คุณต้องเรียนรู้วิธีการเป็นผู้จัดการความเสี่ยงที่ยอดเยี่ยม

Image
พี่มาร์ค มิเนอร์วินี กล่าวว่า “หากคุณต้องการสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างสม่ำเสมอ คุณต้องเรียนรู้วิธีการเป็นผู้จัดการความเสี่ยงที่ยอดเยี่ยม” การเป็นนักเทรดที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีอย่างสม่ำเสมอไม่ได้หมายถึงการชนะทุกครั้งที่คุณเข้าเทรด แต่หมายถึงการมีวิธีการจัดการความเสี่ยงอย่างชาญฉลาดเพื่อให้คุณสามารถปกป้องทุนของคุณและเพิ่มโอกาสในการเติบโตของพอร์ตการลงทุนในระยะยาว  นี่คือการขยายความแนวคิดที่ว่า "การเป็นผู้จัดการความเสี่ยงที่ยอดเยี่ยม" สำคัญอย่างไร: eBook "Risk Management: การบริหารจัดการความเสี่ยงเบื้องต้นสำหรับนักเทรด" มีจำหน่ายที่แอพ Meb เท่านั้น  https://t.co/YaO0CIQq8J 1. ความเสี่ยงเป็นส่วนหนึ่งของการเทรด ในตลาดการเงิน ไม่มีใครสามารถควบคุมผลลัพธ์ของแต่ละการเทรดได้ การเคลื่อนไหวของตลาดขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอก เช่น ข่าวเศรษฐกิจ หรือพฤติกรรมของผู้เล่นในตลาด ซึ่งมักเป็นสิ่งที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ความสำเร็จจึงไม่ได้มาจากการ "เดาถูก" แต่เป็นการรู้วิธีจัดการความเสี่ยงเมื่อคุณ "เดาผิด" ตัวอย่าง:   สมมติว่าคุณมีเงินทุน 100,000 บาท หากคุณใช้เงินทั้งหมดในการเ

รีวิวหนังสือหุ้น "เทคนิคอล อนาไลซิส" Technical Analysis of the Financial Markets


พอดีผมได้รับหนังสือหุ้น "เทคนิคอล อนาไลซิส" Technical Analysis of the Financial Markets
เป็นอภินันทนาการจากสำนักพิมพ์ NSIX น่ะครับ
ก็ขอขอบคุณความกรุณาจาก คุณเอกสิทธ์ และคุณมุก มา ณ ที่นี้ด้วยครับ
ใครสนใจหนังสือเล่มนี้ ก็หาซื้อได้ที่ร้านซีเอ็ด นายอินทร์ รวมถึง investing.in.th ครับ

พอเห็นความหนาของเล่ม ทำให้ผมนึกถึงหนังสือรวมเนื้อหาหลักสูตรฟิสิกส์ หัวประมาณ Applied Psysics หรือ Condense Physics ตอนที่เราเรียนมัธยมปลายไม่ได้ คือมันได้ทั้งความหนา และเนื้อหาที่อัดแน่นข้นคลั่ก ต้องเอามาละลายน้ำให้เจอจางก่อน ไม่งั้นกลืนไม่ลง

ต้องคารวะหัวใจผู้แปล คือ คุณหนุ่ย แห่งเพจสต้อคไดอารี่ facebook.com/Nuistockdiary ว่าจิตท่านแข็งมากครับที่สามารถไล่แกะแปลใจความจากภาษาอังกฤษจนมาเป็นหนังสือหน้ากระดาษ 600 หน้าได้
ถ้าเป็นผมนะ, จอดตั้งแต่ 60 หน้าแรกไปแล้วครับ ท่านสุดยอดจริงๆ ขอคารวะสองจอก



