7 อุปนิสัยของผู้มีประสิทธิภาพสูง (7 Habits of Highly Effective People) สำหรับนักเทรด

Image
7 อุปนิสัยของผู้มีประสิทธิภาพสูง (7 Habits of Highly Effective People) จากหนังสือของ Stephen R. Covey ซึ่งเป็นแนวคิดที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงการเทรดได้เป็นอย่างดีครับ 1. เป็นฝ่ายรุก (Be Proactive) 🔹 แนวคิด: จงมุ่งเน้นไปที่ สิ่งที่คุณควบคุมได้ (Circle of Influence) แทนที่จะกังวลกับสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุม 🔹 สำหรับนักเทรด: - ตลาดจะเคลื่อนที่อย่างที่มันเป็น เราควบคุมตลาดไม่ได้ แต่เราควบคุมวิธีตอบสนองของเราได้ - แทนที่จะโทษตลาด โบรกเกอร์ หรือข่าว จงพัฒนาทักษะของตัวเอง บริหารความเสี่ยงให้ดี และมีแผนรับมือกับทุกสถานการณ์ - ฝึกฝนวินัยและควบคุมอารมณ์ของตัวเอง อย่าปล่อยให้ความโลภหรือความกลัวครอบงำ . 2. เริ่มต้นโดยมีเป้าหมายในใจ (Begin with the End in Mind) 🔹 แนวคิด: ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน วาดภาพความสำเร็จของตัวเอง 🔹 สำหรับนักเทรด: - ถามตัวเองว่า "ฉันอยากเป็นเทรดเดอร์แบบไหน?" - กำหนดเป้าหมายที่เป็นรูปธรรม เช่น "ฉันต้องการกำไร 10% ต่อเดือนโดยมี Drawdown ต่ำกว่า 5%" - เขียนแผนการเทรด ให้ชัดเจน และยึดมั่นในแผนของคุณ . 3. ทำสิ่งที่สำคัญก่อน (First Things First...

กฎการเทรดขั้นเทพ 30 ข้อ (Best Trading Rules)

ออกตัวไว้ก่อนนะว่าผมไม่ได้คิดเอง แปลมาจากบทความที่ชื่อ 30 Of The World’s Best Trading Rules  ของเว็บ newtraderu แปลเป็นไทยไดhว่า "กฎการเทรด 30 ข้อ ที่ดีที่สุดในโลก" แต่ผมไม่กล้าใช้คำนี้ เลยขอเปลี่ยนไปใช้ "กฎการเทรดขั้นเทพ" แทน ซึ่งก่อนที่จะแปลอย่างจริงจัง ก็เห็นว่ามันมีเกร็ดที่น่าสนใจอยู่พอสมควรเลยครับ โดยเขาแบ่งไว้ 3 ส่วนด้วยกัน คือ
- จิตวิทยาการเทรด
- การบริหารความเสี่ยง
- พัฒนาแนวทางการเทรดให้สุดยอด
ซึ่งแต่ละหัวก็จะมีข้อย่อยออกไปครับ



1) จิตวิทยาการเทรด
๑) ปรับแนวทางการเทรดให้เข้ากับกระแสของตลาด อย่าทำตามความดื้อด้าน, อีโก้ และอารมณ์ เพราะมันคืออินดิเคเตอร์ที่เลวสำหรับการเทรดของคุณ

๒) โปรดเข้าใจว่าหน้าที่ของนักเทรดมีแค่
- เลือกจุดเข้า
- เลือกจุดออก
- บริหารจำนวนเงินทุนเข้าทำ
- บริหารความเสี่ยง
- และเลือกว่าตลาดแบบไหนควรเล่นหรือไม่ควร
ส่วนการกำหนดว่าจะได้กำไรหรือไม่นั้น ท่านไม่สามารถกำหนดมันได้


