แนะนำอีบุ๊ก "สโตอิกสำหรับอินฟลูผู้อ่อนไหว"

Image
Early Bird Promotion ลดราคาจาก 150 บาท เหลือ 98 บาท 23 - 27 พย. นี้เท่านั้น https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6ODoiMTIzNzExNDMiO3M6NzoiYm9va19pZCI7aTozMzQ0NTQ7fQ ทำไมอินฟลูเอนเซอร์จึงควรศึกษาและฝึกสโตอิกเอาไว้บ้าง? อินฟลูเอนเซอร์เป็นกลุ่มคนที่มีบทบาทสำคัญในโลกออนไลน์ ต้องเผชิญกับความคาดหวัง ความกดดัน และการแสดงออกจากผู้ติดตามอยู่ตลอดเวลา การศึกษาและฝึกสโตอิกสามารถช่วยอินฟลูเอนเซอร์ในด้านต่อไปนี้: 1. จัดการกับความกดดันจากคำวิจารณ์       สโตอิกสอนให้เราแยกแยะสิ่งที่เราควบคุมได้ (เช่น การตอบสนอง ความคิด การกระทำ) กับสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ (เช่น ความคิดเห็นของคนอื่น การวิจารณ์)      - ตัวอย่างการนำไปใช้: เมื่อเจอคอมเมนต์ด้านลบ ให้ตั้งคำถามว่า “ฉันควบคุมสิ่งนี้ได้หรือไม่?” หากไม่ ให้ปล่อยผ่านและโฟกัสที่การปรับปรุงตัวเอง. 2. รักษาความมั่นคงทางอารมณ์       อินฟลูเอนเซอร์มักเผชิญกับความไม่แน่นอน เช่น การเปลี่ยนแปลงของอัลกอริทึม หรือจำนวนผู้ติดตามที่ขึ้น-ลง สโตอิกช่วยให้คุณมองความสำเร็จและล้มเหลวในมุมที่สมดุล      - หลักการสโตอิก: ไม่ยึดต

รูปแบบแท่งเทียนหยุดลงชั่วคราว : Cradle Pattern



Cradle Pattern ถ้าจะแปลตามตัว Cradle ก็คือ "เปล" นั่นเองครับ
ซึ่งทรงของมันก็ได้อยู่นะ ตรงตามชื่อเลย (ดูรูปประกอบ น่าจะเห็นภาพ)
มันเป็นทรงที่ยืนยันการกลับตัวได้แม่นยำพอสมควร แม้จะไม่เปลี่ยนเทรนด์ แต่ก็มักจะหยุดลง

สิ่งแวดล้อมของ Cradle Pattern
มันคล้ายกับ Rounding bottom เลยครับ

โดยจุดเริ่มต้นของรูปแบบนี้คือ
๑) ราคาร่วงแรงแดงยาว สื่อว่าคนในตลาดกลัวมาก จึงพากันขายหุ้นออก

๒) จากนั้น วันต่อมา ราคาไม่ยอมลงต่อ มันทำแท่งเทียนประเภทโดจิ หรือสั้นลงกว่าเดิมมากๆ สื่อว่าคนในตลาดเกิดความเห็นที่ไม่ตรงกัน เป็นความลังเล ไม่แน่ใจ ตัดสินใจไม่ได้ ราคาเลยไม่ลงต่อเพราะคนขายหุ้นไม่เยอะ แต่ก็ไม่สามารถเด้งขึ้นไปได้ไกล เนื่องจากคนยังไม่กล้าซื้อกัน ราคาจึงปิดแคบๆ ทิ้งไส้บนล่างให้เห็น

๓) เมื่อถึงเวลา คนทำราคาก็ขนเงินเข้ามาระดมซื้อ ผลักดันให้ราคาดีดขึ้นไปแรงทำแท่งเขียวยาว กลับตัวขึ้นไปใหม่ ทรงจะคล้ายกับตัวยูเลยครับ หรือจะมองว่าเป็น "เปล" ก็ไม่มีใครว่าเช่นกัน


ส่วนตัวของผมก็ชอบทรงนี้นะครับ
เพราะมันสื่อได้ดีว่า supply อ่อนแรงไปอย่างสิ้นเชิง เป็นการขับไล่คนกลัวให้ออกไปจากตลาด มีการถ่ายโอนหุ้นนจากรายย่อยไปเข้ามือคนทำราคา ถ้าเขาเอาจริง และมองบวกกับหุ้นตัวนั้น โอกาสที่มันจะเป็นขาขึ้นก็มีสูงครับ

คลิปของนาย Adam Khoo ก็ให้ Cradle เป็นหนึ่งรูปแบบแท่งเทียนที่ทรงพลังเช่นกัน

เท่าที่หาข้อมูลมานะ ทรงคล้ายๆแบบนี้มีหลายชื่อมาก อาทิ Tower bottom, rounding bottom, j hook, gap bottom, fry pan, scoop ที่ให้ชื่อภาษาอังกฤษ ไม่ได้กระแดะนะครับ แต่ผมอยากให้เป็นข้อมูลเผื่อท่านอยากค้นหาต่อเอง จะได้มีเชื้อหาต่อได้ง่ายขึ้น



