นักเทรดคิดว่างานของพวกเขาคือการทำเงิน แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่!

Image
นักเทรดคิดว่างานของพวกเขาคือการทำเงิน แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่! แปลและขยายความจาก  https://x.com/markminervini/status/1850913591630680378 นักเทรดหลายคนมีความเชื่อผิด ๆ ว่า “งาน” หรือสิ่งที่พวกเขาต้องทำคือการทำกำไรให้ได้มากที่สุด ในความจริงแล้ว เป้าหมายของการเทรดคือการทำเงิน แต่งานจริง ๆ ของนักเทรดนั้นคือการปฏิบัติตามและดำเนินกลยุทธ์ที่ได้วางแผนไว้อย่างมีวินัยโดยไม่หลุดออกจากกรอบที่ตั้งไว้ ถ้าคุณสามารถยึดมั่นในกฎการเทรดของตัวเองอย่างต่อเนื่อง ผลลัพธ์ตามมาคือกำไรและความสำเร็จจะเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ เป้าหมาย vs งานจริงของนักเทรด - เป้าหมาย  คือการทำเงินและสร้างผลตอบแทน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนอยากได้ แต่สิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่คุณสามารถควบคุมได้โดยตรง - งานจริง  ของนักเทรดคือการใช้กลยุทธ์ที่มีโอกาสชนะให้ได้อย่างสม่ำเสมอและมีวินัย ยึดมั่นในแผนการเทรดที่ตั้งไว้ การทำตามกฎของตัวเองอย่างเคร่งครัดจะช่วยให้คุณจัดการกับความเสี่ยงและลดโอกาสขาดทุนได้ ทำไมวินัยจึงสำคัญในงานของนักเทรด การมีวินัยเป็นสิ่งที่ช่วยให้การเทรดมีความมั่นคงและปลอดภัยมากขึ้น การไม่มีวินัยในการเทรดจะทำให้นักเทรดเกิดการตัดสินใจที่ผิดพลาด

กฎการเทรดขั้นเทพ 30 ข้อ (Best Trading Rules)

ออกตัวไว้ก่อนนะว่าผมไม่ได้คิดเอง แปลมาจากบทความที่ชื่อ 30 Of The World’s Best Trading Rules  ของเว็บ newtraderu แปลเป็นไทยไดhว่า "กฎการเทรด 30 ข้อ ที่ดีที่สุดในโลก" แต่ผมไม่กล้าใช้คำนี้ เลยขอเปลี่ยนไปใช้ "กฎการเทรดขั้นเทพ" แทน ซึ่งก่อนที่จะแปลอย่างจริงจัง ก็เห็นว่ามันมีเกร็ดที่น่าสนใจอยู่พอสมควรเลยครับ โดยเขาแบ่งไว้ 3 ส่วนด้วยกัน คือ
- จิตวิทยาการเทรด
- การบริหารความเสี่ยง
- พัฒนาแนวทางการเทรดให้สุดยอด
ซึ่งแต่ละหัวก็จะมีข้อย่อยออกไปครับ



1) จิตวิทยาการเทรด
๑) ปรับแนวทางการเทรดให้เข้ากับกระแสของตลาด อย่าทำตามความดื้อด้าน, อีโก้ และอารมณ์ เพราะมันคืออินดิเคเตอร์ที่เลวสำหรับการเทรดของคุณ

๒) โปรดเข้าใจว่าหน้าที่ของนักเทรดมีแค่
- เลือกจุดเข้า
- เลือกจุดออก
- บริหารจำนวนเงินทุนเข้าทำ
- บริหารความเสี่ยง
- และเลือกว่าตลาดแบบไหนควรเล่นหรือไม่ควร
ส่วนการกำหนดว่าจะได้กำไรหรือไม่นั้น ท่านไม่สามารถกำหนดมันได้


๓)  ท่านต้องมีแผนการเทรด วางแผนเข้าและออกก่อนเข้าลงมือ นี่คือหลักยึดที่สำคัญสำหรับการเทรดของท่าน ถ้าไม่มีมัน ก็อย่าเทรดเลย


