วันนี้อยากทำบทความขนาดยาวระดับมหากาพย์
เพื่อแนะนำวิธีอ่านกราฟหุ้นเบื้องต้นสำหรับมือใหม่ครับ
ก็อย่าคิดว่าเป็นการสอนเลยนะครับ เป็นแค่การบอกวิธีคร่าวๆเท่านั้น
ผมหวังใจว่า ถ้าท่านดูกราฟเป็นบ้าง
มันจะช่วยให้ท่านได้จุดซื้อและขาย ที่ดีกว่าเดิมครับ
โดยผมจะมีลิ้งค์ให้ท่านอ่านเพิ่มเติมท้ายแต่ละหัวข้อ
รับรองว่า อ่านบทความนี้จบ และทำความเข้าใจมันได้
คุณจะเห็นค่าและใช้ประโยชน์จากกราฟหุ้นได้ดีขึ้นแน่นอนครับ
********
(ขอแนะนำงานเขียนใหม่ล่าสุดครับ)
๑. เล่มนี้จะเปิดเผยอีกด้านของการเทรดแนวเทคนิคอล
จากมุมมองของนักเทรดประสบการณ์ 10-40 ปี
ว่าเขามองการวิเคราะห์ทางเทคนิคว่ายังไงบ้าง มีจุดแข็งอยู่ตรงไหน?
อะไรคือจุดอ่อนของเทคนิคอล แล้วจะใช้งานมันยังไงเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด?
๒. ทำไมทั้งที่ใช้อินดิเคเตอร์ตัวเดียวกัน หรือใช้ Price Pattern ก็ตัวเดียวกัน
...แต่ทำไมนักเทรดมือโปรได้กำไรสม่ำเสมอ?
...ทว่ามือใหม่กลับเอาตัวไม่รอด...ขาดทุนซ้ำซาก?
ปัญหามาจากเทคนิคอล? หรือมาจากส่วนอื่นกันแน่?
๓. นำเสนออีกมุมของเทคนิคอล ที่ไม่มีใครบอกคุณตรง ๆ ว่าแท้จริงแล้วเทคนิคอล
...เทคนิคอลไม่ได้สวยหรู ไม่ได้มหัศจรรย์หรือเป็นสูตรวิเศษอะไรเลย?!
... มือโปรไม่ได้มองแบบที่มือสมัครเล่นมองเลยแม้แต่น้อย!!
๔. ไม่เหมาะสำหรับคนที่บูชาเทคนิคอลแบบงมงาย
...ไม่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการรวยเร็ว ๆ จากการเทรด
... แต่เหมาะสำหรับคนที่อยากใช้เทคนิคอลให้ถูกต้องแบบที่มือโปรเขาใช้กันเป็นบรรทัดฐานครับ
eBook :
การวิเคราะห์ทางเทคนิคที่นักเทคนิคอลมือโปร ประสบการณ์ 10 ปี++ อยากบอกมือใหม่ รู้ก่อน...รอดก่อน มีขายที่ mebmarket นะครับ ตามลิงค์นี้นะ
http://bit.ly/436mRyO
***********
ปล. เรื่องนี้ ผมเคยเขียนไว้ในหนังสือ "หุ้นขาขึ้นรอบใหญ่" มาครั้งหนึ่งแล้วครับ
ก็ขอใช้บทความนี้ได้ update ให้มีเนื้อหาทันสมัยขึ้นอีกนิดก็แล้วกันนะ
ใครอยากอ่านบทเต็มๆ ยาวกว่านี้ ก็ไปเปิดหนังสือดูได้ครับ
13 คำถามที่นักเทคนิคอลควรตอบตัวเองให้ได้เมื่อเปิดกราฟขึ้นมาดู
การอ่านชาร์ทหรือกราฟเหมือนเป็นศิลปะ ถ้าจะให้เชี่ยวชาญระดับเซียนต้องใช้เวลาศึกษาหลายปี
บางคนอาจไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องดูกราฟกันด้วยล่ะ?
