อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วนึกถึงตัวเอง
มันก็มีคนเขียนหนังสือแบบปล่อยของไม่มีกั๊กอยู่เหมือนกันแฮะ
เล่มนี้อารมณ์เหมือนที่คุณอ่านหนังสือเล่มดำ เล่มเขียว ของผมเลย
คือผู้เขียนอัดเคล็ดการทำเงิน เรียกลูกค้า แยกหัวข้อยิบย่อยให้ท่านได้อ่านแบบ blowout กันทีเดียว
ผมชอบนะ อ่านแล้วรู้สึกคุ้มดี
และอยากแนะนำให้คนที่เป็นเจ้าของธุรกิจหันมาสนใจออนไลน์กันอย่างจริงจัง
ประโยชน์ของเว็บไซต์ หรือ บล็อก หรือแม้กระทั่งสื่อโซเชียล
คือมันเป็นพนักงานขายที่ไม่ยอมหลับ ไม่เหนื่อย ไปได้ทั่วโลก
ถ้าคุณทำคอนเทนต์ได้ดีนะ มันช่วยขายมากกว่าพนักงานขายที่คุณจ้างรายเดือนเสียอีก
ผมเองทำงานคนเดียว แต่ยังสร้างเงินได้
ก็เพราะมีสื่ออนไลน์ในมือนี่แหละ
ถ้าท่านใช้มันเป็นนะ มันจะช่วยผ่อนภาระให้ท่านได้มากเลย
เนื้อหาในหนังสือ "สูตรลับดอทคอม" มีเยอะมากครับ
ผมคงไม่สามารสรุปทุกหัวข้อยิบย่อยให้ท่านได้หมด
แต่บอกเลยว่า อ่านแล้วดี อยากให้อ่าน ขอแนะนำ
จุดแข็งของเล่มนี้คือ
- ปล่อยของแบบไม่มีกั๊ก
- มีรูปสรุปขั้นตอนให้ดูตลอด ทำให้เห็นภาพรวมได้ดี (เหมือนรูปข้างบน)
รูปบนคือภาพรวมของสิ่งที่ผู้เขียนต้องการจะสื่อครับ
หลักการของจดหมายขยะ
ไม่ว่าพวกเขาจะขายอะไรก็ตาม ขั้นตอนต่างๆล้วนแล้วแต่ไม่ต่างกัน
โดยพวกเขาจะลงโฆษณาเพื่อขอให้คนอ่านติดต่อเข้าไปในบริษัทเพื่อแลกกับเอกสารฟรี หลังจากที่ติดต่อเข้าไป บริษัทเหล่านั้นจะส่งจดหมายโฆษณาซึ่งแฝงมาในรูปของเอกสารแจกฟรี หรือไม่ก็ขายสินค้าและราคาต่ำๆ เมื่อถึงตอนที่ผมตัดสินใจซื้อ บริษัทเหล่านี้จะส่งระบบมาให้พร้อมกับจดหมายโฆษณาตัวต่อไป ที่ขายสินค้าราคาสูงกว่า
คนขายพลั่ว
ในยุคตื่นทองมีคนเป็นจำนวนมากที่ทำเงินจากการขายพลั่วให้กับคนที่จะไปขุดทอง
ในวันนี้คนขายพลั่วก็คือคนที่ขายกลยุทธ์เรื่องการตลาดอินเตอร์เน็ตให้กับคุณ โดยที่ตัวเองนั้นไม่เคยทำกลยุทธ์ดังกล่าวไปใช้เลยแม้แต่ครั้งเดียว
ใครคือคนที่คุณต้องการทำงานร่วมกับพวกเขาอย่างแท้จริง ถ้าเลือกได้ผมเริ่มคิดถึงผลลัพธ์ที่ผมต้องการให้คนเหล่านั้นได้รับไป ผมถามตัวเองว่าสิ่งใดที่ทำให้ผมสามารถเข้าไปดูแลลูกค้าด้วยบริการระดับสุดยอดเท่าที่ผมอยากจะทำ
กระบวนการของสูตรลับออนไลน์ คือการตั้งคำถามดังนี้
1 ลูกค้าในฝันของคุณคือใคร?