๓)  ท่านต้องมีแผนการเทรด วางแผนเข้าและออกก่อนเข้าลงมือ นี่คือหลักยึดที่สำคัญสำหรับการเทรดของท่าน ถ้าไม่มีมัน ก็อย่าเทรดเลย


๔) ท่านต้องแยกแยะระหว่าง "ความต้องการเป็นคนถูกต้อง" กับ "ความต้องการทำเงิน" ให้ออก โดยขั้นตอนแรกของการทำเงินคือ "ตัดขาดทุนให้ไว" เมื่อการเคลื่อนไหวของราคาไปผิดทางที่คุณได้คาดไว้ทำให้ท่านต้องขาดทุน


๕) อย่าเทรดด้วยวงเงินก้อนที่สูงมากเกินกว่าแผน เพราะนั่นเป็นการเทรดที่เกิดจากอารมณ์ อันเป็นต้นทางของความเสียหายครั้งใหญ่


๖) ถ้าตอนนั้นคุณรู้สึกดีมากๆ อย่าได้เทรด - Richard Weissman


๗) เทรดด้วยเงินก้อนที่ใหญ่ขึ้นถ้าคุณได้ตังค์ จงเทรดด้วยเงินที่น้อยลงถ้าเสียเงินติดต่อกัน
จงอย่าคิดใช้เงินก้อนใหญ่เพื่อเอาเงินขาดทุนคืนในไม้เดียวเป็นอันขาด


๘) อย่าได้กังวลเรื่องการขาดทุนเล็กๆน้อยๆ แต่จงซีเรียสถ้าคุณไม่ได้ทำตามวินัยของตัวเอง


๙) การเทรดพลาด-คุณแค่เสียเงิน(ถ้าต้อง stop loss) 
แต่การปล่อยให้ความผิดพลาดรุนแรงเพิ่มขึ้น(ไม่ยอม stop loss) มันจะทำให้คุณเสียขวัญ 
ดังนั้นให้รีบ stop loss ก่อนที่การขาดทุนจะทำให้คุณเสียขวัญ
เพราะเงินต้นเสียหายไปเป็นจำนวนมากจนเกินกู้คืน


๑๐) นักเทรดจะประสบความสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อพวกเขามีศรัทธาต่อตนเองในฐานะนักเทรด, ระบบเทรดของตัวเอง, รู้สึกถึงความเป็นผู้ชนะ และรู้ว่าตัวเองต้องยึดตามวินัยตลอดเส้นทางชีวิตการเทรด


(เคล็ด) ทำให้ความเสี่ยงจากการเทรดของท่านลดลงจนไกล้ศูนย์ก่อนลงมือเทรด



2) การบริหารจัดการความเสี่ยง

๑๑) อย่าได้เข้าเทรดจนกว่าท่านจะรู้จุดหนี(stop loss) ถ้าหากมันพิสูจน์ว่าท่านคิดผิด


๑๒) อันดับแรก คือให้ท่านหาระดับ stop loss ที่ยืนยันว่าท่านคิดผิด จากนั้นให้คำนวนจำนวนเงินเข้าเทรด(position size) อันเกิดจากระดับความเสี่ยงนั้น


๑๓) ใส่ใจความเสี่ยง(จำนวนเงินที่คุณจะเสียถ้าพลาด)ให้จริงจัง
ก่อนที่จะไปสนใจกำไรที่ท่านคาดว่าจะได้


๑๔) วางโครงสร้างการเทรดของท่านบนะท้นฐานของจำนวนเงินที่เข้าซื้อและ stop loss ว่าไม่ควรเสี่ยงเกิน 1% ของจำนวนเงินทุนทั้งหมดในหุ้นแต่ละตัว


๑๕) อย่าพอร์ตของท่านติดลบเกิน 5% ไม่ว่าจะตอนไหนก็ตาม


๑๖) โปรดทำความเข้าใจธรรมชาติการแกว่งของราคา แล้วเอามันไปเป็นส่วนหนึ่งของแผนการเทรด, การวางเงินเข้าเทรด เพื่อให้เหมาะสมกับมัน