คำตอบคือ มันจะช่วยให้สามารถตรวจสอบว่า รายใหญ่ (Big money) กำลังทำอะไรอยู่น่ะสิ
คุณต้องวิเคราะห์และสรุปว่าจะมีโอกาส เสี่ยงหรือยากลำบากมั้ยถ้าจะทำเงินให้ได้จากมัน
และนี่คือสิ่งที่แยกระหว่างเทรดเดอร์มือใหม่จากมืออาชีพ
มีปัจจัยหลายอย่างในกราฟที่ทำให้คุ้มค่าในการเข้าเทรด โดยการวิเคราะห์ปัจจัยเหล่านี้เราสามารถตรวจสอบหุ้นที่มีโอกาสสูงที่จะวิ่งไปต่อหรือจบรอบ
พอเปิดกราฟขึ้นมาดู เทคนิคอลเทรดเดอร์ที่เชี่ยวชาญจริงๆ
ต้องคำถามเหล่านี้ให้ได้ทั้งหมด และในเวลาอันรวดเร็วด้วย
1. ตอนนี้ราคาหุ้นอยู่ในแนวโน้ม(เทรนด์)ขาขึ้นหรือขาลง ?
2. ราคาหุ้นอยู่ในต้นเทรนด์ กลาง หรือปลาย ?
วิธีดูต้นเทรนด์ของผมคือ ดู price pattern หรือการสร้างฐานราคาครับ
ถ้ามันเพิ่ง breakout แนวต้านของฐานราคา หรือ price pattern แสดงว่ายังเป็นต้นเทรนด์อยู่
นี่เป็นรูปแบบของการกลับตัวจากขาลง
เป็นต้นเทรนด์
ส่วนนี่เป็นรูปแบบต้นเทรนด์ในช่วงกลางเทรนด์ครับ
เป็นการพักเหนื่อยระหว่างทาง ก่อนไปต่อ
ภาพจากหนังสือ หุ้นขาขึ้นรอบใหญ่
ส่วนปลายเทรนด์คือ การวิ่งแรงแท่งเขียวยาวติดต่อกัน
ราคาวิ่งห่างจากเส้นค่าเฉลี่ยมากๆ
ช่วงนั้นราคาจะเด้งแรง แกว่งกว้าง
ไม่สามารถยืนจุดสูงสุดใหม่ได้ แบบนี้แหละที่เป็นช่วงปลาย
จะมีรูปทรงที่เรียกว่า top pattern ต่างๆ
ภาพจากหนังสือ หุ้นขาขึ้นรอบใหญ่
จากนั้นก็หลุด EMA50 ลงไปครับ
เขาเรียกว่าเป็นช่วง "ฟองสบู่" หรือ excess phase
หรือบางสูตรก็บอกว่าเป็นช่วงแจกจ่าย
อ่านเพิ่มเติม
-
หุ้นจบรอบ ดูยังไง?
3. แนวโน้มแข็งแรงมั้ย ?
ดูความชันของเส้นค่าเฉลี่ยได้ครับ
ความห่างของราคากับเส้นค่าเฉลี่ยก็บอกได้
ห่างมาก แข็งแรงมาก ห่างน้อยก็อ่อนแรง
4. Trend line อยู่ตรงไหน ?
ท่านต้องลากมันขึ้นมาเองครับ
วิธีการคือ ลากพาดจากจุดต่ำสุด 2 จุด (ถ้าเป็นขาขึ้น)
ถ้าเป็นขาลงก็ลากพาดจุดสูงสุด
ประโยชน์ของ trenline ก็มีหลายอย่าง
- ใช้ดูแนวโน้มได้ ถ้าราคาทำจุดต่ำสุดที่ยกสูงขึ้น ลาดเส้น trendline เฉียงขึ้น ก็คือ แนวโน้มขาขึ้น
แต่จุดสูงสุดลดต่ำลงไปเรื่อยๆ ก็จะกลายเป็นแนวโน้มขาลง
- ประโยชน์อีกอย่างคือ บางคนก็ใช้ดูเป็นจุดเปลี่ยนแนวโน้ม
ถ้าแท่งราคาทะลุ trendline ขาลงขึ้นไปได้ ก็มีโอกาสเปลี่ยนเนวโน้ม
แบบนี้
5. Moving Average บอกอะไรคุณบ้าง ?
เส้นค่าเฉลี่ย หรือ moving average นั้น ก็เหมือน trendline เลยครับ
เราใช้ดูความแข็งแรงของแนวโน้ม ซึ่งอธิบายไว้ในข้อ 3 ไปแล้ว
อ่านเพิ่มเติม
-
Magic line เพื่อนร่วมทางที่ซื่อสัตย์ของ trend follower
-
เส้น EMA ที่เทรดเดอร์เทพนิยมใช้
-
แกะเคส KTC ส่วนประกอบของแนวโน้มขาขึ้น
และหนังสือ หุ้นซิ่ง สวิงเทรด
6. มี breakout ที่เพิ่งเกิดในระยะเวลาไกล้ๆนี้บ้างมั้ย ?