ความสุดยอดที่ผมว่านี้คือ เนื้อหาในเล่มนี้มันไม่ได้เขียนโฟกัสแค่ประเด็นเดียว
มันเป็นอะไรที่พหุสูตรมาก โดยมีเนื้อหาเรียงตามบทดังนี้
บทที่ ๑) ปรัชญาของการวิเคราะห์ด้วยปัจจัยเทคนิค
บทที่ ๒) ทฤษฎีดาว
บทที่ ๓) โครงสร้างของกราฟราคา
บทที่ ๔) พื้นฐานเรื่องแนวโน้มราคา
บทที่ ๕) รูปแบบการกลับตัวที่สำคัญ
บทที่ ๖) รูปแบบการพักตัวของราคา
บทที่ ๗) โวลุ่มการซื้อขายและปริมาณสถานะคงค้าง
บทที่ ๘) กราฟระยะยาว
บทที่ ๙) เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่
บทที่ ๑๐) เครื่องมือทางเทคนิคสำหรับตลาดไม่มีแนวโน้มและทฤษฎีความเห็นต่าง
บทที่ ๑๑) กราฟราคาแบบ point and figure
บทที่ ๑๒) กราฟราคาแบบแท่งเทียนญี่ปุ่น
บทที่ ๑๓) ทฤษฎีคลื่นเอลเลียต
บทที่ ๑๔) วัฏจักรเวลา
บทที่ ๑๕) การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อการเทรดและการสร้างระบบเทรด
บทที่ ๑๖) การบริหารจัดการเงินทุนและยุทธวิธี
บทที่ ๑๗) การตรวจการเชื่อมโยงและความสัมพันธ์กันระหว่างตลาดหุ้นและตลาดฟิวเจอร์
บทที่ ๑๘) เครื่องมือทางเทคนิคสำหรับการวิเคราะห์ภาพรวมตลาด
บทที่ ๑๙) จากทฤษฎีสู่การปฏิบัติและขั้นตอนการวิเคราะห์เบื้องต้นภาคผนวก
ภาคผนวก A : เครื่องมือทางเทคนิคขั้นสูง
ภาคผนวก B : Market profile
ภาคผนวก C : ความสำคัญของการสร้างระบบเทรด
ภาคผนวก D : Continuous future and contract

มันมีถึง ๒๓ บท กันเลยทีเดียว ครับ ซึ่งมันมีตั้งแต่เรื่องเข้าใจง่ายจนถึงซับซ้อนสุดๆ แบบนี้จะไม่ให้ชื่นชมผู้แปล(และผู้พิสูจน์อักษรด้วย) ได้ยังไงครับ ท่านสุดยอดกันจริงๆ
คือถ้าไม่เป็นผู้รู้รอบด้าน และประสบการณ์คร่ำหวอดจริงๆ ไหนจะความรู้ทางด้านภาษาอังกฤษที่ยอดเยี่ยมจริง ถึงกับไปต่อไม่เป็น ออกทะเล ล้มกระดานไปง่ายๆได้เลยครับ



แล้วหนังสือเล่มนี้เหมาะกับใคร?
ก็เหมาะกับนักเทรดทุกระดับประสบการณ์นั่นแหละครับ
มือใหม่อ่านได้ (เพราะเนื้อหาเป็นภาษาไทย) แต่จะเข้าใจหรือเปล่านั้น ต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะเนื้อหาเยอะจัด ท่านอาจมีท้อแท้ถ้าตั้งใจจะอ่านแล้วจำให้หมดในรอบเดียว ซึ่งผมพนันได้เลยว่า หากท่านอ่านแบบรวดเดียวจบ ท่านจะได้ของไปน้อยมาก เพราะท่านจะงุนงง จับต้นชนปลายไม่ถูก เนื่องจากความรู้มันจะตีกัน ได้หน้าลืมหลังแน่นอน

ที่ว่าแบบนี้ใช่ว่าหนังสือเล่มนี้ไม่ดีหรอกนะครับ
แต่ท่านต้องมีกลยุทธ์ในการอ่านและใช้งานด้วย
ถ้าจะให้แนะนำจากคนที่เคยเขียนและอ่านหนังสือที่หนาระดับ 3-400 หน้ามาแล้ว ขอไกด์ให้ท่าน "แยกส่วนอ่าน" คือเอาเรื่องที่ท่านสนใจก่อน เอาที่ท่านสามารถเอาไปอ้างอิงเพื่อใช้งานเท่านั้นก่อน

ให้ท่านหาที่ตั้งหลักสักจุดให้ได้ก่อน จากนั้นจึงค่อยๆขยายขอบเขตออกไป
แบบนี้มันจะทำให้ท่านมีของติดไม้ติดมือไปมากขึ้น

สไตล์การอ่านแบบนี้ "มือระดับกลาง" เขาใช้กัน
เพราะเขาต้องการรู้เฉพาะช่วงที่อยากได้รายละเอียดเท่านั้น ที่เหลือถ้าว่างค่อยว่ากัน