Set Up : Cradle Pattern

จุดเข้าซื้อ มีอยู่ 2 จุดที่น่าสนใจ
entry (1) ตอนที่ราคาถูกไล่ให้ทะลุข้ามจุดสูงสุดของแท่งเทียนแกว่งแคบสั้นๆ หรือโดจิ
โดยให้ stop loss อยู่ที่ใต้จุดต่ำสุดของการแกว่งแคบนั้นๆ
ข้อดีของทรงนี้คือ ระดับ stop loss ของท่านจะแคบมาก
entry (2) ถ้าไม่ทัน ราคาไปไวมาก ก็ต้องพึ่งพาเบสิคของความเป็นขาขึ้น คือการยกไฮยกโลว์



ดูตัวอย่างกัน
เอาแบบที่สวยๆก่อนนะ


BCPG มีช่วงหนึ่งที่ราคาร่วงแรง แล้วหยุดลงด้วยแท่งสั้นๆ ก่อนที่จะดีดเขียวสวนกลับขึ้นไป
คือถ้าจะให้สวย มันต้องเขียวต่อเนื่องขึ้นไปเรื่อยๆ


BEAUTY ก็เข้าข่ายนะครับ
หลังจากที่ราคาร่วงแรง แถมเปิด gap ลงดอกสุดท้าย
แต่หลังจากนั้น มันไม่ยอมลงต่อ เกิดความลังเล แกว่งออกข้างด้วยแท่งเทียนสั้นๆ ในกรอบแคบๆ
จากนั้นก็ดีดเขียวยาวกว่าเดิม กลับขึ้นไป

อารมณ์เหมือน panic sell (แท่งแดง)
selling climax = เปิด gap ลง วอลุ่มพีคเลย (คนกลัวทั้งตลาด)
จากนั้นก็มีการต่อสู้กันในช่วงแรก วอลุ่มสูง คือมีการขนเงินมายันราคาไว้ไม่ให้ลง(แท่งเขียว)
เมื่อเม็ดเงินสามารถยันราคาไม่ให้ลงได้ ราคาก็ซึมออกข้างไปเป็นเดือน
ก่อนที่จะยกกรอบขึ้นไปได้


CFRESH นี่ก็ดีดขึ้นแบบไม่ให้สุ้มให้เสียงกันเลย
นี่คือปัญหาของทรง cradle เพราะบทจะดีด ก็ทำทันที
ซึ่งส่วนใหญ่มักจะไม่ทันกัน


COMAN ถ้ามองภาพเล็ก ก็มี cradle สองจุด
หากมองภาพกว้าง มันก็คือ rounding bottom หรือ double bottom อย่างไม่ต้องสงสัย

ตัวอย่างอื่น








มาดูด้านล้มเหลวของมันบ้าง
ให้ท่านได้เผื่อใจสักนิด จะได้เห็นประโยชน์ของการตั้ง stop loss


ACAP ทำทรงนี้ให้เห็นถึง ๒ ครั้ง แต่ล้มเหลวทุนทีสิน่า
คือถ้าใครอยากได้ต้นเทรนด์การกลับตัว กลายเป็นรับมีดไปซะงั้น


เคส BH บางคนชอบซื้อดัก (ผมเคยเป็น) คืออยากได้ของถูกไง เห็นว่าทรงคล้าย ขอเก็บของถูกก่อน
ที่ไหนได้ มันไม่ยอมดีดเขียว กลับร่วงแดงลงต่อ
เป็นทรงพักเหนือยเพื่อลงต่อ แบบ bearish flag ไปซะงั้น ก็เสียหายตามระเบียบ
นี่แหละครับ ความเสี่ยงที่เกิดจากโรค FOMO



สรุป
เมื่อได้เอาเคสมาให้ท่านดูอย่างหลากหลายและรอบด้าน ทั้งสำเร็จและล้มเหลว
ก็พบว่าทรง cradle นี้ น่าสนใจจริง แต่ก็ไม่ได้เป๊ะ 100%
เพราะมีทั้งแค่หยุดลงชั่วคราว แล้วลงต่อ ดีดกลับก็ไม่แรง
ไม่ถือว่าเป็นรูปแบบการเปลี่ยนแนวโน้มที่น่าเชื่อถือเสียทีเดียว
แต่เรื่องของการหยุดลงน่ะ เอาได้อยู่ครับ


ก็ลองเอาไอเดียนี้ไปทำการบ้านต่อกันดูเองนะครับ

7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

อธิบาย Wyckoff Accumulation Phase แบบละเอียดยิบ

ชมฟรี! คอร์สหุ้น ออนไลน์ 170 คลิป จัดเต็ม ไม่มีกั๊ก Free Full Trading Course by Zyo

สรุปหนังสือ Trade Like a Casino