การ breakout บอกถึงการเริ่มต้นแนวโน้มครับ แบบที่ว่าไว้ในข้อ 2
ทุกครั้งที่มีการ breakout ขึ้นไป มันเป็นการบอกว่า แนวโน้มยังคงอยู่
ถ้ายังไม่มี ท่านก็สามารถลากรอได้แบบนี้
อ่านเพิ่มเติม
-
๒ เทคนิคเข้าซื้อหุ้นที่ผมใช้ และข้อควรระวัง
หนังสือหุ้นซิ่ง สวิงเทรด
7. มี pattern บ้างหรือเปล่า ?
pattern ก็คือการสร้างฐานราคานั่นเองครับ
มันเป็นช่วงที่ราคาพักเหนื่อย เพื่อสะสมกำลัง ก่อนที่จะไปต่อ
ทรงของมันก็มีแบบนี้
ถ้าท่านหาเจอ ก่อนที่มันจะ breakout ก็สามารถได้หุ้นต้นเทรนด์ที่พร้อมวิ่งทำกำไรให้ทันทีครับ
นอกจากนี้ ท่านสามารถดูการเด้งจากเส้นค่าเฉลี่ยได้เช่นกันครับ
คือราคาจะค่อยๆย่อลงมาหาเส้นค่าเฉลี่ย แล้วเด้งขึ้นไป
แบบนี้เขาเรียกว่าการบีบตัว ท่านลาก trendline พาดแล้วซื้อได้ เช่น
อ่านเพิ่มเติม
-
แนวทางการซื้อหุ้นระหว่างขาขึ้น
-
Wyckoff Logic ของดีที่เม่ามือใหม่เอาไปใช้ได้ง่ายๆ
-
แชร์หลักการหาหุ้นเล่นจาก Top Gainer แบบเม่าๆ
-
มโน Darvas Box หน้าตาจะเป็นยังไง?
-
Relative Strength กับ Base นั้น สัมพันธ์กันแบบไหน?
8. มีแท่งเทียนยาวๆ เกิดในทิศทางเดียวกับเทรนด์มั้ย ?
เทรนด์มีอยู่แค่ ๒ แบบ คือ ขาขึ้นกับขาลง
ถ้าเป็นขาขึ้น แท่งเขียวยาวในทางขึ้นต้องมีติดต่อกัน
เบื้อต้นง่ายๆ ผมแนะนำให้ใช้ EMA50 เป็นไกด์
ถ้ามันวิ่งเฉียงขึ้น คือเป็นขาขึ้น
แท่งเทียนเขียวยาวต้องมีติดต่อกัน เพื่อให้ราคาทำจุดสูงสุดได้ต่อเนื่อง
เพื่อดำรงความเป็นขาขึ้น
ส่วนใหญ่แล้วแท่งเทียนเขียวยาว มักจะเกิดตอนที่ breakout และจากนั้น
ซึ่งคนที่ทำได้ คือ smart money นั่นเองครับ
โดยจะมาในรูปแบบของ สถาบัน, รายใหญ่, เจ้ามือ หรือ วีไอเทพก็ได้
ดู TITLE อีกครั้ง
ตัวแทนของขาลง
AU ทำให้ดูทั้งสองเทรนด์เลย ทั้งขาขึ้นและขาลง
อ่านเพิ่มเติม
-
สัญญาณการเปิดเกมส์ของ Smart money
-
XO : Smart Money & High Tight Flag
หนังสือหุ้นซิ่ง สวิงเทรด
9. มี gap เกิดในทิศทางเดียวกับเทรนด์มั้ย ?
gap บ่งบอกถึงความกระตือรือล้น อยากซื้อ หรือยากขายครับ
gap ก็เหมือนแท่งเทียนยาวนั่นแหละครับ
ถ้าเห็นทั้งคู่เกิดก็รู้เลยว่า แนวโน้มนั้นยังแข็งแกร่ง
คือถ้าเป็นขาลง ก็ลงได้อีก
เช่น CBG
ขาขึ้น ก็แบบ WORK
อ่านเพิ่มเติม
-
Earnings Gap คืออะไร? โอกาสและความเสี่ยง
-
Breakaway Gap Winning & Losing Trade : RPH vs WPH
-
SYNEX รอบใหญ่เริ่มที่ Gap
-
รวมบทความที่เกี่ยวกับ Gap
10. แรงขายจากมืออาชีพเยอะมั้ย หรือ แรงซื้ออ่อนแอ ?