๑๗) อย่าได้ถัวเฉลี่ยขาดทุนเป็นอันขาด เพราะมันจะเป็นการเริ่มต้นทำลายพอร์ตของคุณให้เสียหายมากขึ้นได้อีก อย่าได้เถียงตลาด อย่าพยายามพิสูจน์ว่าตัวเองถูก เพราะยิ่งเถียงพอร์ตคุณยิ่งพัง


๑๘) การเทรดทั้งหมดของท่านควรจบลงใน 4 แนวทางนี้
1) กำไรเล็กน้อย
2)กำไรคำใหญ่
3) เท่าทุน
4) ขาดทุนน้อย
ขอแค่ท่านจบด้วยสี่แนวนี้ ท่านมีสิทธิ์รอดและรวย


๑๙) จงจริงจังและละเอียดต่อการบริหารความเสี่ยง(ทำเกมรับให้แน่น) และเมื่อกำไรแล้วอย่าปล่อยให้มันหลุดมือ ถ้าปล่อยให้โตได้ ต้องทนรวยให้สุด


๒๐) การใช้ trailing stop มักจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการขายเมื่อราคาวิ่งถึงเป้า
เพราะอย่าลืมว่าการเทรดของท่านมีผิดให้ต้องขาดทุนด้วย การจะทำให้ท่านได้ผลรวมออกมาแล้วได้กำไรท่านต้องมีการ let profit run

Develop a winning trading system that fits your personality.
คำแนะนำเพิ่มเติม : ท่านต้งพัฒนาระบบการเทรดให้เหมาะสมกับนิสัยของท่านให้จงได้



3) พัฒนาแนวทางเทรดของท่านให้สุดยอด

๒๑) เทรดตามสิ่งที่คุณเห็น ไม่ใช่ตามสิ่งที่คุณหวัง – Doug Gregory


๒๒) ซื้อเมื่อแนวโน้มเป็นขาขึ้น ขายเมื่อแนวโน้มเป็นขาลง


๒๓) หาไม้ตายของตัวเองให้เจอ


๒๔) แผนการเทรดของคุณต้องสร้างจากข้อเท็จจริงเชิงปริมาณของคุณ ไม่ใช่ความอยาก


๒๕) เทรดตามกราฟ อย่าเทรดตามข่าว


๒๖) ระบบการเทรดที่แข็งแกร่งนั้น ต้องสร้างจากระบบที่คุณเทรดแล้วชนะมากที่สุด คือได้กำไรมากและขาดทุนน้อย


๒๗) ให้เทรดเฉพาะจังหวะที่คุณได้เปรียบเท่านั้น


๒๘)  ถ้าคุณอยากรู้ว่าตอนนี้หุ้นอยู่เทรนด์อะไร คุณต้องรู้ก่อนว่าคุณดู time frame ไหน - Richard Weissman


๒๙) ให้เข้าเทรดก็ต่อเมื่อราคาหุ้นวิ่งเข้าสูตรที่คุณถนัดเท่านั้น อย่าเทรดมั่วเด็ดขาด


๓๐) วางระดับ stop loss นอกกรอบการแกว่งสักเล็กน้อย เพื่อคุณจะได้ไม่โดนเขย่าให้ตกใจ และขายในตอนที่ราคาพิสูจน์ว่าคุณคิดผิดจริงๆ


ที่มา newtraderu.com/2015/01/13/30-of-the-worlds-best-trading-rules


7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

ดูยังไงว่าเป็น Cup with Handle pattern?

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

คุณต้องลงสนามเทรดจริง ถึงจะเข้าใจการเทรดอย่างแท้จริงได้

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

Oliver Kell: วงจรของการเคลื่อนไหวของราคา (Cycle of Price Action)