๔) ท่านต้องแยกแยะระหว่าง "ความต้องการเป็นคนถูกต้อง" กับ "ความต้องการทำเงิน" ให้ออก โดยขั้นตอนแรกของการทำเงินคือ "ตัดขาดทุนให้ไว" เมื่อการเคลื่อนไหวของราคาไปผิดทางที่คุณได้คาดไว้ทำให้ท่านต้องขาดทุน


๕) อย่าเทรดด้วยวงเงินก้อนที่สูงมากเกินกว่าแผน เพราะนั่นเป็นการเทรดที่เกิดจากอารมณ์ อันเป็นต้นทางของความเสียหายครั้งใหญ่


๖) ถ้าตอนนั้นคุณรู้สึกดีมากๆ อย่าได้เทรด - Richard Weissman


๗) เทรดด้วยเงินก้อนที่ใหญ่ขึ้นถ้าคุณได้ตังค์ จงเทรดด้วยเงินที่น้อยลงถ้าเสียเงินติดต่อกัน
จงอย่าคิดใช้เงินก้อนใหญ่เพื่อเอาเงินขาดทุนคืนในไม้เดียวเป็นอันขาด


๘) อย่าได้กังวลเรื่องการขาดทุนเล็กๆน้อยๆ แต่จงซีเรียสถ้าคุณไม่ได้ทำตามวินัยของตัวเอง


๙) การเทรดพลาด-คุณแค่เสียเงิน(ถ้าต้อง stop loss) 
แต่การปล่อยให้ความผิดพลาดรุนแรงเพิ่มขึ้น(ไม่ยอม stop loss) มันจะทำให้คุณเสียขวัญ 
ดังนั้นให้รีบ stop loss ก่อนที่การขาดทุนจะทำให้คุณเสียขวัญ
เพราะเงินต้นเสียหายไปเป็นจำนวนมากจนเกินกู้คืน


๑๐) นักเทรดจะประสบความสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อพวกเขามีศรัทธาต่อตนเองในฐานะนักเทรด, ระบบเทรดของตัวเอง, รู้สึกถึงความเป็นผู้ชนะ และรู้ว่าตัวเองต้องยึดตามวินัยตลอดเส้นทางชีวิตการเทรด


(เคล็ด) ทำให้ความเสี่ยงจากการเทรดของท่านลดลงจนไกล้ศูนย์ก่อนลงมือเทรด



2) การบริหารจัดการความเสี่ยง

๑๑) อย่าได้เข้าเทรดจนกว่าท่านจะรู้จุดหนี(stop loss) ถ้าหากมันพิสูจน์ว่าท่านคิดผิด


๑๒) อันดับแรก คือให้ท่านหาระดับ stop loss ที่ยืนยันว่าท่านคิดผิด จากนั้นให้คำนวนจำนวนเงินเข้าเทรด(position size) อันเกิดจากระดับความเสี่ยงนั้น


๑๓) ใส่ใจความเสี่ยง(จำนวนเงินที่คุณจะเสียถ้าพลาด)ให้จริงจัง
ก่อนที่จะไปสนใจกำไรที่ท่านคาดว่าจะได้


๑๔) วางโครงสร้างการเทรดของท่านบนะท้นฐานของจำนวนเงินที่เข้าซื้อและ stop loss ว่าไม่ควรเสี่ยงเกิน 1% ของจำนวนเงินทุนทั้งหมดในหุ้นแต่ละตัว


๑๕) อย่าพอร์ตของท่านติดลบเกิน 5% ไม่ว่าจะตอนไหนก็ตาม


๑๖) โปรดทำความเข้าใจธรรมชาติการแกว่งของราคา แล้วเอามันไปเป็นส่วนหนึ่งของแผนการเทรด, การวางเงินเข้าเทรด เพื่อให้เหมาะสมกับมัน


