การเป็น "นักขาดทุนที่ยอดเยี่ยม" คือกุญแจสู่ความสำเร็จ

Image
เส้นทางสู่การเป็น "นักขาดทุนที่ยอดเยี่ยม" พัฒนาทักษะเพื่อรับมือกับการขาดทุนในการเทรดอย่างมีประสิทธิภาพ เล่นหุ้นขาดทุน : ความเข้าใจผิดของมือใหม่ ในรูปแบบ  ebook    https://www.mebmarket.com/?action=book_details&book_id=240758 "การขาดทุน" เป็นเรื่องสำคัญที่นักเทรดทุกคนต้องเผชิญ ทุกคนอยากทำกำไรจากตลาด นั่นเป็นเป้าหมายสุดท้ายที่ชัดเจนอยู่แล้ว แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือ นิสัยและทักษะที่จะช่วยให้คุณรักษาความสำเร็จนั้นได้ในระยะยาว หนึ่งในนิสัยที่สำคัญที่สุดก็คือ การเรียนรู้ที่จะเป็น "นักขาดทุนที่ยอดเยี่ยม" (Exceptional Loser) ระบบเทรดและการเทรดตามระบบ เบื้องต้นสำหรับมือใหม่... ในรูปแบบ ebook โดย เซียว จับอิดนึ้ง  https://www.mebmarket.com/?action=book_details&book_id=334986   ทำไมต้องเรียนรู้ที่จะ "แพ้" ให้เป็น? 1. กำไรใหญ่ก็ช่วยไม่ได้ถ้าขาดทุนหนัก การไล่ตามกำไรที่มากมายอาจดูน่าสนใจ แต่ถ้าคุณไม่รู้จักจัดการกับการขาดทุน กำไรนั้นก็อาจหายวับไปเพราะการขาดทุนครั้งเดียว 2. การขาดทุนคือส่วนหนึ่งของการเทรด ไม่มีนักเทรดคนไหนในโลกที่ชนะทุกครั้ง คุณต้องยอมรับค...

บันทึก SET @25/10/2018 และแท่งเทียนกลืนกิน หรือ Bullish Engulfing

วานนี้ตลาดหุ้นสวิงโหดมาก ลบยี่สิบกว่าจุด สวิงกลับขึ้นไปบวกยี่สิบกว่าจุด สิริรวม  50 จุด สุดยอด
เมื่อมันมีความพิเศษใส่ไข่แบบนี้เลยอดไม่ได้ที่จะเขียนบทความบันทึกรายละเอียดเอาไว้ จะได้เป็นข้อมูลเอาไว้ดูในอนาคต ว่ามันเคยเกิดเรื่องแบบนี้มากแล้ว

ดูกราฟ SET ก่อนนะครับ นี่เป็นแท่งรายวัน



โดยมันเริ่มต้นที่ราคาเปิด gap ลงไปตั้งต้นที่ระดับต่ำกว่าวันก่อน สาเหตุก็ง่ายมาก,เพราะคนตกใจกลัวกันทั้งตลาด เนื่องจากเมื่อวานราคาเปิด gap แล้วแดงยาว คนส่วนใหญ่ก็คิดว่าหายนะแน่ เมื่อความกลัวเข้าไปครอบงำหัวใจของพวกเขาแล้ว ทุกเหตุผลมันมีความกลัวเกิน 90% ซึ่งมันมีที่มาจากบรรยากาศข่าวที่ทุกสำนักให้เหตุผลตรงกัน ซึ่งสอดคล้องกับทรงกราฟ

ยกตัวอย่างข่าวสั้นของเว็บ kaohoon.com นี่คือตัวแทนมุมมองของคนส่วนใหญ่
เพราะหนึ่งในหน้าที่ของสำนักข่าวคือ หาเหตุผลมาอธิบายว่าอะไรทำให้เกิดเหตุนี้เหตุนั้น

วันที่ 22 ให้เหตุผลที่ดัชนีหุ้นร่วงว่า ขายทำกำไร

วันที่ 24 ออกข่าวรัวๆเลย หาเหตุผลมาสนับสนุนกันใหญ่ มรสุมปัจจัยต่างประเทศ
บอกได้เลยว่าทั้งเหตุผลและกราฟมันได้ บีบคั้นหัวใจน้อยๆของนักลงทุนส่วนใหญ่ของตลาด
ว่าเมื่อวันนี้ลงขนาดนี้ พรุ่งนี้โลกแตกแน่นอน

เมื่อคนรู้ข่าว พร้อมกับดูกราฟ จนทำให้แน่ใจว่าข่าวร้ายหนักแน่ ฉันทนไม่ไหวแล้ว
จึงตั้ง ATO เพื่อขายกันใหญ่ เมื่อราคายิ่งลงต่ำกว่าเดิมมาก ความกลัวก็แผ่ขยายไปยังหุ้นทุกตัวในตลาด

