ผมเป็นเทรดเดอร์ที่เรียนรู้ด้วยตัวเอง
เอ็ด ซีโคตา (Ed Seykota)
Ed Seykota คือตำนานเซียนหุ้นระดับโลก, หนึ่งใน Markrt Wizard, บิดาของ System trader เนื่องจากเขาเป็นเทรดเดอร์คนแรกที่พัฒนาระบบการซื้อขายบนคอมพิวเตอร์ โดยต่อยอดมาจากทฤษฎีของ Richard Donchian ซึ่งเป็นสไตล์ Trend Following ที่สร้างผลงานได้อย่างน่าทึ่ง คือภายใน 16 ปี สามารถทำเงินให้เติบโตได้ถึง 250,000% หรือ 2,500 เท่า
๑) การเทรดและจิตวิทยาคือสิ่งเดียวกัน
๒) สไตล์ของผมโดยพื้นฐานแล้ว เป็นแบบตามแนวโน้มโดยใช้วิธีการจดจำรูปแบบพิเศษของราคาบ้าง และมีการบริหารเงินอย่างเป็นขั้นตอนตามระบบ
๓)
กุญแจสำคัญของการอยู่รอดในระยะยาวและความมั่งคั่งนั้น มันมีความเกี่ยวข้องกันมากกับการรวมเอาเทคนิคในการบริหารเงินเข้าไปในระบบการเทรดด้วยเทคนิค
๔) การสร้างภาวะแวดล้อมที่เหมาะสมกับการทำงานจะช่วยส่งเสริมให้การเทรดมีความยั่งยืนมากขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในกุญแจสู่ความสำเร็จ
๕) การเทรดทั้งหมดล้วนแล้วแต่เกิดจากระบบบางอย่างไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม ระบบที่ดีมากมายมีพื้นฐานมาจากการตามแนวโน้ม แม้แต่เรื่องของชีวิตเองก็มีพื้นฐานบนแนวโน้ม นกจะเริ่มบินไปในทิศใต้ในฤดูหนาวและจะเป็นต่อไป บริษัทต่างๆจะติดตามแนวโน้มและเปลี่ยนแปลงผลิตภัณฑ์ของพวกเขา
๖) ปัจจัยพื้นฐานที่คุณอ่านเจอนั้น โดยทั่วๆไปแล้ว, มันจะไม่มีประโยชน์เพราะตลาดได้รับรู้ข้อมูลพวกนั้นเข้าไปรวมในราคาหมดแล้ว
๘)
การเทรดตามแนวโน้มของผม ให้ความสำคัญตามลำดับ ดังนี้
1. แนวโน้มระยะยาว
2. รูปแบบของชาร์ทในปัจจุบัน
3. การเลือกจุดที่ดีในการซื้อหรือขาย
4. ความคิดทางปัจจัยพื้นฐานของผม (ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วพวกมันจะทำให้ผมต้องเสียเงินไปมากกว่า)
๙) ถ้าผมกำลังจะซื้อจุดเข้าซื้อของผมจะอยู่สูงกว่าตลาด ผมจะพยายามหาจุดที่ผมคาดว่าโมเมนตัมของตลาดจะแข็งแกร่งในทิศทางของการเทรดนั้นๆ และจะช่วยลดความเสี่ยงของผมลงมาได้อีกด้วย ผมจะไม่พยายามหาจุดที่ต่ำสุดหรือสูงสุด
๑๐)
ประสบการณ์การเทรดที่น่าเร้าใจหรือส่งผลกระทบทางอารมณ์นั้นมีแนวโน้มที่จะมีความหมายในแง่ลบ ความภูมิใจคือสิ่งที่จะทำให้เกิดปัญหาได้มากที่สุด เช่นเดียวกับ ความหวัง ความกลัว และความโลภ ความผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผมจะเกิดตามมาไม่นานหลังจากที่ผมเอาอารมณ์เข้าไปเกี่ยวข้องในสถานการณ์เทรด
๑๑) ผมไม่ชอบที่จะคิดถึงเรื่องที่มันผ่านไปแล้ว ผมมีแนวโน้มที่จะตัดการเทรดที่แยกออกไปจากใจให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ลืมมันไปซะและมองหาโอกาสใหม่ต่อไป
