หุ้นที่ให้บทเรียนเรามากที่สุดในปี 2559
เป็นเคสของสองปัที่แล้วนะครับ บังเอิญผมทำเก็บไว้ดูคนเดียว
เห็น facebook โผล่มาให้ดูก็เลยเอามาลงบล็อก zyo71 เผื่อจะได้เป็นไอเดียสำหรับคนที่สนใจ
SIMAT ในมุมลบเลย ได้แง่คิดในเรื่องของการถัวเฉลี่ยหุ้นขาลง โดยการลงเพราะพื้นฐานห่วย ถูกยกเลิกสัญญาจากลูกค้ารายใหญ่ ทำบรอดแบนด์ก็โดนรายใหญ่เล่นสงครามราคา ก็สู้ไม่ได้ เมื่อลงทุนไปยังไม่ถึงจุดคุ้ม ก็ส่งผลให้ขาดทุนสิ เมื่อขาดทุน+ไม่มีจุดแข็งพอที่จะสู้ใครได้ ราคาก็อ่อนแอสิ
ต่อไป ต้องไม่เล่นหุ้นขาลง โดยเฉพาะตอนที่มันหลุดแนวรับลงไปข้างล่าง เพราะมันจะมีโมเมนตัมแรงมาก
ต้องไม่ถัวเฉลี่ยขาลงเด็ดขาด
ต้องเล่นหุ้นขาขึ้นเท่านั้น
MALEE เราไม่เคยให้ความสำคัญเลย กระทั่งมันวิ่งมาถึง 80 กว่าบาท อันเป็นเวลาที่สายไปแล้ว เสียดายมากๆ
ที่เราได้เรียนรู้
ถ้าเห็นหุ้นราคาเบรค 200 วัน ต้องไปดูพื้นฐาน
- ว่ามันมีแบรนด์มั้ย
- งบกำไรขาดทุนเป็นยังไง
- มันมีโครงการในอนาคตยังไงบ้าง
- ผู้บริหารมีความ aggressive สำหรับเป้าหมายในอนาคตยังไง
- ที่ตั้งเป้าไว้ ตอนนี้ทำได้บ้างแล้วมั้ย
- มีการทำตลาดใหม่มั้ย
- ตอนราคาเบรค 200 วัน วอลุ่มเข้าสูงอย่างมีนัยยะมั้ย
ถ้าเรารู้จักวิธีกรองแบบนี้ตั้งแต่ตอนนั้นล่ะก็ คงมีโอกาสทำกำไรจากตัวนี้ได้อย่างมหาศาลแน่นอน
TNP, KOOL, BIG, HTECH หุ้นขาขึ้นที่เราทนรวยไม่ไหว
ข้อคิดคือ
TNP ถ้ามันเป็นขาขึ้น หากมันไม่ลงลึก แต่วิ่งในกรอบสะสม หลังจาก all time high ไปแล้ว ก็ต้องทนดูมัน หากพื้นฐานการทำกำไรดีขึ้นอย่างต่อเนื่องต้องทนกับมัน เพราะถ้ามันเบรคกรอบสะสมไปได้ ก็จะวิ่งเร็งและแรงมากภายในเวลาไม่กี่เดือน
KOOL เราขายไวไป ทั้งที่มันย่อเพราะติดแคชบาลานซ์ ทำให้ได้กำไรแค่ 150% ถ้าทนถือต่อไปจะได้กำไรถึง 200% และถ้ายังถือมาจนถึงวันนี้ เรามีโอกาสกำไรมากกว่านี้อีก หากกำไรยังโตได้อีก
BIG ได้ราคาที่ก้นแล้วนะ แต่ดันไปขายที่ก้นของการย่อขาขึ้น
ตัวนี้ถ้าเราทนไปหน่อยก็จะได้อย่างน้อยๆ 2 เด้ง ยิ่งถ้าไปดูงบก็จะช่วยให้มั่นใจในการถือมากยิ่งขึ้น แต่ไม่ดูไง ตอนนั้นอาจจะขายไปถัว SIMAT ด้วยมั้งน่ะ