2 คุณหาลูกค้าเหล่านี้จะได้จากที่ไหน?
3 คุณจะใช้เหยื่อล่อใดในการดึงดูดลูกค้าเหล่านั้น?
4 ผลลัพธ์ใดที่คุณต้องการจะมอบให้แก่พวกเขา?
ถ้าหากคุณคือกลุ่มลูกค้าของผมคุณก็น่าจะสั่งหนังสือก็ราคาก็ตามและคุณก็จะมีโอกาสได้รับคุณค่าบางอย่างที่คุณก็ไม่ต้องเสี่ยงอะไรเลยแล้วเมื่อคุณได้รับหนังสือไปแล้วก็ค่อยตัดสินใจว่าชอบสิ่งที่ผมนำเสนอให้หรือไม่
หากคุณสั่งหนังสือจากผม แล้วรู้สึกว่าได้รับคุณค่าจากมัน ก็แน่นอนว่าคุณต้องอยากได้จากผมมากกว่านั้น จนคุณต้องเดินขึ้นบันไดคุณค่าของผม เพื่อค้นหาว่ายังมีคุณค่าอื่นๆหรือไม่ที่ผมเตรียมเอาไว้ให้คุณ
บันไดคุณค่าจะสมบูรณ์ไปไม่ได้หากปราศจากโปรแกรมซื้อซ้ำที่ดี ซึ่งการวางโครงสร้างโปรแกรมซื้อซ้ำนั้นคุณสามารถทำได้หลายทาง อาจจะเป็นซอฟต์แวร์ ระบบสมาชิก หรือโปรแกรมการ coaching เป็นต้น
แต่ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม ทั้งหมดต้องเป็นอะไรที่เราสามารถคิดเงินลูกค้าในแบบรายเดือนได้ รายได้นอนกินตัวนี้จะกลายเป็นเสมือนเส้นเลือดที่คอยเราเลี้ยงธุรกิจของคุณให้มีสุขภาพสมบูรณ์
สูตรลับออนไลน์ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อช่วยให้คุณได้รู้ว่าใครคือคนที่คุณต้องการให้บริการ จะหาพวกเขาเจอได้ที่ไหน ต้องใช้เหยื่อล่อแบบไหนมาดึงดูด และจะพาพวกเขาไปที่ใหน
บันไดคุณค่า คือสิ่งที่ช่วยให้คุณรู้ว่าคุณต้องเติมสินค้าและบริการใดเข้าไปบนชั้นบันได จนทำให้ลูกค้าของคุณเดินเข้ามาเก็บเกี่ยวสินค้าของเราตั้งแต่ระดับเหยื่อล่อ ไปจนถึงบริการการสูงสุดของคุณ
การเปิดบริษัทที่เอาแต่ขายบริการระดับ hi end แต่เพียงอย่างเดียวนั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ยากเกินไป ดังนั้นคุณต้องมีสินค้า และบริการเพื่อนำเสนออยู่หลายระดับ จนคุณไม่ต้องเหนื่อยมานั่งขายแต่ของแพงที่สุด ด้วยเหตุนี้กรวยการขายจะเข้ามาช่วยเราได้ 2 จุดคือ
1 ส่งมอบให้คุณค่าให้กับลูกค้าแต่ละคนในระดับที่พบเขาหรือเธอใจไหว
2 สามารถทำเงินไปได้ตลอดระยะเวลาที่บริษัทของเรากำลังเฟ้นหาลูกค้าในฝัน ที่สามารถจ่ายเงินซื้อบริการขั้นสูงสุดของเราได้ไหว
กรวยการขายเป็นแค่กระบวนการออนไลน์ที่คุณใช้ในการพาลูกค้าบางคนเดินขึ้นบันไดคุณค่าในแต่ละขั้น จริงๆแล้วนั่นก็คือเว็บเพจซึ่งเป็นตัวหลักที่ทำให้สูตรลับออนไลน์ตัวนี้ใช้ได้ผล
สูตรลับออนไลน์จะช่วยให้คุณค้นพบลูกค้าในฝัน สร้างเหยื่อล่อ และนำพาเขาเดินทางไปถึงจุดที่คุณต้องการให้ลูกค้าของเขาไปถึง และคุณจะสามารถทำเงินได้ ในขณะที่คุณกำลังส่งมอบคุณค่าให้กับลูกค้าอยู่