เชื่อมั้ยครับ ความกลัวในสถานการณ์แบบนี้มันสร้างผลกระทบที่รุนแรงต่อสิ่งแวดล้อมอื่นมาก  เพราะความจริงต้นตอที่ทำให้ SET ร่วงแรงนั้น มันเกิดจากการขายหุ้นกลุ่มปตท กับบลูชิพ เท่านั้นเอง แต่อย่างว่าแหละครับเด็ดดอกไม้สะเทือนถึงหูกระต่าย จึงเกิดการตื่นตูมขึ้น
หุ้นที่ผมถืออยู่ ตอนATO เปิดมาราคาเดิมแท้ๆ เหมือนทรงจะดี ผมเองก็มั่นใจว่ามันไมน่าจะลงได้อีก
แต่ที่ไหนได้, ดันมีคนในนั้นตกใจกลัวตาม ตัดสินใจขายหุ้นเหมือนกลัวกลัวตกแฟชั่น

พอมีคนเริ่มขายแค่นั้นแหละ ทำให้เกิดการขายตามจนกลายเป็นโดมิโน ล้มกันทั้งกระดาน คนที่เคยใจแข็ง เพราะราคาหุ้นของตัวเองทรงยังดี พอมาเจอพวก panic ตามตลาด ที่ขายต่อเนื่อง-ฉุดกระชากให้ราคาหุ้นตัวเองร่วงหลุด trailing stop ก็ต้องตัดใจขายตามจนได้

เพราะอย่างที่บอกว่าบรรยากาศมันพาไปจริงๆ ข่าวร้ายท่วมตลาดแบบนี้ เหตุผลทุกอย่างมันชวนให้ขายจริงๆ มันเป็นความโกลาหลที่เป็นเอกลักษณ์ของตลาดหุ้น ที่ไม่เคยเปลี่ยน

คือแม้ว่าคุณจะใจแข็ง ไม่ยอมขาย แต่เมื่อในกลุ่มคนที่ถือหุ้นร่วมกับคุณ ดันใจฝ่อ เกิดความกลัว พอมันเริ่มขายเท่านั้นแหละ เละสิครับ

นึกถึงคลิปนี้เลย


คือแม้คุณจะไม่ขายหุ้น แต่ดันมีใครสักคนสติแตกขายขึ้นมา ความสงบที่เคยราบเรียบ
ก็กลับกลายเป็นลูกคลื่นระลอกใหญ่ บานปลายเป็นสึนามิได้เช่นกัน

พูดง่ายๆคือ แม้คุณไม่ขาย คนอื่นก็ก่อเรื่องให้คุณต้องขายตามจนได้

มาดูกราฟกัน
นี่เป็นกราฟ 1 นาทีครับ


คือช่วงแรกเปิด gap เพราะแรงตั้งขายหุ้น Big Cap หุ้นตัวเล้กตัวน้อยก็ยังยืนดี เพราะคนส่วนใหญ่ขายออกไปเมื่อวานเกือบหมดแล้ว
แต่พอมีสักคนอารมณ์ค้าง ขายออกไม้ไม่มาก ร้อยหุ้นพันหุ้นเท่านั้นแหละ กลายเป็นสะกิดต่อม คนอื่นที่รีๆรอๆ ก็ตัดสินใจได้ จากนั้นก็ panic อีกระลอก

พอเม่าชุดสุดท้ายขายหุ้นออกหมด เจ้ามือก็ค่อยๆดันราคาขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุด แรกๆผมก็นึกว่ามันคงรีบาวด์แล้วลงแรงต่อ แต่ที่ไหนได้ มันขึ้นไปยืนแดนบวก จากเลขตัวเดียว แล้วก็บวกสิบจุด จนบ่ายสี่โมง ยี่สิบกว่าจุด แบบ...อ้าว กรูเพิ่งขายไปเมื่อเช้า ทำไมทำกันแบบนี้...?

ปิดตลาด เราก็ได้รับรายงานข่าวแบบนี้ ตลาดยุโรปสดใส Dow Future พุ่ง 160 จุด

แหม...ทำให้นึกถึงเพลงนี้ขึ้นมาเลย


และ...

และ...
ตลาดไม่เคยมีความชัดเจนหรอก มันถูกออกแบบมาเพื่อล่อลวงนักเทรดส่วนใหญ่ 
และมันไม่ได้ทำแค่บางครั้ง...มันทำตลอดเวลา!!