เท่าที่ผมเปิดดูแล้วนะ
เล่มนี้เหมาะสำหรับการเป็น "หนังสืออ้างอิง" อย่างยิ่ง
แต่ถ้าจะเอาไปใช้จริง ท่านน่าจะต้องเอาไปเป็นส่วนหนึ่งของแผนการเทรด
นี่จากความเห็นส่วนตัวของผมนะ ต้องออกตัวไว้ก่อน
ผมเชื่อว่าการจะเทรดให้ได้กำไรนั้น ไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่อง ทุกเคล็ด
เอาให้ รู้กระจ่างแต่อย่างเดียว
ซึ่งการจะรู้ให้ลึกนั้น แค่หนังสือไม่พอ มันต้องอาศัยประสบการณ์ ซึ่งท่านต้องเสียสละเงินและเวลาของตัวเองเข้าไปแลกเท่านั้นถึงจะได้มา แค่อ่านหนังสือไม่พอ

อย่างผมชอบเรื่องของ แท่งเทียนญี่ปุ่น ก็จะเปิดซ้ำๆหลายรอบหน่อย เพราะมันมีหน้าตารูปแบบแท่งเทียนกลับตัวให้ดูเกือบ 40 แบบ ซึ่งมันใช้อ้างอิงได้

บท "รูปแบบการกลับตัวที่สำคัญ" ก็ใช้อ้างอิงได้ดีเช่นกัน
เพราะมี price pattern การสร้างฐานต่างๆที่เห็นบ่อยให้ดูกัน
ไม่ว่าจะเป็น การกลับตัวจากขาลง และพักฐานระหว่างขาขึ้น



บท "วัฏจักรคลื่นเวลา" ก็น่าสนใจ เอาไป back test เล่นๆ เวลาว่างๆ

สรุปตามความเห็นของผมนะ หนังสือหุ้น "เทคนิคอล อนาไลซิส" เป็นหนังสือหุ้นที่เหมาะสำหรับใช้เป็นเอกสารอ้างอิงครับ มันเป็นเหมือนตัวปักหมุด คั้นเอาสาระสำคัญของแต่ละประเด็นของการวิเคราะห์ทางเทคนิคมาอัดไว้ในเล่มเดียว

ส่วนการเอาไปใช้งานนั้น อ่านแค่เล่มนี้น่าจะยังไม่พอ ท่านต้องค้นเพิ่ม ลองเทรดเอง เพื่อพัฒนาระบบที่เหมาะสมกับตนต่อไปครับ คือใครที่กำลังค้นหา Holy grail สูตรลับเพื่อเอาไปทำเงินล้าน ผมว่าเล่มนี้ไม่ใช่แน่ เพราะมันเป็นความรู้พื้นฐานเท่านั้นเอง ซึ่งจริงๆแล้วแค่พื้นฐานเท่านี้ก็เพียงพอต่อการเอาไปทำเงินแล้วครับ เพียงแต่ว่าท่านต้องเอามันไปเวิร์คต่อ ลงมือจริงเท่านั้นเอง

เทคนิคอลมันเป็นแค่อาวุธ จะทรงประสิทธิภาพได้แค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ ซึ่งคุณต้องเอามันไปฝึกฝน ใช้ประจำให้คล่องมือ ลองผิดลองถูกจนรู้มือ ให้มันกลายเป็นอวัยวะส่วนที่ 33 ของท่านให้ได้

การอ่านหนังสือเป็นแค่เพียงท่านได้อาวุธมาไว้ในครอบครองเท่านั้น ถ้าไม่ฝึกจิตให้สอดคล้องกับอาวุธ จนมีความอำมหิต มันก็เป็นแค่เศษเหล็กเท่านั้นเอง (ว่าไปนั่น)



น่าซื้อมั้ย?
ขอตอบจากความเห็นส่วนตัวของผมก่อนนะ
สำหรับผมแล้วนะ "ผมไม่ซื้อ"
(ขออภัยผู้อุปการะหนังสือเล่มนี้จริงๆครับ ผมไม่ใช่คนดี)

เพราะอะไร?
ขอชี้แจงด้วย ๒ เหตุผลนี้
๑) มันจับฉ่ายเกินไป
เพราะผมรู้แล้วว่าตัวเองสนใจเทคนิคอลเรื่องอะไร และต้องการใช้ไม้ตายแบบไหนไปแล้ว
คือผมชอบแนวทาง price pattern และแนวทางโมเมนตัมมาสเตอร์ มากกว่า
เล่มนี้จึงเหมือนกับว่ามัน "จับฉ่าย" เกินไปสำหรับผม