๑๒) ปัจจัยการเทรดที่ดีคือ
1. การตัดขาดทุน
2. การตัดขาดทุน
3. การตัดขาดทุน
ถ้าคุณสามารถทำตามกฎ 3 ข้อนี้ได้คุณก็มีโอกาส
๑๓) ผมจัดการกับช่วงที่ขาดทุนติดต่อกันด้วยการลดจำนวนครั้งของการเทรดของผมลงมา
ผมแค่ออกมารอข้างนอกก่อน การพยายามที่จะเทรดในตอนที่ขาดทุนต่อเนื่องนั้นมันเป็นหายนะทางอารมณ์ การพยายามที่จะเอาคืนเป็นเรื่องที่อันตรายร้ายแรงมาก
๑๔)
แนวโน้มที่จะทำให้เกิดการสูญเสีย คือการปล่อยให้การขาดทุนส่งผลต่ออารมณ์และพยายามที่จะเอาคืนด้วยฐานะที่มีขนาดใหญ่เกินไป
๑๕) ผมเป็นเทรดเดอร์ที่เรียนรู้ด้วยตัวเอง ผู้ซึ่งมีการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องทั้งในเรื่องของตัวเองและเรื่องของเทรดเดอร์คนอื่นๆ
๑๖) ผมวางจุดตัดขาดทุนไว้ในเวลาเดียวกันกับที่ผมเข้าไปในการเทรด ตามปกติแล้วผมมักจะเลื่อนจุดนี้ขึ้นไปเพื่อล็อกผลกำไรเอาไว้เมื่อแนวโน้มมันสูงขึ้นไป ในบางครั้งผมก็จะทำกำไรออกมาเมื่อมีความบ้าคลั่งขึ้นในตลาด
๒๐)
ผมตั้งใจที่จะเสี่ยงไม่เกิน 5% ในแต่ละการเทรด
๒๑) ผมรู้สึกว่าความสำเร็จของผมนั้นเกิดจากความรักของผมในตลาด ผมไม่ใช่เทรดเดอร์ที่ไม่มีความใส่ใจ มันคือชีวิตของผมผมมีความหลงใหลในการเทรด มันไม่ได้เป็นแค่งานอดิเรกหรือแม้แต่ตัวเลือกในอาชีพของผม ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือสิ่งที่ผมควรจะต้องทำกับชีวิตของผม
๒๒) กฎในการเทรดที่ผมยึดคือ
1. การตัดขาดทุน
2. อยู่กับการเทรดที่ชนะ
3. วางเดิมพันให้น้อย
4. ทำตามกฎโดยไม่ตั้งคำถาม
5. รู้ว่าเมื่อไหร่ที่จะไม่ทำตามกฎ
๒๓) ผมไม่คิดว่าเทรดเดอร์จะสามารถทำตามกฎได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน นอกเสียจากว่ามันจะสะท้อนสไตล์การเทรดของพวกเขาเองออกมาได้
๒๔) พึ่งระวังความแตกต่างเพียงเล็กน้อยระหว่าง "สัญชาตญาณ" และ "ความอยากที่จะให้เป็นเหมือนที่หวังไว้" เอาไว้ให้ดี
๒๖) ผมเคยพยายามจับจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดในตลาด โดยการดูว่ามีการซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป แต่ตลาดยังคงตกลงไปอย่างต่อเนื่อง และในที่สุดผมก็ขาดทุนไปเป็นจำนวนมาก
๒๗) ผมถือว่าระบบตามแนวโน้มนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการอ่านชาร์ท การอ่านชาร์ทมันมีบางอย่างเหมือนกับการเล่นเซิร์ฟ คุณไม่จำเป็นจะต้องรู้อะไรมากมายเกี่ยวกับฟิสิกส์ของคลื่น การสั่นพ้องของคลื่น แค่คุณต้องสามารถที่จะรู้สึกได้เมื่อมันเกิดขึ้นและมีแรงขับเคลื่อนที่จะทำมันในเวลาที่ถูกต้อง
๒๘) ผมมักจะไม่สนใจต่อคำแนะนำของเทรดเดอร์คนอื่น โดยเฉพาะคนที่เชื่อว่าพวกเขารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น "อย่างแน่นอน"
๒๙)