อินเตอร์เน็ตมีความเจ๋งอยู่เรื่องหนึ่ง นั่นคือช่วยสร้างพลังของฝูงชนขึ้นมา ซึ่งก็คือการรวมตัวกันของคนธรรมดาๆ แล้วขอพื้นที่เล็กๆบนโลกอินเทอร์เน็ตเพื่อตั้งกลุ่มของตนขึ้นมา ทำให้คนอย่างคุณและผมสามารถสร้างธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้ โดยไม่ต้องเสียเงินกับสื่อแบบเดิมที่มีราคาสูงลิบลิ่วจนคนอย่างเราๆท่านๆเข้าไม่ถึง
ก่อนที่จะมีอินเตอร์เน็ตนั้น การรวมตัวกันของคนกลุ่มคนทั่วโลกทำได้ค่อนข้างยาก เพราะแต่ละคนต่างถูกจำกัดด้วยสถานที่และภาษาที่ต่างกัน แต่ในวันนี้ใครๆก็สามารถรวมตัวเพื่อนั่งพูดคุยกันได้เกือบทุกเรื่องที่พวกเขามีความเชื่อและแนวคิดร่วมกัน
ในโลกนี้มีฝูงชนในทุกๆสิ่ง ตั้งแต่ฝูงรับซื้อของโบราณ ไปจนฝูงนักสะสมซิป
เมื่อคุณเข้าใจถึงแนวคิดหลักของเรื่องฝูงชน การสร้างทราฟิกให้เข้ามาเยี่ยมเว็บไซต์ของคุณก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายอย่างเหลือเชื่อ
ไม่รู้ว่าฝูงชนของคุณอยู่ไหนเหรอครับ?
ก็แค่เข้า google แล้วพิมพ์คีย์เวิร์ดเรื่องที่คุณสนใจจากนั้นก็ตามด้วยคำว่า forum หรือค้นหากลุ่มที่เกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดดังกล่าวใน facebook ก็ยังได้ เพียงแค่ใช้ความพยายามนิดหน่อยคุณก็จะหาลูกค้าเป้าหมายเจอแล้ว จากนั้นคุณต้องถามคำถาม 3 ข้อกับตัวเองเพื่อช่วยให้คุณเข้าถึงสมาชิกภายในฝูงชนนั้นได้เหมาะสมต่อไป
1 ใครคือกลุ่มตลาดเป้าหมายของคุณ
2 กลุ่มตลาดของคุณไปรวมตัวกันที่ไหน
3 จะดึงลูกค้าของคุณออกจากฝูงของตนเข้ามาเว็บคุณได้อย่างไร
หลักการดึงลูกค้าให้มาสนใจ ด้วยแนวกระตุกต่อม
เป็นแนวทางของหนังสือพิมพ์ national enquirer headlines เขาเลือกใช้รูปที่ทั้งแปลกและประหลาดเพื่อดึงดูดสายตาเรา จากนั้นจะใช้พาดหัวข่าวที่ทั้งสั้น กระชับ และกระแทกใจ (มักจะเป็นข่าวทำนองแปลกประหลาดและน่าตกใจ) เพื่อกระตุกต่อมสอดรู้สอดเห็นของคุณจนทนไม่ไหว ต้องซื้อกลับบ้าน ด้วยภาพและพาดหัวข่าวนั้นสามารถหยุดสมองของคุณให้หยุดทุกอย่าง แล้วหันมาสนใจสินค้าของตนได้
จำไว้เสมอว่าแค่การรู้ว่าลูกค้าในฝันของคุณคือใครและพวกเขาอยู่ที่ไหนยังถือว่างานไม่จบ
เพราะสิ่งที่คุณต้องทำต่อไปก็คือการดึงดูดความสนใจของว่าที่ลูกค้า จนพวกเขาต้องคลิกเพื่อมาที่เว็บไซต์ของคุณ ซึ่งการจะทำเช่นนั้นต้องใช้โฆษณาแนวกระตุกต่อม