แนวการเล่นหุ้นพลิกฟื้น ด้วยการดู 3 ส่วนหลักๆ คือ
1. มี Story การทำกำไรในอนาคตที่น่าสนใจ
2. มีราคาไม่แพง โดยดูจาก PBV และ PE
3. มีพื้นฐานดี
ทั้สามส่วนนี้จะต้องสมดุลกัน คือครบทุกหัวข้อ ในการวิเคราะห์หุ้น โดยการมองอนาคตว่าจะดีกว่าเดิม
ผมขอเรียบเรียงวิธีการตามความสะดวกในการหาข้อมูลออนไลน์นะ
๑) เริ่มต้นหาหุ้นราคาถูกก่อน
แบบไหนถึงเรียกว่าถูก?
ให้ดู PBV ต้องต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม หากอยู่ประมาณ 1 หรือต่ำกว่า 1 ได้ยิ่งดี ถือว่าราคาถูกมาก
หุ้นพลิกฟื้น เป็นช่วงของการเริ่มชีวิตใหม่ จากการขาดทุนสะสมเป็นเวลานาน กิจการถือว่าอยู่ในอาการเจ็บหนัก PE จึงไม่สามารถเมามาคำนวนได้ เราจึงใช้มูลค่าทางบัญชีมาเป็นตัวกำหนดราคาหุ้นที่เหมาะสม
(วิธีการหาหุ้นที่ PBV แบบง่ายๆ ก็ไปที่เว็บ siamchart ไปคลิกที่แถบ P/BV ระบบก็จะเรียงให้จากมากไปน้อย หรือจากน้อยไปมาก ตามที่เราต้องการ)
๒) จากนั้นเป็นการเช็คพื้นฐาน
เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมว่า บริษัทเหล่านั้นทำอะไร
ให้ไปที่เว็บ
www.set.or.th/set/factsheet ใส่ชื่อย่อหุ้นลงไปก็จะเห็นรายละเอียดโดยย่อของบริษัทที่เราสนใจ ว่ามันทำกิจการอะไรบ้าง
แล้วกิจการแบบไหนน่าสนใจล่ะ?
อยากให้เน้นธุรกิจที่คุณเข้าใจมันดีก่อน ถ้าคลุกคลีกับมันได้ ยิ่งดี เพราะคุณจะมีความมั่นใจและเห็นแนวโน้มมันดี เรียกว่าอยู่ในความจริง ไม่มโน
ผมเห็นคนที่ซื้อหุ้นเหล็กทั้งที่ไม่รู้ว่ามันมีแนวโน้มเป็นยังไง จะฟื้นได้เมื่อไหร่ อะไรเป็นจุดเปลี่ยน บริษัทจะกำไรยังไง คิดว่าราคาน่าจะต่ำสุดแล้ว ก็เข้าไปซื้อ ที่ไหนได้ ราคายังถูกได้อีก สุดท้ายติดดอยสูงลิ่ว
ดังนั้น ถ้ารู้ไม่จริง อย่าเล่นเลยดีกว่า เพราะหุ้นวัฎจักรเวลามันลง มันลงเอาตาย จนคุณเข็ดขยาด จนถึงกับออกจากตลาดได้เลย
ในหนังสือเขาบอกให้ดูกิจการใหม่ที่จะไปทำเป็นแบบผูกขาด เช่นโรงไฟฟ้า โรงพยาบาล หรือกิจการที่จะเป็นเทรนด์ในอนาคต ที่เรียกว่า Mega trend เช่น เกี่ยวกับออนไลน์ สุขภาพยารักษาโรค ผู้สูงอายุ สังคมเมือง mega project ค้าปลีก เกี่ยวข้องกับรากหญ้า การให้บริการ ความงาม ฯลฯ
ทั้งนี้ ไม่ใช่ทุกตัวจะประสบความสำเร็จ ขึ้นอยู่ว่าคุณไกล้ชิดติดตามกิจการต่อเนื่องและลึกซึ้งแค่ไหน ถ้าประเมินมูลค่าหุ้นได้ มองอนาคตออก และมีประสบการณ์ มันจะช่วยคุณให้ลดความผิดพลาดได้เยอะ
๓) ดูสตอรี่
Story ที่น่าสนใจเป็นยังไง?