๑๗) อย่าได้ถัวเฉลี่ยขาดทุนเป็นอันขาด เพราะมันจะเป็นการเริ่มต้นทำลายพอร์ตของคุณให้เสียหายมากขึ้นได้อีก อย่าได้เถียงตลาด อย่าพยายามพิสูจน์ว่าตัวเองถูก เพราะยิ่งเถียงพอร์ตคุณยิ่งพัง


๑๘) การเทรดทั้งหมดของท่านควรจบลงใน 4 แนวทางนี้
1) กำไรเล็กน้อย
2)กำไรคำใหญ่
3) เท่าทุน
4) ขาดทุนน้อย
ขอแค่ท่านจบด้วยสี่แนวนี้ ท่านมีสิทธิ์รอดและรวย


๑๙) จงจริงจังและละเอียดต่อการบริหารความเสี่ยง(ทำเกมรับให้แน่น) และเมื่อกำไรแล้วอย่าปล่อยให้มันหลุดมือ ถ้าปล่อยให้โตได้ ต้องทนรวยให้สุด


๒๐) การใช้ trailing stop มักจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการขายเมื่อราคาวิ่งถึงเป้า
เพราะอย่าลืมว่าการเทรดของท่านมีผิดให้ต้องขาดทุนด้วย การจะทำให้ท่านได้ผลรวมออกมาแล้วได้กำไรท่านต้องมีการ let profit run

Develop a winning trading system that fits your personality.
คำแนะนำเพิ่มเติม : ท่านต้งพัฒนาระบบการเทรดให้เหมาะสมกับนิสัยของท่านให้จงได้



3) พัฒนาแนวทางเทรดของท่านให้สุดยอด

๒๑) เทรดตามสิ่งที่คุณเห็น ไม่ใช่ตามสิ่งที่คุณหวัง – Doug Gregory


๒๒) ซื้อเมื่อแนวโน้มเป็นขาขึ้น ขายเมื่อแนวโน้มเป็นขาลง


๒๓) หาไม้ตายของตัวเองให้เจอ


๒๔) แผนการเทรดของคุณต้องสร้างจากข้อเท็จจริงเชิงปริมาณของคุณ ไม่ใช่ความอยาก


๒๕) เทรดตามกราฟ อย่าเทรดตามข่าว


๒๖) ระบบการเทรดที่แข็งแกร่งนั้น ต้องสร้างจากระบบที่คุณเทรดแล้วชนะมากที่สุด คือได้กำไรมากและขาดทุนน้อย


๒๗) ให้เทรดเฉพาะจังหวะที่คุณได้เปรียบเท่านั้น


๒๘)  ถ้าคุณอยากรู้ว่าตอนนี้หุ้นอยู่เทรนด์อะไร คุณต้องรู้ก่อนว่าคุณดู time frame ไหน - Richard Weissman


๒๙) ให้เข้าเทรดก็ต่อเมื่อราคาหุ้นวิ่งเข้าสูตรที่คุณถนัดเท่านั้น อย่าเทรดมั่วเด็ดขาด


๓๐) วางระดับ stop loss นอกกรอบการแกว่งสักเล็กน้อย เพื่อคุณจะได้ไม่โดนเขย่าให้ตกใจ และขายในตอนที่ราคาพิสูจน์ว่าคุณคิดผิดจริงๆ


ที่มา newtraderu.com/2015/01/13/30-of-the-worlds-best-trading-rules


7 บทความยอดนิยมในรอบ 30 วันที่ผ่านมา

(มือใหม่เล่นหุ้น) Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ

คำคมเกี่ยวกับเคล็ดวิชาจากหนังเรื่อง กังฟูแพนด้า

VCP (Volatility Contraction Pattern) และรูปแบบที่คล้ายกัน

รวมแนวทางการนับคลื่นจากเซียน Elliott Wave

Setup เงินล้านของ Kristjan Kullamägi

จิตวิทยา การวิเคราะห์และใช้งาน แท่งเทียน Doji

วิธีการอ่านสัญญาณแท่งเทียน (Candlesticks Reading) สำหรับมือใหม่