แผนพัฒนาจากเม่าไปสู่เซียนหุ้น
ที่มา : adamhgrimes.com/the-road-to-mastery-2
ความท้าทายที่จะเป็นเทรดเดอร์มั่งคั่ง มีความคล้ายคลึงกันกับการท้ายทายที่จะเป็นนายแพทย์, ทนายความ หรือวิศวกร โดยเฉพาะระยะเวลาในการเรียน ตามด้วยการฝึกงานที่เหนื่อยยาก นักเทรดจำนวนมากล้มเลิกและล้มเหลวในระหว่างกระบวนการนี้ เช่นเดียวกับอาชีพอื่นๆ มีน้อยมากที่ผ่านมันไปได้และกลายเป็นผู้ประสบความสำเร็จ เป็นมืออาชีพ สร้างความมั่งคั่งจากการเทรดได้อย่างมหาศาล อยู่บนยอดของปิรามิดของอาชีพนี้
นี่คือแผนที่พัฒนาการของเทรดเดอร์ จากฐานจนถึงยอดปิรามิด
๑) นักล่า
ทุกสิ่งอย่าง มันใหม่หมาดในระยะนี้ อะไรๆมันยากไปเสียหมด นี่คือจุดที่นักเทรดกำลังเรียนรู้พื้นฐานของกราฟ, โครงสร้างของตลาด และมันเป็นแค่จุดเริ่มต้นของการผจญภัยในตลาดหุ้นเท่านั้น
๒) เทรดเดอร์หน้าใหม่/ฝึกหัด
ในระยะนี้ นักเทรดไม่ได้ซื้อขายเพื่อหารายได้ คือเทรดแล้วไม่ได้ตังค์ แม้จะพยายามหรืออยากได้มากแค่ไหนก็ตาม แทนที่จะได้เงิน ถ้าไม่ไฝ่สูงเกินความรู้ และอยู่ในโลกของความจริง พวกเขาจะได้ประสบการณ์จากระยะนี้เป็นอย่างมาก เป็นการเริ่มต้นจัดการกับอารมณ์ในระหว่างการเทรด หนึ่งในสัญญาณหลักที่บ่งบอกว่าเทรดเดอร์คนนั้นมีพัฒนาการก็คือ พวกเขาเริ่มขาดทุนด้วยจำนวนเงินที่น้อยลง มีการตัดขาดทุนก่อนเสียหายหนัก ยิ่งเทรดนานก็ยิ่งขาดทุนน้อยลงต่อเนื่อง
๓) ว่าที่เทรดเดอร์ผู้รอบรู้
ในช่วงต้นของการเป็นเทรดเดอร์ผู้รอบรู้ ขั้นตอนแรกก็คือพวกเขาหยุดการเสียเงินก้อนใหญ่ได้แล้ว พูดง่ายๆคือ เริ่มขาดทุนหนักยากขึ้น ผลประกอบการในรอบของการเทรดจะเป็นบวก(ก่อนหักค่าคอมมิชชั่น) แม้จะยังมีขาดทุนอยู่ แต่ก็เป็นการเสียหายเล็กน้อย ส่วนใหญ่จะเป็นการจ่ายค่อคอมมิชชั่นให้โบรกเกอร์มากกว่า
๔) เทรดเดอร์ผู้รอบรู้
ลักษณะที่พิสูจน์ว่าเทรดเดอร์ได้กลายเป็นผู้รอบรู้ฝมีความสามารถที่แท้จริง ก็คือสร้างผลประกอบการ มีผลกำไรมากพอที่จะครอบคลุมค่าคอมมิชชั่นจากการซื้อขายได้แล้ว กว่าจะเข้าถึงขั้นตอนนี้อาจใช้เวลาปีครึ่งถึงสองปีหรือมากกว่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม, ในช่วงสองปีที่เริ่มจากความฝัน จนกลายมาเป็นความจริงนั้น มีเทรดเดอร์ที่หลงเหลืออยู่รอดจนมายืนในระยะนี้น้อยมากเหลือเกิน
๕) เทรดเดอร์ผู้เชี่ยวชาญ
ตอนนี้แหละ พวกเขาเริ่มทำเงินสนุก ความผิดพลาดไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก แต่เมื่อเกิดขึ้น พวกเขาก็จะรีบแก้ไข ทบทวนและซึมซับบทเรียนนั้นอย่างรวดเร็ว ช่วงนี้พวกเขาเริ่มมทำความเข้าใจอารมณ์ของตัวเองได้ดีขึ้น มองตลาดด้วยจิตใจที่เปิดกว้าง เมื่อความเชี่ยวชาญเพิ่มมากขึ้น พวกเขาจะรู้จักใช้ประโยชน์จากการบริหารเงินทุนได้ดีขึ้น พัฒนาทักษะการเทรดขนาดใหญ่ และมีการเทรดแบบมุ่งเน้นมากขึ้น
๖) เทรดเดอร์ผู้มากประสบการณ์
ใครที่ผ่านมาถึงระยะนี้ได้ ก็เปรียบเหมือนทหารผ่านศึกที่แท้จริง คือผ่านทั้งตลาดที่เป็นขาขึ้นสุดคึกและขาลงสุดหดหู่มาได้ มันต้องใช้เวลาเป็นสิบปีเลยกว่าจะเป็นเทรดเดอร์ระดับนี้ได้ พวกเขามีความตระหนักถึงความเสี่ยงทั้งที่รู้จักและไม่รู้จักอันเกิดจากการเคลื่อนไหวของตลาดในรอบวัฏจักรหนึ่งๆ ช่วงนี้พวกเขาจะทำเงินได้อย่างมหาศาลจากความรู้ที่สะสมมาตั้งแต่พัฒนาการระยะแรกๆ