เสริมความรู้เทคนิคอลกันสักนิด เมื่อวานมันได้สร้างทรงแท่งเทียนที่น่าสนใจ
ซึ่งผมเคยเขียนไว้ในหนังสือ "หุ้นซิ่ง สวิงเทรด" คือ Bullish Engulfing หรือ แท่งเทียนกลืนกิน
ถือเป็นโอกาสดีในการทำความเข้าใจรูปแบบนี้จากของจริง อันจะทำให้ท่านจำมันได้ติดตาติดใจมากขึ้น

รายละเอียดทางทฤษฎีของ "แท่งเทียนกลืนกิน" มันเป็นแบบนี้ครับ
Bullish Engilfing
Bullish Engulfing เป็นรูปแบบราคาที่ต่อไปท่านจะเจอบ่อยมาก (เพราะตอนนี้ท่านจำได้แม่นแล้ว) พอเจอแล้วท่านก็อยากเจออีก เพราะมันเป็นโอกาสทำเงินให้ท่านอย่างง่ายๆ ถ้าดูสิ่งแวดล้อมให้ดี มันก็เหมือนกับการสร้างฐานและ breakout เลยนะ คือแท่งดำนั้นน่ะ เป็นการสร้างฐานที่บีบตัวแคบๆ ซึ่งท่านไม่จำเป็นต้องยึดว่ามันมีแค่แท่งเดียวนะ อาจจะมีเป็นสามสี่แท่งก็ได้ แต่วิ่งแคบๆ จากนั้นก็เกิดแท่ง big white กลืนกินพื้นที่ของแท่งดำสั้นๆก่อนหน้านี้ได้หมดรวดในแท่งเดียว แบบนี้เหมือนทีมฟุตบอลที่ยิงนำสองลูกน่ะครับ กำลังใจมา คึกสุดๆ อยากยิงอีก

โดย Bullish Engulfing ทรงนี้จะใช้ดีในตอน Buying Weakness คือเข้าตอนย่อ หรือ buy pullback หรือ retracement หรือ buy on dip ตามแต่สูตรของคนนั้น
โดยหลักการก็เหมือนกันก็คือ ซื้อเมื่อราคาดีดกลับตัวจากแนวรับ ซึ่งเป็นสัญญาณว่าแนวรับนั้นเอาอยู่และราคามีโอกาสเด้งกลับขึ้นไปเป็นขาขึ้นอีกครั้ง

เมื่อรวมสองแท่งเข้าด้วยกัน มันก็คือ hammer ไส้ล่างยาว นั่นเอง
ซึ่งมันสื่อชัดเจนว่ามี demand จำนวนมหาศาลเข้ามาในตลาดเพื่อรับ supply ที่ถูกปล่อยออกมาได้จนหมด และยังเหลืออีกมหาศาล จนสามารถดันราคากลับไปปิดเหนือจุดสูงสุดของวันก่อนได้อย่าง

ดังนั้นจุดซื้อที่ดีก็เป็นแบบ breakout นั่นเลย คือราคาข้ามยอดของแท่งดำได้ก็รีบตาม โดยโซนที่แท่งเทียนแบบนี้มักจะเกิดคือเหนือเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น EMA5-10-20 ซึ่งมักจะเป็นการพักตัว ย่อซับแรงขายชั่วคราว ไม่กี่วัน วอลุ่มในช่วงนั้นแห้ง แล้วก็เขียวยาวให้ซื้อ


เมื่อตลาดหุ้นบ้านเรานั้น มันทำ bullish engulfing ก็มีหุ้นที่ทำทรงเดียวกันเยอะมาก อาทิ






แต่อย่างไรก็ตาม การดีดครั้งนี้ ยังไม่แน่ใจว่าตลาดหุ้นจะหยุดลง หรือแค่รีบาวน์แล้วลงต่อ ผมก็ไม่ทราบได้ เพราะไม่แน่ใจในสถานการณ์ เนื่องจากทุกอย่างมันน่ากลัวไปหมด ข่าวร้ายท่วมตลาด

เป็นไปได้มั้ยว่ามันจะเข้าสูตรทฤษฎีผลประโยชน์ คือเมื่อคนทั้งตลาดกลัวพากัน stop หรือ cut loss กันหมด ตลาดก็กลับตัวแบบค้านสายตา

ซึ่งทั้งนี้, อนาคตเท่านั้นที่จะเฉลยให้เราทราบเอง

ดังนั้น ก็คิดถึงความเสี่ยงไว้ก่อนก็แล้วกันครับ stop loss ต้องมีติดแผนเสมอครับ
ผมว่าเมื่อสภาพตลาดยังเป็นขาลงแบบนี้ สิ่งที่เราควรทำคือเทรดแบบระมัดระวังไว้ก่อน
ควรสวิงเทรดในกรอบการแกว่งแคบๆแบบตีหัวเข้าบ้านไปก่อนจะดีกว่า

ทั้งนี้ ถ้าคุณสามารถหาหุ้นนำตลาดหรือแข็งกว่าตลาดมาเล่นได้ ผมว่าคุณน่าจะปลอดภัยมากกว่า
ผมเคยเขียนไว้ชื่อ  หาหุ้นนำตลาดตัวใหม่กันเถอะ (Stock Market Leader)

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

แชร์วิธีการหารายได้จากการช่วยขาย ebook ที่ mebmarket.com

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