ต้องมีโครงการขยายการลงทุนอยู่ในมือ มีโครงการต่อเนื่องอีกหลายโครงการในอนาคต ควรเป็นธุรกิจที่ลงทุนครั้งเดียวแล้วสามารถนอนกินต่อเนื่องไปได้หลายๆปี ผู้บริหารออกข่าวว่าจะมีกำไรเพิ่มในอนาคต ถ้าเขามาออก oppday ด้วยจะยิ่งดีใหญ่ เพราะเราจะได้เห็นโหงวเฮ้ง วิธีการสื่อสารของผู้บริหาร ว่าน่าเชื่อถือแค่ไหน
ความน่าเชื่อถือของผู้บริหาร คือหนึ่งในหัวใจสำคัญของการก้าวหน้าของกิจการ ทุกวันเราจะเห็นข่าวของบริษัทในตลาดหุ้นออกแทบทุกชั่วโมง การกรองข่าวที่มีศักยภาพจึงจำเป็นมาก
ตัวอย่างสตอรี่น่าสนใจ ที่จะมาผลักดันราคาหุ้นให้วิ่งขึ้นสูงในอนาคต
- มีกำไรจากกิจการอืนที่ร่วมลงทุนไว้ในอนาคตอันไกล้ (๖ เดือน - ๑ ปี)
- มีกำไรเติบโตในอนาคตอย่างเห็นได้ชัดจากการผลิตที่มากขึ้น
- ปรับปรุงการบริหารภายในเพื่อจ่ายปันผลได้ในอนาคตเมื่อกิจการมีกำไร เช่นนำส่วนเกินมูลค่าหุ้นมาล้างขาดทุนสะสม ลดทุนล้างขาดทุนสะสม
- ราคาถูก เช่น PE ต่ากว่า ๑๐ เท่า และในอนาคตจะมีกำไรจากกิจการอย่างมาก เช่นมากกว่าปีที่ผ่านมา และต่อเนื่อง หรืออาจจะมี PE สูงๆเนื่องจากกิจการขาดทุน แต่จะฟื้นตัวเร็วๆนี้
- ปรับปรุงการบริหารายในให้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ขยายการลงทุนกับกิจการใหม่
- ในอนาคตอันไกล้จะมีกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเนื่องจากประหยัดต้นทุนได้มากขึ้น
- มีปัจจัยภายนอกสนับสนุน เช่นราคาโภคภัณฑ์จะมีราคาสูงขึ้นอย่างมากจากความต้องการที่มากขึ้น
- เกิดเหตุการณ์ผิดปกติที่จำเป็นต้องใช้สินค้าเพิ่มขึ้นอย่างมาก เช่นน้ำท่วม ไฟไหม้โรงงานคู่แข่ง ฯลฯ
- รับงานเพิ่มขึ้นจากจำนวนลูกค้าที่มากขึ้น ทำให้ยอดขายโตขึ้นแบบก้าวกระโดด
จุดเข้าซื้อที่ถูกต้อง
สำคัญมาก เพราะคนส่วนใหญ่ชอบซื้อตั้งแต่ได้หุ้นเลย เรียกว่ามั่นใจมากมีเท่าไรไล่ซื้อไม่อั้น ต่อมาราคาดันลงต่อ แทนที่จะได้หุ้นวิ่งทำกำไรให้ทันทีกลับต้องนั่งรอให้มันกลับตัว เสียอารมณ์แทนที่จะได้ของถูกกว่าเดิมกำไรเพิ่มขึ้น ดังนั้นการที่เรามีความรู้ทางเทคนิคอลจะช่วยเราได้เยอะ
ผมแนะนำให้รอให้ปราฟเกิดgolden cross ก่อนค่อยเข้าก็ได้ คือซื้อแพงไปหน่อยแต่มันไปต่อกำไรทันที ดีกว่าเสียสุขภาพจิต ที่ว่าแบบนี้เพราะผมมองว่า ราคาหุ้นคือความเห็น มันจะขึ้นก็ต่อเมื่อตลาดมีมุมมองบวกต่อหุ้นตัวนั้น ซึ่งก็คือการกลับตัวจากขาลงเป็นขาขึ้น จากประสบการณ์พบว่าถ้าหุ้นมันเป็นขาขึ้นแล้ว แม้ตลาดจะร่วงหนักแค่ไหนราคาก็ยังมีแนวโน้มวิ่งต่อ ยิ่งอนาคตจะมีกำไรแน่ๆ รายใหญ่มองบวก มันต้อวิ่ง