุณ ดังต่อไปนี้
๑) ขาดทักษะเกี่ยวกับการสื่อสารกับคน นี่คือเหตุผลหลักที่ทำให้ผู้นำล้มเหลว ทักษะนี้จะพาคุณไปไกลกว่าทักษะอื่น ๆ ที่คุณสามารถพัฒนาได้
๒) ทัศนคติเชิงลบ หากสถานการณ์ทำให้คุณผิดหวัง อาจเกิดจากทัศนคติของคุณ
๓) จังหวะไม่ดี บางครั้งสถานการณ์ก็มีขั้นมีตอนของมัน อย่าใจร้อน
๔) ขาดสมาธิ - การจัดลำดับความสำคัญไม่เพียงพอ อาจมาจากการใช้ทรัพยากรที่ไม่ดี
๕) คำมั่นสัญญาที่ไม่จริงจัง - คุณไม่สามารถทำสิ่งที่มีค่าได้โดยปราศจากความมุ่งมั่น
๖) ความไม่เต็มใจที่จะเปลี่ยนแปลง - ความยืดหยุ่น บางคนหลงรัก
อดีตที่พวกเขาไม่อยากเปลี่ยนแปลง หากคุณต่อต้านการเปลี่ยนแปลงคุณก็จะต่อต้านความสำเร็จไปทันที
๗)  ชอบหาทางลัด ชัยชนะเป็นของคนที่ขยันขันแข็งที่สุด การหาทางลัดเป็นทัศนคติของคนใจร้อนและความมีวินัยในตนเองต่ำ
๘). พึ่งพาความสามารถเพียงอย่างเดียว จงทำงานหนักเพื่อปรับปรุงให้ตัวเองเก่งขึ้น
๙) ลงมือทำทั้งๆที่ข้อมูลน้อยมาก
๑๐) ไม่มีเป้าหมายใด ๆ หลายคนไม่อนุญาตให้ตัวเองทำตามฝัน คุณต้องการหาจุดประสงค์ของตัวเองให้เจอ


ทำความเข้าใจว่าระหว่างความล้มเหลวและความสำเร็จนั้นต่างกันนิดเดียว
แต่ความแตกต่างเล็กๆ  ระหว่างความล้มเหลวและความสำเร็จทำให้เกิดความต่างที่ยิ่งใหญ่
ข้คุณภาพที่สร้างความแตกต่างคือ "ความอึด ไม่ย่อท้อ" เพราะไม่มีการบรรลุคุณค่าอะไรที่ได้อย่างง่ายดาย - จงฝึกฝนความมุ่งมั่น กัดไม่ปล่อยและความเพียร

คุณต้องการกลยุทธ์
แผน ๔ ข้อนี้สำหรับการบรรลุผลสำเร็จ:
๑) ค้นหาเจตจำนง - คือเชื้อเพลิงที่ช่วยให้คุณพากเพียร ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ
ใช้หลักการดังนี้
a) มีคนที่คุณอยากเป็นอย่างเขามั้ย?
b) สิ่งที่คุณต้องการหนี (ความไม่พอใจกับสภาพที่เป็นอยู่)
c) เป้าหมายที่อยากได้
d) ต้องการนำทรัพย์สินของคุณไปสู่เป้าหมายนั้น
e) เห็นภาพตัวเองเพลิดเพลินกับรางวัลของเป้าหมายนั้น

๒)  กำจัดข้อแก้ตัวทั้งหมด ต้องเดินหน้าต่อไป ทำให้เสร็จสมบูรณ์ ด้วยความรับผิดชอบ
๓)  พัฒนาสิ่งจูงใจ เพราะความพากเพียรมักจะมีช่วงเวลาสั้นๆ ต้องหาตัวกระตุ้นอยู่ตลอด
๔)  ปลูกฝังความตั้งใจ เพื่อพัฒนาความพากเพียรอย่างใดอย่างหนึ่ง คุณจะต้องพัฒนาความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่อง


ล้ม-ลุกขึ้น-เอาชนะมันแล้วก้าวต่อไป
คิดเอาไว้ก่อนว่าคุณจะทำอะไรต่อหลังจากที่ล้มเหลว
๑) กำหนดจุดจบของเป้าหมาย - เป้าหมายจะกำหนดแผน, แผนจะกำหนดการลงมือทำ, การกระทำส่งให้บรรลุผล
๒) ทำตามแผน หากคุณวางแผนแล้วไม่ทำตาม คุณจะล้มเหลว
๓) หาความเสี่ยงที่จะเกิดการลงมือทำ
๔) อ้าแขนรับความผิดพลาด - ยอมรับการเรียนรู้จากความผิดพลาด
๕) ความก้าวหน้าขึ้นอยู่กับความเป็นคุณ - การยอมแพ้ทำง่ายเสมอ คุณต้องระบุอารมณ์นั้นให้ได้ เมื่อเจอก็ให้กระตุ้นตัวเองให้สู้ต่อ
๖) ประเมินความก้าวหน้าของคุณอย่างต่อเนื่อง เรียนรู้และปรับ
๗) พัฒนากลยุทธ์ใหม่เพื่อความสำเร็จ ความสำเร็จเป็นกระบวนการที่ต่อเนื่อง จะไม่มีแผนสมบูรณ์แบบ คุณจำเป็นต้องประเมินใหม่อย่างต่อเนื่องและปรับมันให้ดีกว่าเดิม


ที่มา blog.12min.com/failing-forward-summary/
executiveaccelerators.com.au/_literature_129849/Failing_Forward


แนะนำหนังสือ เกี่ยวกับความล้มเหลวในการเล่นหุ้นเล่มแรกของไทยครับ
ความรรู้หุ้น มูลค่า 1 ล้านบาท

รายละเอียดเพิ่มเติม

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

สรุปหนังสือ Trade Like a Casino