ดูที่ความยาวของแท่ง กับวอลุ่ม มืออาชีพหุ้นเยอะเงินหนา
เวลาขายจะแสดงออกผ่านวอลุ่ม และแท่งราคาที่ยาว
แบบนี้ตลาดได้สื่อว่า การเป็นขาลงขั้นรุนแรงเริ่มขึ้นแล้วครับ
เพราะถ้าไม่มีมืออาชีพพยุงหุ้น พากันขายออก แนวโน้มจะเสียทันที
เพราะราคาจะลงแรงมาก การขาดทุนครั้งใหญ่ของคนติดดอยกำลังลุกลาม
11. แนวรับและแนวต้านอยู่ตรงไหน ?
ดูประวัติของมันครับ จากการทำไว้ในอดีต
เราดูแนวต้าน เพื่อใช้เป็นจุดสังเกตสำหรับขาย หรือซื้อก็ได้
แนวรับ ดูเพื่อให้รู้ว่า แนวโน้มยังแข็งแรงอยู่มั้ย บางคนก็ใช้เป็นจุดซื้อ และขายได้เช่นกัน
แนวรับ มีทั้งเป็นจุดต่ำสุดเดิม หรือเส้นค่าเฉลี่ยก็เป็นแนวรับได้
แนวต้าน มีทั้งเป็นจุดสูงสุดเดิม หรือเส้นค่าเฉลี่ยก็เป็นแนวต้านได้
อ่านเพิ่มเติม
- ซีรี่ย์ ใช้งาน แนวรับ-แนวต้าน อย่างมืออาชีพ ของเว็บ aommoney รอบด้านมาก
ตอนที่ 1,
ตอนที่ 2,
ตอนที่ 3
12. วอลุ่มบอกอะไรคุณบ้าง ?
วอลุ่มบอกถึงความรุนแรงของการเคลื่อนไหวราคาครับ
ก็ใช้ดูแบบข้อ 11 นั่นแหละครับ ใช้ดูรอยเท้าของ มืออาชีพ หรือรายใหญ่ หรือสถาบัน
เพราะพวกเขาเงินเยอะ และสามารถชี้เป็นชี้ตายให้ราคาหุ้นได้
ถ้าราคาวิ่งขึ้น พร้อมวอลุ่มสูง ตอนที่ราคา breakout ก็สื่อว่า รายใหญ่ เข้าเล่นแล้ว
ในทางตงข้าม ถ้าราคาร่วง วอลุ่มเยอะ ก็บอกว่า รายใหญ่ เทหุ้นออกแล้ว ลงเละแน่นอน
เช่น AH ดูที่ผมชี้ ช่วงขาขึ้นนั้น วอลุ่มต้องมีครับ
เพราะมันเป็นเหมือนเชื้อเพลิงให้กับแนวโน้ม
อ่านเพิ่มเติม
-
วอลุ่มคืออะไร
-
วอลุ่มและการยืนยันขาขึ้น
นี่แหละครับ 12 ข้อพื้นฐานที่เราควรหาข้อมูลจากกราฟ
ถ้าได้ข้อมูลที่เพียงพอ ก็จะได้ประโยชน์ เห็นโอกาสและความเสี่ยงจากการเคลื่อนไหวของราคาได้ครับ
แรกๆก็ดูเหมือนจะยากแหละครับ เพราะเยอะ
แต่ถ้าทำจนเป็นนิสัยไปแล้ว แค่เหลือบตาดู สแกนแว๊บเดียวก็รู้แล้วว่ามันน่าเล่นหรือไม่น่าเล่น
ที่ผมสามารถแนะนำชี้จุดให้ท่านได้หมดทุกข้อ เพราะทำมาจนชินแล้วนี่เองครับ
ลองดูครับ ไม่ยาก แค่ทำสม่ำเสมอ เดี๋ยวก็คล่อง
บางทียังไม่ต้องคล่องหรอก แค่ทำตามขั้นตอน มุมมองคุณจะเปลี่ยนไปเลย
คุณจะดูเชียวชาญกว่าเพื่อนเม่าคนอื่นไปทันที
การันตีครับ เพราะผมทำมาแล้ว
(แถม) ดูกราฟหุ้นที่ไหน?
โดยปกติแล้ว โบรคเกอร์จะมีโปรแกรมดูกราฟให้ทุกท่านที่เปิดบัญชีฟรีนะครับ
ส่วน.หญ่จะเป็น Aspen กับ eFin ท่านก็ลองไปใช้ได้
ตอนนี้ใน streaming ก็ยังมีให้เลยครับ
แต่ถ้าหากเปิดไม่เป็น ก็ลองใช้ของเว็บฟรีได้ ดังนี้
๑)
siamchart.com
๒)
bidschart.com