หลายคนชอบที่จะทำความเข้าใจตลาด มากกว่าที่จะทำเงินจากมันซะอีก
๓๐) เทรดเดอร์ที่พ่ายแพ้สามารถทำอะไรได้น้อยมาก เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองไปเป็นเทรดเดอร์ที่ชนะ
เทรดเดอร์ที่พ่ายแพ้จะไม่ต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพราะนั่นคือสิ่งที่เทรดเดอร์ที่ชนะทำ
๓๑) จิตวิทยาการเทรดจะกระตุ้นคุณภาพของการวิเคราะห์ และการนำเอามันไปใช้
จิตวิทยาเป็นเหมือนกับคนขับรถ และการวิเคราะห์เป็นเหมือนกับแผนที่
๓๒) บุคลิกลักษณะของเทรดเดอร์ที่เป็นผู้ชนะ คือ
1. เขาหรือเธอต้องรักในการเทรด และ
2. เขาหรือเธอต้องการที่จะชนะ
๓๓) การจะเป็นเทรดเดอร์ผู้ชนะหรือแพ้นั้น,
ทุกคนจะได้รับในสิ่งที่พวกเขาต้องการจากตลาด คนบางคนดูเหมือนชอบที่จะแพ้ ดังนั้นพวกเขาจะชนะด้วยการเสียเงินของพวกเขาไป
๓๔) ผลงานในการเทรดของผู้คนน่าจะเป็นการสะท้อนถึงสิ่งที่พวกเขาให้ความสำคัญมากกว่าที่พวกเขาอยากที่จะยอมรับมัน
๓๕) ผมคิดว่าเทรดเดอร์ที่มีสีสันและน่าสนใจที่สุดบางคนนั้นเล่นเพื่ออะไรที่มากกว่าแค่การทำกำไรเพียงอย่างเดียว พวกเขาน่าจะเล่นเพื่อความตื่นเต้นด้วย หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดที่จะเพิ่มผลกำไรคือการตั้งเป้าหมายและสร้างภาพในจิตใจ เพื่อที่จะจัดวางจิตสำนึกและจิตใต้สำนึกให้เหมาะสมกับการทำกำไร
๓๖) คนที่ต้องการจะชนะแต่ขาดทักษะ จะสามารถหาใครบางคนที่มีทักษะมาช่วยเขาได้
ระบบเทรด
สารภาพว่าผมไม่เข้าใจสูตรของแกเลย คือเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อจับจังหวะตลาด เข้าใจยากมากสำหรับสมองรากหญ้าอย่างผม ก็เลยไม่ขออธิบายครับ เพราะตตัวเองก็ไม่ได้ใช้
หากท่านสนใจก็เข้าไปอ่านจากเว็บเหล่านี้ครับ
- ระบบแนวรับแนวต้านของ "Ed Seykota"
อ่านเพิ่มเติม
http://maomik.blogspot.com/2015/01/seykota.html
- http://www.seykota.com เว็บของแกเองครับ สูตรเพียบ
ของแมงเม่าคลับก็มีนะ แต่เมื่อกี้เข้าไปดูพบว่า โดน redirect ไปเว็บอื่น โดนแฮ็คหรือเปล่า?
- (แถม) เทคนิคอล เป็นแค่ “ปาหี่” แบบเขาว่าจริงหรือ???
http://www.cwayinvestment.com/2013/08/blog-post.html
-
48 ปรัชญาการเทรด ของ Stock Market Wizards
-
21 กฏการเทรดของ Stuart Walton : Stock Market Wizards
-
33 ปรัชญาการเทรด ของ Hedge Fund Market Wizards
-
สรุปหนังสือ Market Wizards - พ่อมดก็เคยเจ๊งหุ้นมาก่อน
-
บทสัมภาษณ์ Mark Minervini : วิธีหาหุ้น Superperformance
(แนะนำเพิ่มเติม ความรู้การเทรดหุ้นของฟรี)
หากต้องการศึกษาวิธีเล่นหุ้น แนะนำให้ไปอ่านบทความฟรี คลิปฟรีที่นี่ก่อนก็ได้
ส่วนนี่เป็น ช่องยูทูป ของผมเอง ดูฟรีเช่นกันครับ
และนี่เป็นหนังสือเล่มของผมเองครับ