อีกอย่างคือราคาแรงไปนิดส์ (ซึ่งมันก็เหมาะสมกับขนาดของมันนะ)
เมื่อเทียบกับสิ่งที่เราอยากรู้แล้ว มันมีนิดเดียว (ความเห็นส่วนตัว)
เมื่อเทียบกับหนังสือ CANSLIM คัดหุ้นชั้นยอดด้วยระบบชั้นเยี่ยม แล้ว มันคนละเรื่องกันเลยนะ
(ต้องยืนยันอีกทีว่า มันเป็นความเห็นส่วนตัวของผมเท่านั้นนะ)

๒) ถ้าอยากอ่านจริงๆ ซื้อหนังสือที่เจาะลึกเฉพาะทางเลยดีกว่า
- กราฟราคาแบบแท่งเทียนญี่ปุ่น
- ทฤษฎีคลื่นเอลเลียต
- รูปแบบการกลับตัวที่สำคัญ
- พื้นฐานเรื่องแนวโน้มราคา
เหล่านี้ก็มีคนไทยเขียนให้อ่านหลายเล่ม แถมลึกกว่านี้ด้วยนะ
หากใครที่ต้องการหนังสือเจาะลึก เล่มนี้ก็ไม่เหมาะสักเท่าไหร่
เพราะมันเป็นการเอาสรุปสูตรมาอัดไว้ในเล่มเสียมากกว่า
ซึ่งบ้านเราก็มีหนังสือประเภทนี้อยู่มากมายเลย คนไทยเขียน
(นี่ก็ความเห็นส่วนตัวครับ)

แต่นี่เป็นความเห็นส่วนตัวของคนที่ชอบอ่าน และอ่านหนังสือมาเยอะระดับร้อยเล่มต่อปีนะครับ
มุมมองก็เลยอาจจะแผกต่างจากคนทั่วไปที่อ่านหนังสือน้อยแน่นอน
นี่แหละครับที่ผมพยายามเน้นย้ำว่าเป็นความเห็นส่วนตัว



แล้วเหมาะกับใคร?
- คนที่อ่านหนังสือไม่เยอะ ขี้เกียจอ่านแบบเจาะลึก อยากได้อะไรที่เนื้อๆเน้นๆจริง ประเภท "เล่มเดียวอยู่" อ่านเล่มเดียวเป็นปีไม่จบ เล่มนี้เหมาะกับท่านมาก เพราะเข้มข้นแบบ "กลั่นเป็นไอ" เลยทีเดียว
- คนที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองถนัดสูตรไหนไงครับ อยากทำความเข้าใจแนวทางใหม่ๆ เผื่อจะเจอทางที่ใช่
- มือเก๋าที่อยากได้หนังสือสรุปเทคนิคอลที่น่าเชื่อถือเอาไว้อ้างอิงสักเล่ม ก็ซื้อได้เลย
ผมว่าเล่มนี้มีให้ท่านเยอะแบบจุใจเลยครับ อินดิเคเตอร์ price pattern, วอลุ่ม, เทรนด์ไลน์, อีเลียตเวฟ, แท่งเทียน, ฯลฯ บางเรื่องคนไทยก็ยังไม่ได้เขียน ซื้อเล่มเดียวคุ้มเลย
- แฟนคลับของคุณหนุ่ย นี่ต้องอุดหนุนนะครับ แกเก่งมากครับ
- แฟนคลับสำนักพิมพ์ NSIX ค่ายนี้งานดีการันตีคุณภาพอยู่แล้ว
ราคา 496 อาจดูเหมือนแพง แต่แหม...เมื่อเทียบกับการขาดทุนหุ้น 500 บาท มันจิ๊บจ๊อยมาก


ใครสนใจหนังสือหุ้น "เทคนิคอล อนาไลซิส" ก็หาซื้อได้ที่ร้านซีเอ็ด นายอินทร์ หรือเว็บ investing.in.th ได้เลยครับ เห็นว่าช่วงนี้ออกตัวได้ร้อนแรงตั้งแต่การจองกันเลยทีเดียว ตอนที่ผมเขียนบทความนี้ก็ติด bestseller ของร้านซีเอ็ด อันดับ 11 เบียดกับงานของนิ้วกลมเลยนะครับ แสดงว่าของเขาดีไม่น้อยเลย

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

สรุปหนังสือ Trade Like a Casino