ดังนั้นต่อไป อย่ามีหุ้นขาลงในพอร์ตเด็ดขาด เพราะมันจะไประราน ป่วนให้เราต้องขายหุ้นขาขึ้นชั้นดีออกไปถัวหุ้นขาลงชั้นเลว
HTECH เราตามตัวนี้มาพอสมควร ด้วยความที่ตอนแรกเห็นพี่โจถือ พอไปดูกราฟภาพใหญ่ก็เห็นว่ามันทำ 1-2 1-2 1-2 ด้วย ก็ยิ่งน่าสนใจ แต่เพราะราคามันแกว่งแบบไม่น่าเชื่อถือ เลยเข้าๆออกๆ หลายครั้ง แต่กระนั้นก็ได้จังหวะที่ดีมากตอนที่มันเปิด gap จึงเข้าไป 6 หมื่นกว่า แต่เพราะราคามันไม่ยอมไปต่อทันที (ย่อแค่ 5 วันเอง เสือกทนไม่ได้) พอขายออกไปครึ่งก็ซิ่งต่อเลย
TSF เป็นหุ้นที่เราเล็งหาจังหวะซื้อมานานมาก เมื่อเห็นมันลงมา sideway ที่ก้น ราคา 0.14 -0.15 ก็เข้าซื้อ แต่จากนั้น SET panic ทำให้ราคาลงไปที่ 0.12 เราก็ขายออกไปก่อน (เพื่อเอาเงินไปซื้อตัวอื่น) วันต่อมาราคาก็ลงต่อไปถึง 0.09-0.10 ก็ไม่ได้ใส่ใจเพราะโฟกัสตัวอื่นอยู่
และวันถัดมาราคาก็ดีดแรงไปยืนกรอบราคาเดิมภายใน 4 วัน และก็ sideway ไปอีก 17 วัน แต่จากนั้นสิมันพุ่งโหด 2 วันพร้อมกับวอลุ่มสูงสุดในรอบ 200 วัน แต่เราก็ไม่กล้าซื้อ แต่ไปกล้าในอีกวัน ได้ทุน 0.23 บาท จากนั้นมันก็บวกต่อแบบอ่อนแอ พอเจอ cash balance ก็ร่วงหนัก เราก็เลยได้ขายออกที่ 0.29 ซึ่งก็ได้กำไรพอสมคว แต่ว่ามันกลายเป็นการคิดผิดสิ มันลงแค่ 0.22 และดีดขึ้นเลย ใช่...มันเด้งที่ EMA20 เท่านั้นเอง และก็ดีดีขึ้นไปทำนิวไฮ 0.40 ในวันนี้ นับว่าเป็นความผิดหวังอย่างแรง
สำหรับตัวนี้นะ ถ้าเราชอบมัน ก็น่าจะหนอดเอาไว้ไม่เกิน 5 หมืนสำหรับหุ้นต่ำกว่า 20 สตางค์ โดยไม่เพิ่มมากกว่าเพื่อป้องกันเวลาขาดทุนหนักๆ ถ้าเจอตัวที่เจ๋งๆแบบนี้ เราก็เหมือนได้ jackpot เลย คิดดูสิ ถ้าเราได้ทุนที่ 0.14 สักห้าหมื่นบาท ตอนนี้เรามีเงินถึงแสนห้าเลยทีเดียว
TNH เราชอบตัวนี้ในความที่มันมีสภาพคล่องน้อย และหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลก็ขึ้นกันหมด เราได้เข้าในช่วงที่มันเบรค 200 วัน แต่จากนั้นมันก็เขย่าแรงจนลงลึกเกินรับได้ เราก็เลยขายออก แต่จากนั้นมันก็ดีดกลับทันที และมีย่อแต่ตื้นกว่าเดิม หากรายังตามมันต่อและกัดฟันซื้ออีกครั้งก็น่าจะได้กำไรเกินเด้งแน่นอน